26 สิงหาคม ได้รับการยกย่องให้เป็น “วันสุนัขโลก” เจ้าตูบสี่ขาที่เป็นมากกว่าสัตว์เลี้ยง แถมยังช่วยเยียวยาจิตใจผู้คน จนเรียกว่าเป็นเพื่อนที่ซื่อสัตย์ของมนุษย์มาเนิ่นนาน
ย้อนเวลากลับไป สุนัขเป็นสัตว์ในตระกูลหมาป่า พวกมันถูกมนุษย์นำมาเลี้ยงตั้งแต่เมื่อ 12,000 ปีก่อน จากสัตว์ที่มนุษย์เลี้ยงไว้เพื่อใช้ในการล่าสัตว์อื่น รวมทั้งใช้แรงงาน ปัจุบันพวกมันกลายเป็นสัตว์เลี้ยงประจำบ้านของผู้คน และหลายต่อหลายครั้งที่ปรากฏเป็นเรื่องราวประทับใจ
ไทยพีบีเอส ขอนำเรื่องราวสุนัขทั้งสี่ตัว ที่แม้จะต่างกรรม ต่างวาระ แต่พวกมันล้วนสร้างความประทับใจ และเป็นที่จดจำของผู้คน มาบอกเล่ากัน
1. “ไลกา” สุนัขท่องอวกาศตัวแรกของโลก
เราคุ้นชินกับภาพมนุษย์ขึ้นไปสำรวจยังอวกาศ แต่ในความจริงแล้ว สิ่งมีชีวิตที่ถูกส่งไปในอวกาศครั้งแรก กลับกลายเป็นสุนัขตัวเล็ก ๆ ตัวหนึ่ง มันมีชื่อว่า ไลกา (Laika)
ไลกาเป็นสุนัขจรที่ถูกเก็บมาเลี้ยง และถูกฝึกให้ต้องขึ้นไปยังอวกาศ โดยภารกิจสำคัญของมัน คือการเดินทางไปกับยานสปุตนิก 2 เพื่อทดสอบเรื่องความปลอดภัย หากจะนำสิ่งมีชีวิตเข้าไปในยานอวกาศ
สปุตนิก 2 ขึ้นสู่อวกาศเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 1957 แม้ภารกิจจะผ่านไปด้วยดี แต่สิ่งที่น่าเศร้าคือ เจ้าไลกาเสียชีวิตลงขณะอยู่ในยาน โดยมีรายงานว่า มันสิ้นลมหายใจตั้งแต่ยานถูกส่งขึ้นไปในอวกาศราว 2 ชั่วโมง สาเหตุเกิดจากความเครียด รวมทั้งทนกับสภาพความร้อนที่สูงขึ้นภายในยานไม่ไหว
แม้การตายของไลกาจะเป็นเรื่องน่าเศร้า แต่เจ้าสุนัขสายพันธุ์ฮัสกีตัวนี้ ได้สร้างคุณูปการต่อมนุษยชาติอย่างมาก เพราะข้อมูลที่ได้จากการทดสอบครั้งนั้น เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญต่อการพัฒนาให้สิ่งมีชีวิต สามารถขึ้นสู่วงโคจรและทนต่อสภาวะไร้น้ำหนักได้ในเวลาต่อมา
2. “ฮาจิโกะ” สุนัขที่รอเจ้านายจนวันสุดท้ายของชีวิต
สุนัขได้ชื่อว่าเป็นสัตว์เลี้ยงที่มี “ความซื่อสัตย์” เป็นที่สุด และครั้งหนึ่ง เคยมีเรื่องราวความซื่อสัตย์ของเจ้าตูบที่สร้างความประทับใจผู้คนไปทั่วโลก
สุนัขตัวนี้มีชื่อว่า ฮาจิโกะ (Hachiko) เป็นสุนัขสีน้ำตาลทอง สายพันธุ์อาคิตะ อินุ (Akita Inu) มันเกิดในช่วงปี 1923 ในฟาร์มที่เมืองโอดาเตะ ประเทศญี่ปุ่น โดยมีเจ้าของชื่อ ศาสตราจารย์เอซะบุโร อุเอโนะ อาจารย์แห่งมหาวิทยาลัยอิมพีเรียล เป็นผู้เลี้ยงดู
ในทุก ๆ วัน ฮาจิโกะจะเดินตามเจ้านายไปที่สถานีรถไฟชิบุยา กรุงโตเกียว เพื่อส่งอาจารย์ขึ้นรถไฟ และมันจะคอยอยู่ตรงนั้นจนกระทั่งบ่ายสามโมง เพื่อรอรับเจ้านายกลับจากสอนหนังสือ ฮาจิโกะทำอย่างนี้ทุกวัน จนกลายเป็นภาพอันคุ้นเคยของผู้คน
แต่แล้ววันหนึ่ง เจ้านายที่รักกลับประสบกับอาการเส้นเลือดในสมองแตกขณะสอนหนังสือ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ฮาจิโกะออกมารอการกลับมาของเจ้านายเหมือนเช่นทุกวัน แต่เจ้านายไม่เดินทางกลับมาเหมือนเคย ซ้ำร้าย เขาไม่สามารถกลับมาหาฮาจิโกะได้อีกแล้ว
หลังการเสียชีวิตของ อ.อุเอโนะ ฮาจิโกะพยายามหนีออกจากบ้านเพื่อไปรอรับเจ้านายเช่นเดิม แม้จะถูกนำไปให้ญาติช่วยเลี้ยง แต่ฮาจิโกะก็ยังหนีออกมารอรับเจ้านาย มันรอ รอ และรอ ทำอย่างนี้ตลอด 9 ปี จนกระทั่งถูกพบเป็นร่างหมดลมหายใจ ณ สถานีรถไฟแห่งนั้นเอง
เรื่องราวของฮาจิโกะถูกนำไปสะท้อนถึงความซื่อสัตย์ในหมู่ชาวญี่ปุ่น พร้อมสร้างอนุสาวรีย์ให้ที่สถานีรถไฟชิบูยา แถมเรื่องราวของมันยังถูกนำไปสร้างเป็นภาพยนตร์ในชื่อเรื่อง Hachi A Dog's Tale เมื่อปี 2009 อีกด้วย
3. “โบบี้” สุนัขอายุยืนที่สุดในโลก
แม้อายุขัยเฉลี่ยของสุนัขจะอยู่ที่ 8 – 16 ปี แต่มีสุนัขที่อายุยืนยาวมากกว่านั้น Guinness World Records เคยบันทึกไว้ว่า สุนัขที่มีอายุยืนที่สุดในโลก ณ ขณะนี้ มีอายุมากถึง 31 ปี
สุนัขตัวนี้มีชื่อว่า โบบี (Bobi) เป็นสุนัขในประเทศโปรตุเกส มันทำลายสถิติสุนัขที่อายุยืนที่สุดในโลกตัวเดิม “บลูอี” สุนัขเลี้ยงวัวที่ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งมีอายุราว 29 ปี 5 เดือน
โบบีเพิ่งมีอายุครบ 31 ปีไปเมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา (โบบีเกิดวันที่ 11 พฤษภาคม 1992) มันอาศัยอยู่ที่เมืองไลเรียในโปรตุเกส โดยมีเจ้าของชื่อ ลิโอเนล คอสตา ตอนที่โบบีเกิดมา พ่อของคอสตาไม่ต้องการเลี้ยงดูมันและพี่น้องในครอกเดียวกัน
โชคดีมาก ๆ ที่โบบีถูกแม่ของมันคาบไปซ่อนเอาไว้ในกองไม้ ทำให้รอดพ้นจากความตายมาได้ เมื่อคอสตาไปพบเข้า จึงนำมันไปแอบซ่อนเอาไว้ แต่หลังจากนั้น โบบีก็ได้รับการเลี้ยงดูฟูมฟักจากคอสตาอย่างดี จนผ่านไปกว่า 31 ปี
โบบีเป็นสุนัขพันธุ์ราแฟโร โด อเลนเตโจ (Rafeiro Do Alentejo) ซึ่งปกติจะมีอายุเฉลี่ย 12 – 14 ปี แต่สำหรับโบบี มีอายุขัยเฉลี่ยมากกว่าถึง 2 เท่า เรื่องนี้อาจเป็นเพราะมันอยู่ในสภาพแวดล้อมที่เงียบสงบ ห่างไกลจากตัวเมือง ที่สำคัญคือ มันได้กินอาหารแบบเดียวกับที่คนในบ้านกิน แถมพวกเขายังไม่เคยล่ามมัน ปล่อยวิ่งอย่างอิสระในป่ารอบบ้านนั้นเอง
ทุกวันนี้แม้โบบีจะเป็นสุนัขชรา และเริ่มเดินเหินไม่สะดวก แต่มันก็ยังมีความสุขอยู่กับครอบครัวที่ให้ชีวิตและดูแลมันอย่างดี
4. “เตี้ย มช.” สุนัขในตำนานขวัญใจคนรักสัตว์
มีสัตว์เลี้ยงชื่อดังมากมายในเมืองไทย แต่หากเอ่ยชื่อ “เตี้ย มช.” รับรองว่า บรรดาคนรักสัตว์ทั่วเมืองไทยต้องคุ้นเคยเป็นอย่างดี
เตี้ย มช. เป็นสุนัขพันธุ์ทางที่เข้ามาอยู่ในความดูแลในคณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ราวปี 2558 ด้วยลักษณะขาที่สั้น ตัวเตี้ย จึงเป็นที่จดจำ แถมมันยังมีอุปนิสัยเข้ากับคนได้ง่าย เป็นที่มาของฉายา “พี่เตี้ย มช.”
พี่เตี้ยเคยสร้างวีรกรรมที่ชาว มช.ต้องจดจำ นั่นคือ ร่วมวิ่งขึ้นดอยไปกับนักศึกษา ในประเพณีการรับน้องของมหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ทำให้ชื่อเสียงของมันเป็นที่เลื่องลือ โด่งดังถึงขนาดมีแฟน ๆ เปิดเฟสบุกเพจ “เตี้ย มช.” โด่งดังไปทั่วประเทศ
ทว่าในปี 2563 เกิดข่าวร้าย เมื่อจู่ ๆ พี่เตี้ยก็หายตัวไป จนมีการออกตามหาตัว และพบว่า พี่เตี้ยสิ้นลมหายใจตายอยู่ป่าละเมาะข้างทาง เรื่องนี้กลายเป็นข่าวใหญ่และสร้างความสะเทือนใจต่อคนรักสัตว์ทั้งประเทศ
อ่านข่าว “เตี้ย มช.”
-เศร้า! "เตี้ย มช." สุนัขแสนรู้วิ่งขึ้นดอยตายแล้ว
-ผลชันสูตร "เตี้ย มช." ถูกกระแทกรุนแรงก่อนตาย
-ตชด.ให้ "ส.ต.ท." ออกราชการ ปม “เตี้ย มช.” ตาย
-ย้อนคดีศาล ตัดสินจำคุก 6 เดือน ไม่รอลงอาญา จำเลยคดีทารุณกรรมสัตว์ "เตี้ย มช."
ต่อมามีการสืบสวนหาสาเหตุการตาย จนพบตัวผู้ต้องหาที่เป็นสาเหตุให้ เตี้ย มช. เสียชีวิต ผลการดำเนินคดีกินระยะยาวมาถึงปี 2566 จนล่าสุดเมื่อ 25 กรกฎาคมที่ผ่านมา ศาลจังหวัดเชียงใหม่มีผลพิพากษา ลงโทษจำคุกจำเลย 6 เดือนในข้อหาทารุณกรรมสัตว์ โดยไม่รอลงอาญา ปิดตำนานคดีสะเทือนใจคนรักสัตว์ได้ในที่สุด
เป็นตัวอย่างเรื่องราว 4 สุนัขที่ทัชใจผู้คน วันสุนัขโลกนี้ คงไม่มีของขวัญชิ้นใดจะดีไปกว่า การมอบความรัก ความเมตตา และมอบคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับเพื่อนรักสี่ขากัน…
แหล่งข้อมูล
-www.smithsonianmag.com
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
-26 ส.ค. “วันสุนัขโลก” ยกย่องเพื่อนซื่อสัตย์ เหล่าฮีโร่สี่ขา