“ตอนเด็ก ๆ ผมไม่ได้เรียนหนังสือเยอะนักเพราะแม่ไม่ยอมให้เรียน และพอป่วย ผมก็ต้องอดทำงานที่อยากทำ แต่ในใจผมน่ะอยากรับใช้ศาสนจักรมาตลอด ผมพยายามมองหาหนทางที่จะทำมันอย่างถูกต้อง ทำโดยมีเป้าหมายทั้งทางสังคมและทางศาสนา ในที่สุดเมื่อผมได้ที่ดินเป็นมรดก ผมก็เลยตัดสินใจสร้างอาสนวิหารแห่งนี้ แน่นอนว่ามันใหญ่มาก ทะเยอทะยานมาก แต่ผมเชื่อมั่นในพระเจ้า ผมไม่ได้คิดหรอกว่าตัวเองจะทำไปได้ถึงขนาดไหน ผมก็แค่ทำ”
นั่นคือคำตอบของ คุสโต กาเยโก ที่เราได้ยินในสารคดีเรื่อง The Cathedral กาเยโกเป็นชายชาวสเปนที่ลงมือสร้างวิหารขนาดยักษ์ในเมืองเมคอราดา เดล กัมโป บนพื้นที่ถึงราว 8,000 ตารางเมตร ประกอบด้วยอาคารหลักซึ่งมีโดมที่สูงถึง 40 เมตร มีห้องใต้ดิน มีกลุ่มโบสถ์น้อย สำนักสงฆ์ ที่พัก ห้องสมุด โดยได้แรงบันดาลใจมาจากมหาวิหารซานเปโตรในนครวาติกัน ทำเนียบขาวในสหรัฐอเมริกา ตลอดจนปราสาทและโบสถ์ต่าง ๆ ในสเปน
...ฟังดูก็ไม่เห็นน่าตื่นเต้นตรงไหน แต่ถ้าเราบอกว่าวิหารนี้สร้างด้วยวัสดุ และเครื่องมือส่วนใหญ่ที่เป็นของรีไซเคิล รวมถึงสิ่งของเครื่องใช้ในชีวิตประจำวัน รวมถึงวัสดุก่อสร้างเหลือใช้ที่บริษัทก่อสร้างและโรงงานผลิตอิฐใกล้เคียงบริจาคมาให้ล่ะ ? หรือถ้านั่นก็ยังไม่น่ามหัศจรรย์พอ เราก็ขอเพิ่มเติมอีกนิดด้วยว่า กาเยโกไม่เคยมีประสบการณ์ทำงานก่อสร้างเลย สถาปัตยกรรมก็ไม่เคยเรียน ทั้งหมดเป็นการศึกษาเอาเองโดยดูจากในหนังสือ ...และเขาสร้างอาคารใหญ่โตมโหฬารหน้าตาพิลึกกึกกือนี้แทบจะด้วยสองมือของตัวเองคนเดียวเท่านั้น !
จะเพราะพลังศรัทธา หรือเพราะความบ้าความเพี้ยน หรือเพราะทั้งสองอย่างนั้นรวม ๆ กันก็คงว่าได้ ที่ผลักดันให้ชายร่างเล็ก ๆ ผอมเกร็งอย่างเขายอมใช้เวลากว่า 60 ปีทำสิ่งนี้ขึ้น เพียงด้วยเหตุผลว่า “ผมเชื่อมั่นในพระเจ้า และผมก็แค่ทำ” โดยไม่เคยสนใจว่าสังคมจะมองมันอย่างไร หรือจะมีใครเห็นคุณค่าในสิ่งที่เขาทำมากน้อยแค่ไหน
และช่างน่าสนใจที่ “อาสนวิหารของคุสโต” ไม่ใช่สถาปัตยกรรมเดียวของโลกที่มีต้นกำเนิดสุดจะว้าวและรูปลักษณ์หน้าตาน่าทึ่งขนาดนี้ เราขอยกตัวอย่างอีกอย่างน้อย 3 แห่งที่น่าตะลึงไม่น้อยไปกว่ากัน
สิ่งก่อสร้างที่เห็นนี้มีชื่อว่า หอคอยวัตส์ (Watts Towers) ตั้งอยู่ในลอสแอนเจลิส รัฐแคลิฟอร์เนีย ประเทศสหรัฐอเมริกา เป็นฝีมือของผู้อพยพชาวอิตาลีนามว่า ซิโมน โรเดีย ซึ่งสร้างตั้งแต่ช่วงปลายทศวรรษ 1890 โดยใช้เวลานานถึง 33 ปีและใช้สารพัดวัสดุ ทั้งท่อเหล็ก ตาข่ายโลหะ ปูน แก้วแตก กระเบื้อง เครื่องปั้นดินเผา หิน ไปจนถึงเปลือกหอย และก็เช่นเดียวกันกับกาเยโก คือโรเดียทำงานคนเดียว ไม่เคยมีแบบแปลนอย่างเป็นทางการและไม่เคยผ่านการเรียนด้านสถาปัตยกรรมใด ๆ ทั้งสิ้น
หอคอยวัตส์มีส่วนที่สูงที่สุดถึงกว่า 30 เมตรหรือเกือบเท่าตึกสูง 10 ชั้น แน่นอนว่ามันจึงสร้างความกังวลเรื่องความปลอดภัยมาก ๆ แก่ชุมชนรอบข้าง แต่ในที่สุดในปี 1959 มันก็ผ่านการทดสอบเรียบร้อยและได้รับการยอมรับว่าเป็นสัญลักษณ์ทางวัฒนธรรมที่สำคัญมากสำหรับชุมชนแอฟริกัน-อเมริกันและละตินในท้องถิ่น ทั้งยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นสถานที่สำคัญทางประวัติศาสตร์แห่งชาติ (National Register of Historic Places) ได้รับการแต่งตั้งเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ของรัฐแคลิฟอร์เนีย (California State Historic Monument) และอนุสรณ์สถานทางวัฒนธรรมของลอสแอนเจลิส (Los Angeles Cultural Heritage Monument) ด้วย ปัจจุบันมันเป็นสถานที่แสดงงานศิลปะ ดนตรีและนิทรรศการอย่างหลากหลาย
สถาปัตยกรรมหน้าตางามประหลาดนี้คือ ปาแล อีเดียล (Palais Idéal หรือ The Ideal Palace ปราสาทในฝัน) ตั้งอยู่ที่เมืองโอเทร์รีฟ ประเทศฝรั่งเศส ที่มาของมันทั้งน่ารัก โรแมนติกและน่าทึ่งมากๆ เพราะเกิดจากฝีมือของ เฟอร์ดินองด์ เชฟาล บุรุษไปรษณีย์ผู้ใช้เวลาเก็บรวบรวมหินรูปร่างแปลกตาระหว่างทางไปส่งจดหมายทุกวันนานถึง 33 ปี (ระหว่างปี 1879 ถึง 1912) เพื่อนำมาสร้าง โดยอีกเช่นกันที่เขาไม่เคยร่ำเรียนด้านสถาปัตยกรรมเลย แต่ใช้ความคิดสร้างสรรค์ บวกกับแรงบันดาลใจจากเทพปกรณัม องค์ประกอบจากศาสนาคริสต์ ศาสนาฮินดู และอารยธรรมโบราณที่เขาชื่นชอบ
ปราสาทนี้สูงเกือบเท่าตึก 10 ชั้น ได้รับการยกย่องว่าเป็นตัวอย่างชั้นยอดของศิลปะแบบ Naïve art (หมายถึงศิลปะที่สร้างโดยศิลปินสมัครเล่น ด้วยวิธีการเฉพาะตัวที่ไม่อิงจากความรู้และหลักเกณฑ์ทางศิลปะทั่ว ๆ ไป) และได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นอนุสรณ์สถานทางประวัติศาสตร์ของฝรั่งเศสในปี 1969 ขณะที่ตัวเชฟาลเองก็ยังได้รับการยกย่องด้วยการนำรูปไปทำเป็นสแตมป์ของฝรั่งเศสในปี 1986 อีกด้วย
ตัวอย่างสุดท้ายคือ สวนหิน (Rock Garden) ในเมืองจัณฑีครห์ ประเทศอินเดีย ฝีมือของ เนก จันท์ ข้าราชการที่ใช้เวลาว่างนับตั้งแต่ปี 1957 แอบ ๆ สร้างสวนหินขนาด 40 เอเคอร์ขึ้นในบ้านของเขาเอง โดยประดับประดาด้วยรูปปั้นคนและสัตว์ต่าง ๆ หลายร้อยชิ้นที่ทำจากวัสดุรีไซเคิล เช่น ขวด แก้ว กำไล หม้อ ที่เขาเก็บมาจากสถานที่ก่อสร้างรอบเมือง
เนก จันท์ เก็บสวนนี้เป็นความลับ (เพราะมันผิดกฎหมาย) โดยไม่เคยมีใครล่วงรู้เลย นานถึง 18 ปี กระทั่งมีเจ้าหน้าที่รัฐมาค้นพบเข้าในที่สุด และทำให้มันกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสุดฮิตประจำเมือง ทั้งยังเป็นสัญลักษณ์ของความคิดสร้างสรรค์และจิตสำนึกด้านสิ่งแวดล้อมไปด้วยพร้อมกัน
สิ่งก่อสร้างที่มีความงามเฉพาะตัวทั้งหมดนี้ล้วนเป็นหลักฐานยืนยันได้อย่างดีว่า มนุษย์นั้นมีพลังแห่งความสร้างสรรค์อันแทบไร้ขีดจำกัด และแม้จะอยู่ท่ามกลางความขาดแคลน ไม่ว่าจะในด้านเงินทองหรือการยอมรับนับถือของคนรอบข้าง
พวกเขาก็ยังหาหนทางปลูกสร้างความฝันของตนให้กลายเป็นรูปธรรมได้สำเร็จ และบ่อยครั้งผลงานที่เกิดจากพลังใจอันน่าอัศจรรย์นี้ก็สามารถสื่อสารกับผู้คนอื่น ๆ จนได้รับการค้อมคารวะในที่สุด แม้อาจต้องใช้เวลาเนิ่นนานสักหน่อยก็ตาม
▶ ติดตามสารคดี The Cathedral เรื่องราวของชายผู้ใช้เวลากว่า 60 ปีสร้างมหาวิหารด้วยตัวเองคนเดียวจากเศษวัสดุที่หาได้ โดยไม่มีความรู้เรื่องสถาปัตยกรรม ไม่มีประสบการณ์ทำงานก่อสร้าง ไม่มีผู้ช่วย และไม่เคยกระทั่งจะวาดแบบใด ๆ คนทั้งชุมชนบอกว่าเขาเป็นคนบ้า และบางคนบอกว่าเขาเป็นอัจฉริยะ
รับชมได้ทาง www.VIPA.me หรือ VIPA Application