ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

จบเกม! มัสก์ทิ้ง DOGE หลัง Tesla ร่วง 71% ทรัมป์เสียคู่หูคนสำคัญ

ต่างประเทศ
25 เม.ย. 68
16:48
236
Logo Thai PBS
จบเกม! มัสก์ทิ้ง DOGE หลัง Tesla ร่วง 71% ทรัมป์เสียคู่หูคนสำคัญ
อีลอน มัสก์ ประกาศลดบทบาทในทีมตัดงบประมาณ DOGE ของทรัมป์ หลัง Tesla เจอวิกฤตกำไรดิ่ง 71% ท่ามกลางคำถามว่าเขาจะออกจากตำแหน่งจริงหรือไม่ และอนาคตของ DOGE จะเป็นอย่างไรเมื่อไร้ผู้นำคนสำคัญ

วันนี้ (25 เม.ย.2568) วงการการเมืองและธุรกิจสหรัฐฯ กำลังเดือด เมื่อ อีลอน มัสก์ CEO ของ Tesla และหัวหอกของ Department of Government Efficiency (DOGE) ทีมตัดงบประมาณของ ปธน.โดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศว่าจะลดบทบาทในภารกิจนี้ หลังจาก Tesla รายงานผลกำไรไตรมาสแรกลดลงถึงร้อยละ 71 และยอดขายรถยนต์ไฟฟ้าตกฮวบร้อยละ 20

การตัดสินใจครั้งนี้จุดกระแสวิพากษ์วิจารณ์และคำถามว่า มัสก์จะทิ้ง DOGE ไปเลยหรือไม่ และทีมที่มหาเศรษฐีคนนี้เคยนำ จะเดินหน้าต่ออย่างไรในยุคที่ไร้ "เทคซูเปอร์สตาร์"

มัสก์แถลงในงานแถลงผลประกอบการของ Tesla เมื่อวันอังคารที่ผ่านมา (22 เม.ย.2568) ว่าเขาจะลดเวลาทำงานกับ DOGE ลงอย่างมากตั้งแต่เดือน พ.ค. โดยจะจัดสรรเวลาเพียง 1-2 วันต่อสัปดาห์ให้กับงานรัฐบาล เพื่อโฟกัสกับ Tesla มากขึ้น

ผมยังต้องทำต่อไปตลอดวาระของ ปธน.ทรัมป์ เพื่อป้องกันการคืนชีพของความสูญเปล่าและการฉ้อโกง

แต่คำพูดนี้กลับยิ่งสร้างความสับสน เพราะมัสก์ถูกแต่งตั้งเป็น "พนักงานพิเศษของรัฐบาล - SGE" ซึ่งมีข้อจำกัดให้ทำงานได้ไม่เกิน 130 วัน/ปี ตามกฎของสำนักงานจริยธรรมแห่งรัฐบาลสหรัฐฯ วันใดที่ SGE ทำงานให้รัฐบาล แม้เพียงเล็กน้อย จะนับเป็น 1 วันเต็ม โดยนับจากวันเข้ารับตำแหน่งของทรัมป์เมื่อ 20 ม.ค.2568 หากมัสก์ทำงาน 5 วัน/สัปดาห์ เขาจะถึงขีดจำกัด 130 วันในช่วงปลายเดือน พ.ค.

แต่การลดวันทำงานอาจยืดระยะเวลานี้ไปได้ และขีดจำกัดจะรีเซ็ตใหม่ใน ม.ค.2569 ทรัมป์เองก็ยืนยันว่าการจากไปของมัสก์เป็นส่วนหนึ่งของแผน และเขาจะคุยกับมัสก์ถึงเรื่องนี้ พร้อมปกป้องว่า "มัสก์ถูกปฏิบัติอย่างไม่เป็นธรรมจากสาธารณชน" และยกย่องมัสก์ว่าเป็นผู้รักชาติที่ยิ่งใหญ่

วิกฤต Tesla Takedown มัสก์ยอมถอยการเมือง

การตัดสินใจของมัสก์เกิดขึ้นท่ามกลางแรงกดดันมหาศาลจาก Tesla ซึ่งเผชิญกับพายุหมุนทั้งในแง่ผลประกอบการและภาพลักษณ์ รายงานล่าสุดระบุว่า Tesla มียอดส่งมอบรถยนต์ลดลงร้อยละ 13 และกำไรสุทธิร่วงร้อยละ 71 จากปีก่อน

สาเหตุหลักมาจากการประท้วงและการคว่ำบาตรทั่วโลกภายใต้แคมเปญ "Tesla Takedown" ที่ต่อต้านบทบาททางการเมืองของมัสก์ใน DOGE การประท้วงบางครั้งรุนแรงถึงขั้นวางเพลิงโชว์รูมและสถานีชาร์จของ Tesla นักวิเคราะห์อย่าง Dan Ives จาก Wedbush Securities เรียกสถานการณ์นี้ว่า ธงแดง และย้ำว่ามัสก์ต้องกลับมาโฟกัสที่ Tesla เพื่อกอบกู้อนาคตของบริษัท

หลังการประกาศลดบทบาท หุ้น Tesla พุ่งขึ้นทันที สะท้อนความหวังของนักลงทุนว่ามัสก์จะทุ่มเทให้ธุรกิจรถยนต์ไฟฟ้ามากขึ้น แต่เขาก็ยืนยันว่า Tesla ไม่ได้อยู่ในสถานการณ์ย่ำแย่ขนาดนั้น และมองว่าอนาคตของบริษัทขึ้นอยู่กับเทคโนโลยีรถยนต์ไร้คนขับและหุ่นยนต์ AI ซึ่งเป็นเป้าหมายระยะยาวของเขา

แล้วอนาคตของ DOGE ?

DOGE ซึ่งก่อตั้งโดยคำสั่งบริหารของทรัมป์เมื่อวันที่ 20 ม.ค.2568 มีเป้าหมายลดการใช้จ่ายของรัฐบาลกลางและปฏิรูปหน่วยงานราชการให้มีประสิทธิภาพ โดยมีกำหนดสิ้นสุดภารกิจในวันที่ 4 ก.ค.2569 ซึ่งตรงกับวันครบรอบ 250 ปีของการลงนามปฏิญญาอิสรภาพสหรัฐฯ มัสก์เคยอ้างว่า DOGE สามารถประหยัดงบประมาณได้ถึงวันละ 1,000-4,000 ล้านดอลลาร์ แต่ตัวเลขเหล่านี้ยังไม่ได้รับการยืนยันจากหน่วยงานใด และหลายฝ่ายวิจารณ์ว่า DOGE ขาดความโปร่งใส

การทำงานของ DOGE ภายใต้ "มัสก์" สร้างทั้งผลกระทบและข้อถกเถียง ตั้งแต่การเลิกจ้างพนักงานรัฐกว่า 20,000 คน การยกเลิกสัญญารัฐบาลมูลค่าหลายล้านดอลลาร์ ไปจนถึงการพยายามปิดหน่วยงานอย่าง USAID และ Consumer Financial Protection Bureau การกระทำเหล่านี้ทำให้เกิดการฟ้องร้องจากสหภาพแรงงานและกลุ่มผู้สนับสนุนที่มองว่า DOGE ละเมิดกฎหมายและสิทธิความเป็นส่วนตัว โดยเฉพาะการเข้าถึงระบบการชำระเงินของกระทรวงการคลังที่มีข้อมูลส่วนบุคคลของชาวอเมริกัน

หากมัสก์ลดบทบาทหรือถอนตัวจริง ทีม DOGE ซึ่งมีพนักงานราว 100 คน ส่วนใหญ่เป็นวิศวกรหนุ่มจากซิลิคอนวัลเลย์ จะยังคงทำงานต่อ โดยมีผู้นำที่มัสก์แต่งตั้งในหน่วยงานต่าง ๆ ดูแลภารกิจ ทรัมป์ระบุว่าเมื่อมัสก์จากไป รัฐมนตรีและเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานจะรับช่วงต่อ และ DOGE จะยังคงอยู่เพื่อจัดการจากภายใน

อย่างไรก็ตาม นักวิเคราะห์อย่าง Elaine Kamark จาก Brookings Institution มองว่าการตัดงบประมาณครั้งใหญ่ตามที่มัสก์ตั้งเป้าไว้ เช่น ลดงบ 2 ล้านล้านดอลลาร์/ปี เป็นเรื่อง "ไร้สาระ" เพราะงบประมาณส่วนใหญ่เป็นโครงการที่ได้รับความนิยม เช่น ประกันสังคม และ Medicare

ผลประโยชน์ที่ทับซ้อนของ "มัสก์"

บทบาทของมัสก์ในฐานะ SGE ถูกจับตาอย่างหนัก เนื่องจากเขามีผลประโยชน์ในบริษัทใหญ่ ๆ ที่ทำสัญญากับรัฐบาล เช่น SpaceX ซึ่งมีมูลค่าสัญญากับสหรัฐฯ ถึง 22,000 ล้านดอลลาร์ กฎ SGE ระบุว่าเขาต้องหลีกเลี่ยงการตัดสินใจที่กระทบผลประโยชน์ส่วนตัว ต้องยื่นแบบแสดงข้อมูลทางการเงินแบบลับ และผ่านการอบรมจริยธรรม ซึ่งทำเนียบขาวยืนยันว่ามัสก์ปฏิบัติตามแล้ว

อย่างไรก็ตาม กลุ่ม Public Citizen วิจารณ์ว่าทรัมป์ใช้กฎ SGE ในทางที่ผิด ทำให้มัสก์มีอำนาจมากเกินไปโดยไม่ต้องเปิดเผยข้อมูลการเงินต่อสาธารณะ นอกจากนี้ มัสก์ยังถูกวิจารณ์เรื่องพฤติกรรม เช่น การสวมหมวก "Make America Great Again" ในทำเนียบขาว ซึ่งอาจละเมิดกฎที่ห้าม SGE แสดงออกทางการเมือง

Max Stier จาก Partnership for Public Service ถึงขั้นเรียกการแต่งตั้งมัสก์ว่าเป็นการใช้กฎ SGE ในทางที่ผิด เพราะเขาไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านที่รัฐบาลขาด แต่กลับมีอำนาจตัดสินใจที่อาจกระทบผลประโยชน์ส่วนตัว เช่น การยกเลิกการสอบสวนบริษัทของเขาที่เคยดำเนินการโดยหน่วยงานที่ DOGE โจมตี

คำถามใหญ่ ๆ ตอนนี้คือ ถ้ามัสก์จะออกจาก DOGE จริงหรือแค่ลดบทบาท เพื่อยืดเวลาตามกฎ SGE และ DOGE จะรักษาโมเมนตัมได้หรือไม่เมื่อไร้มัสก์ ซึ่งเป็นทั้งผู้นำและสัญลักษณ์ของทีมนี้ คู่แข่งของ Tesla โดยเฉพาะบริษัทรถยนต์ไฟฟ้าจากจีน กำลังแซงหน้าในด้านราคาและนวัตกรรม ทำให้มัสก์ต้องเร่งแก้เกมในธุรกิจหลักของเขา ขณะเดียวกัน การที่ DOGE ถูกมองว่า "ไม่โปร่งใส" และ "ก้าวก่ายอำนาจรัฐสภา" อาจทำให้เผชิญแรงต้านจากฝ่ายนิติบัญญัติและประชาชนมากขึ้น

มัสก์อาจยังคงมีอิทธิพลในรัฐบาลทรัมป์ในฐานะที่ปรึกษาแบบไม่เป็นทางการ ตามที่ JD Vance รองประธานาธิบดีระบุว่ามัสก์จะยังเป็นที่ปรึกษาของทรัมป์และผม แต่สำหรับประชาชนอเมริกันและพนักงานรัฐที่สูญเสียงานจากน้ำมือของ DOGE การจากไปของมัสก์อาจไม่เพียงพอที่จะเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นแล้ว ก็เป็นได้

แหล่งที่มา : Reuters, CNN, NPR, BBC, CBS News, The Guardian, MSNBC, Fortune, Rolling Stone

อ่านข่าวอื่น :

ผบ.ตร.คาดใช้เวลาไม่ต่ำกว่า 15 วันตรวจกล่องดำหาสาเหตุเครื่องบินตก

อำลาครั้งยิ่งใหญ่ ผู้นำโลก-ราชวงศ์ ร่วมพิธีพระศพ "โป๊ปฟรานซิส" 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง