วันนี้ (16 เม.ย.2568) รัฐบาลมัลดีฟส์ ระบุผ่านสื่อสังคมออนไลน์ ห้ามผู้ถือหนังสือเดินทางอิสราเอลเดินทางเข้าประเทศ ซึ่งจะมีผลบังคับใช้ทันที เพื่อยืนยันจุดยืนต่อต้านความโหดร้ายและการฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวปาเลสไตน์โดยอิสราเอลที่ยังคงดำเนินอยู่อย่างต่อเนื่อง
ความเคลื่อนไหวในครั้งนี้ เกิดขึ้นหลังรัฐบาลมัลดีฟส์ตัดสินใจแก้ไขกฎหมายตรวจคนเข้าเมืองตั้งแต่เมื่อปี 2567 ทำให้ทางการอิสราเอลประกาศเตือนพลเมืองให้หลีกเลี่ยงการเดินทางไปมัลดีฟส์ ซึ่งปีที่แล้วมียอดเดินทางอยู่ที่ 11,000 คน
ก่อนหน้านี้ มัลดีฟส์อนุญาตให้ผู้ถือหนังสือเดินทางอิสราเอลเข้าประเทศได้ตั้งแต่ช่วงต้นปี 2533 และเคยพยายามฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูตกับอิสราเอลในปี 2553 ก่อนที่จะล้มเลิกไป
ฮามาสปัดข้อเสนอวางอาวุธแลกหยุดยิงของอิสราเอล
ส่วนสถานการณ์สงครามในกาซา ยังไม่มีทีท่าว่าจะสงบลง หลังกลุ่มฮามาสปฏิเสธข้อเสนอของอิสราเอลที่ให้หยุดยิงเป็นเวลา 6 สัปดาห์ และต้องปลดอาวุธทั้งหมด ซึ่งเจ้าหน้าที่ระดับสูงของฮามาส ระบุว่า ข้อเสนอของอิสราเอลไม่ได้ให้คำมั่นใดที่จะยุติสงคราม หรือถอนทหารออกจากกาซา เพื่อแลกกับการปล่อยตัวประกันที่ยังมีชีวิตอยู่ครึ่งหนึ่งกับอิสราเอล
ด้านเบนจามิน เนทันยาฮู นายกรัฐมนตรีอิสราเอล ระบุระหว่างเดินทางเยือนพื้นที่ทางตอนเหนือของกาซา ว่า อิสราเอลกำลังต่อสู้เพื่อการดำรงอยู่ของประเทศ พร้อมยืนยันว่าจะเอาชนะฮามาสและพาตัวประกันกลับบ้าน
ทั้งนี้ กองทัพอิสราเอลยังเดินหน้าโจมตีพื้นที่ในกาซาอย่างต่อเนื่อง นับตั้งแต่ข้อตกลงหยุดยิงระยะแรกสิ้นสุดลงเมื่อเดือน มี.ค.ที่ผ่านมา ขณะที่ยอดผู้เสียชีวิตในกาซานับตั้งแต่สงครามเริ่มขึ้นในปี 2566 เพิ่มสูงขึ้นถึง 51,000 คน
อ่านข่าว : สะพัด! "รัฐบาลทรัมป์" จ่อปิดสถานทูต-สถานกงสุล 30 แห่ง