นึกว่า เยาวราช จะเป็นแหล่งรวมของสายกินยามค่ำคืนเท่านั้น พอลองมาเป็นนักท่องเที่ยวตอนกลางวันดูบ้าง ย่านนี้ก็มีอะไรที่น่าสนใจในหลายมิตินะ โดยเฉพาะสายมู บอกเลยว่าอยู่ไม่ได้แล้ว ต้องรีบจัดทริปธรรมทัวร์ในตัวเมืองสักหนึ่งวัน และที่นั่นก็ต้องเป็น วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร แห่งนี้เท่านั้นด้วย
วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เป็นพระอารามหลวงชั้นโท ชนิดวรวิหาร เดิมชื่อ วัดสามจีน สัณนิษฐานว่ามีชาวจีน 3 คน สร้างขึ้นเพื่อเป็นวิหารทาน และได้มีการบูรณะวัดมาเป็นระยะ จนถึงปี พ.ศ. 2482 พ่อค้า ประชาชน คณะครู นักเรียน ได้ร่วมกันปฏิสังขรณ์พร้อมเปลี่ยนนามวัดใหม่และใช้มาจนถึงปัจจุบัน
เมื่อเดินเข้ามาใน พระมหามณฑป พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร ซึ่งสร้างขึ้นโดยประชาคมนักธุรกิจเขตสัมพันธวงศ์ ชุมชนชาวไทยเชื้อสายจีน ร่วมกับวัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร เนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 9 ทรงครองสิริราชสมบัติครบ 60 ปี (พ.ศ. 2549) และทรงเจริญพระชนมพรรษา 80 พรรษา (พ.ศ. 2550) จะพบกับพื้นที่จัดแสดงนิทรรศการ แบ่งออกเป็น 4 ชั้น
เราเลือกเดินขึ้นบันไดมาในชั้นที่ 4 ซึ่งเป็นชั้นบนสุด ประดิษฐาน พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร หรือ หลวงพ่อทองคำสุโขทัยไตรมิตร พระพุทธรูปทองคำบริสุทธิ์ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก จนหนังสือกินเนสบุ๊ค ฉบับปี ค.ศ. 1991 (พ.ศ. 2534) ได้ทำการประเมินค่าอย่างเป็นทางการในเดือนเมษายน ค.ศ. 1990 (พ.ศ. 2533) ว่ามีมูลค่าเฉพาะเนื้อทองคำสูงถึง 21.1 ล้านปอนด์ (อ้างอิง : http://wow.in.th/TE7L)
ไหว้พระขอพรเป็นที่เรียบร้อย แนะนำให้เดินย้อนลงมาในชั้นที่ 3 เพื่อชมการจัดแสดงนิทรรศการหลวงพ่อทองคำ ในชื่อ จากพุทธศิลป์สุโขทัย สู่พุทธสมัยปัจจุบัน แบ่งเป็น 10 หัวข้อ โดยลำดับเรื่องราวความเป็นมาของ พระพุทธมหาสุวรรณปฏิมากร หรือ หลวงพ่อทองคำสุโขทัยไตรมิตร ในความศรัทธาของพุทธศาสนิกชนจากอดีตจนถึงปัจจุบัน
และสุดท้าย ชั้นที่ 2 พื้นที่ศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช ในชื่อ ความรุ่งเรืองบนถนนสายทองคำ จัดแสดงนิทรรศการใน 6 หัวข้อ นับจากยุคก่อตั้งเยาวราชจนถึงเยาวราชในวันนี้ โดยรวบรวมข้อมูลจากปากคำของอากงอาม่าในย่านการค้าที่ใหญ่ที่สุดในกรุงเทพฯ ที่เรียกว่าเป็น ไชน่าทาวน์ของไทย แห่งนี้ มีการจำลองชุมชนชาวจีน ย่านสำเพ็ง – เยาวราช ที่มีพัฒนาการตั้งแต่กำเนิดชุมชนจีนแห่งกรุงรัตนโกสินทร์ (พ.ศ. 2325 – 2394) สู่ความเป็นย่านธุรกิจสมัยใหม่ที่ถนนเยาวราช และยังมีโมเดลขนาดใหญ่ที่จำลองถนนเยาวราชในยุคเฟื่องฟูที่สุดในปี พ.ศ. 2500
หนึ่งวันกับความสนุกปนความรู้ ที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกลแค่ในเมืองนี่เอง เดินทางก็ไม่ยาก เพียงเดินทางด้วย MRT ลงสถานีหัวลำโพง แล้วเดินเท้ามาอีกนิดหน่อย แม้วันหยุดจะมีน้อยก็เที่ยวตามที่ไกด์ให้ได้แล้ว แถมยังเหมาะที่จะพากันไปทั้งครอบครัวอีกด้วย
วัดไตรมิตรวิทยารามวรวิหาร
พิกัด : 661 ถนนเจริญกรุง แขวงตลาดน้อย เขตสัมพันธวงศ์ กรุงเทพมหานคร 10100
Google Map : https://goo.gl/maps/G7cfxVkjAgCVCDNaA
เบอร์โทรศัพท์ : 089-002 2700
นิทรรศการภายในอาคารพระมหามณฑปฯ และศูนย์ประวัติศาสตร์เยาวราช
เปิดบริการ : วันอังคาร - วันอาทิตย์ เวลา 08.00 – 17.00 น.
ค่าเข้าชม : ชาวไทยไม่เสียค่าเข้าชม | ชาวต่างชาติเก็บค่าเช้าชม 140 บาท
การเดินทาง : รถไฟฟ้า MRT สถานีหัวลำโพง ทางออกหมายเลข 1 และเดินเท้าประมาณ 5 นาที บนถนนมิตรภาพไทย-จีน สำหรับรถยนต์สามารถนำมาจอดได้ในพื้นที่จอดรถ ชั้นล่างของพระมหามณฑปฯ