วันนี้ (16 เม.ย.2568) นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) เปิดเผยว่า สืบเนื่องจากกรณีที่มีประชาชนบางกลุ่ม นำรถยนต์เข้ามาจอดในเขตพื้นที่ของการรถไฟฯ บริเวณย่านสถานีพิษณุโลก โดยจอดล้ำเข้ามาในเขตโครงสร้างทางรถไฟ ซึ่งคาดว่าน่าจะเร่งรีบนำรถยนต์มาจอดเพื่อที่จะไปร่วมกิจกรรมเล่นน้ำสงกรานต์นั้น ส่งผลให้กีดขวางการเดินรถจักรที่กำลังวิ่งเข้าไปเติมน้ำมัน ทำให้ไม่สามารถเคลื่อนตัวต่อไปได้
พนักงานขับรถจักรจึงต้องชะลอความเร็ว พร้อมทั้งเปิดหวูดและเปิดไฟหน้าหัวรถจักรเพื่อเตือนให้ผู้ที่อยู่ในบริเวณดังกล่าวทราบ ขณะเดียวกัน นายสถานีเองก็ได้ประกาศแจ้งตามหาเจ้าของรถเพื่อให้รีบมาขยับรถออกจากพื้นที่ด้วย โดยใช้เวลาประมาณ 10 นาที จึงสามารถเปิดทางให้หัวรถจักรวิ่งต่อไปได้

ทั้งนี้ แม้กรณีดังกล่าวจะไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือสูญเสียชีวิตและทรัพย์สินก็ตาม แต่ไม่อยากให้ประพฤติอยู่บนความประมาท เพราะหากขบวนรถไฟดังกล่าวมีผู้โดยสาร ก็อาจจะส่งผลให้ขบวนรถไปถึงปลายทางล่าช้า กระทบต่อแผนการเดินทางของผู้ที่อยู่บนรถไฟได้
ผู้ว่าการรถไฟฯ กล่าวว่า ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง เร่งประสานกับหน่วยงานในท้องที่ เพื่อพิจารณาจัดทำรั้วกั้นเพื่อป้องกันเหตุโดยเร็ว อย่างไรก็ตาม เบื้องต้นได้ให้เจ้าหน้าที่นำเชือกมากั้นเป็นการชั่วคราว รวมทั้งติดป้ายห้ามจอดรถบริเวณดังกล่าว และให้ประชาสัมพันธ์ประกาศแจ้งอย่างต่อเนื่อง เพื่อความปลอดภัยสูงสุดของผู้ใช้บริการ

การรถไฟฯ ขอความร่วมมือจากประชาชน งดเว้นการจอดรถในเขตทางรถไฟ และพื้นที่ห้ามจอด รวมทั้งขอให้ตระหนักถึงความปลอดภัย ด้วยการปฏิบัติตามกฎระเบียบจราจรอย่างเคร่งครัด หลีกเลี่ยงพฤติกรรมที่อาจนำไปสู่การเกิดอุบัติเหตุ
อย่างไรก็ตาม การรถไฟฯ ได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ประจำพื้นที่ต่าง ๆ เพิ่มความถี่ในการตรวจตราดูแลจุดเสี่ยง และอำนวยความสะดวกตลอด 24 ชั่วโมง เพื่อให้เทศกาลสงกรานต์ปีนี้เป็นไปด้วยความปลอดภัย ไร้อุบัติเหตุ โดยตั้งศูนย์ปลอดภัยในส่วนกลาง 1 แห่ง และส่วนภูมิภาค 5 เขต ดังนี้ เขต 1 ที่สถานีกรุงเทพ(หัวลำโพง), เขต 2 ที่สถานีนครราชสีมา, เขต 3 ที่สถานีศิลาอาสน์, เขต 4 ที่สถานีชุมพร และเขต 5 ที่สถานีชุมทางหาดใหญ่ ทั้งนี้ เพื่อเฝ้าระวังและป้องกันการเกิดอุบัติเหตุที่อาจส่งผลกระทบต่อชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในช่วงเทศกาลสงกรานต์ 2568
อ่านข่าว : สงกรานต์คึกคัก ต่างชาติเข้าไทย เที่ยวสงกรานต์วันละเกือบแสนคน