ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

"ริชาร์ด นิกสัน" ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรก ที่เยือน "จีน" เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์


ประวัติศาสตร์

21 ก.พ. 67

Thai PBS Digital Media

Logo Thai PBS
แชร์

"ริชาร์ด นิกสัน" ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรก ที่เยือน "จีน" เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์

https://www.thaipbs.or.th/now/content/835

"ริชาร์ด นิกสัน" ประธานาธิบดีสหรัฐฯ คนแรก ที่เยือน "จีน" เพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์
บริการเสริมจาก Thai PBS AI

21 กุมภาพันธ์ 2515 ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ ริชาร์ด นิกสัน เยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนเพื่อฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางการทูต

การเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนของ ริชาร์ด นิกสัน ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐฯ ในวันที่  21 กุมภาพันธ์  2515 เป็นก้าวสำคัญในการฟื้นฟูความสัมพันธ์อย่างเป็นทางการระหว่างสหรัฐอเมริกากับสาธารณรัฐประชาชนจีน นับเป็นครั้งแรกที่ประธานาธิบดีสหรัฐเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งขณะนั้นสหรัฐอเมริกายังถือว่าจีนเป็นหนึ่งในศัตรู และการเยือนดังกล่าวยุติการแยกระหว่างสองฝ่ายนาน 25 ปี

การเดินทางของสหรัฐฯ สู่การเชื่อมสัมพันธ์ทางการทูตอย่างเป็นทางการกับสาธารณรัฐประชาชนจีน อยู่บนพื้นฐานของการคำนวณทางภูมิศาสตร์การเมืองแบบใหม่ ซึ่งท้าทายสหรัฐฯ

“มันจะเป็นโลกที่ปลอดภัยและดีกว่านี้ หากเรามีสหรัฐฯ, ยุโรป, สหภาพโซเวียต, จีน และญี่ปุ่น ที่แข็งแรง ซึ่งแต่ละฝ่ายต่างก็สร้างสมดุลให้กันและกัน” ริชาร์ด นิกสัน ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในสมัยนั้น ให้สัมภาษณ์กับนิตยสาร Time ถึงการเดินทางเยือนจีน

ความคิดเห็นดังกล่าว เป็นสัญญาณถึงการก้าวออกจากแนวคิดที่ครอบงำนโยบายต่างประเทศของสหรัฐฯ นั่นคือ ทฤษฎีโดมิโน ซึ่งระบุว่า หากประเทศหนึ่งเป็นคอมมิวนิสต์ ประเทศใกล้เคียงก็จะกลายเป็นคอมมิวนิสต์ไปด้วย

ตามทฤษฎีดังกล่าว สหรัฐฯ ได้ลงนามในสนธิสัญญาหลายฉบับ รวมถึงสนธิสัญญาแอนซัส (ANZUS) กับนิวซีแลนด์และออสเตรเลียใน ปี 2494 และสนธิสัญญาความมั่นคงสหรัฐฯ-ญี่ปุ่น ในอีกหนึ่งปีให้หลัง

การยึดมั่นในทฤษฎีนี้ จึงได้เห็นลัทธิคอมมิวนิสต์เคลื่อนขบวนจากสหภาพโซเวียต ไปยังจีน และเวียดนาม ซึ่งนำสหรัฐฯ เข้าสู่สงครามกลางเมืองในประเทศแถบเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และทำให้ประธานาธิบดีนิกสันต้องปรับเปลี่ยนบทบาทอีกครั้ง

ท่ามกลางความวุ่นวายทางสังคมในประเทศ และหมดหวังที่จะหาทางออกจากความขัดแย้งเพื่อหลีกเลี่ยงผลกระทบของทฤษฎีโดมิโน ซึ่งจะยุติการขยายอิทธิพลของสหรัฐฯ ในเอเชีย นิกสันรู้ว่า ความสัมพันธ์ทางการทูตกับจีนแผ่นดินใหญ่ อาจเป็นหลักประกันใหม่ได้

นิกสันมองว่า การเชื่อมสัมพันธ์ทางการทูตกับประธานเหมา อาจทำให้สหรัฐฯ มีอิทธิพลเหนืออดีตสหภาพโซเวียต และทำลายทางตันทางภูมิรัฐศาสตร์กับรัสเซีย ที่ทำให้สหรัฐฯ ผิดหวังมากว่าสองทศวรรษ

นิกสันและที่ปรึกษาด้านความมั่นคงแห่งชาติ เฮนรี คิสซินเจอร์ เริ่มส่งการทาบทามที่เปรยว่าต้องการความสัมพันธ์ที่อบอุ่นขึ้นไปรัฐบาลสาธารณรัฐประชาชนจีน หลังการทาบทามโดยทั้งสองประเทศ คิสซินเจอร์บินไปยังกรุงปักกิ่งในคณะผู้แทนทางทูตลับ ซึ่งเขาได้พบกับนายกรัฐมนตรีโจว เอินไหล วันที่ 15 มิถุนายน 2514 ประธานาธิบดีประกาศว่าเขาจะเยือนสาธารณรัฐประชาชนจีนในปีต่อมา

นำมาสู่การพบกันครั้งประวัติศาสตร์ ในวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2515 ประธานาธิบดีนิกสันและคณะสมาชิกพรรคฯ ได้เดินทางมาถึงกรุงปักกิ่งและเยือนประเทศจีนเป็นเวลา 7 วัน (ระหว่าง 21 -28 กุมภาพันธ์ 2515) ระหว่างการเยือนประธานาธิบดี นิกสัน ได้พบกับประธานเหมา เจ๋อตง และพูดคุยกับนายกรัฐมนตรี โจว เอินไหล ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นเกี่ยวกับสถานการณ์ระหว่างประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ความสัมพันธ์จีน-สหรัฐฯ ที่เน้นประเด็นปัญหา "อินโดจีน" และ "ไต้หวัน"

และยังทำให้สาธารณชนอเมริกัน มองภาพของประเทศจีนเป็นครั้งแรกในรอบกว่าสองทศวรรษ ตลอดสัปดาห์ประธานาธิบดีและที่ปรึกษาอาวุโสเข้าร่วมในการอภิปรายสำคัญกับสาธารณรัฐประชาชนจีน รวมทั้งการพบปะกับประธานเหมา เจ๋อตุง ขณะที่สุภาพสตรีหมายเลขหนึ่ง แพต นิกสัน เดินทางไปชมโรงเรียน โรงงานและโรงพยาบาลในกรุงปักกิ่ง นครเซี่ยงไฮ้และหางโจว โดยมีคณะสื่ออเมริกันกลุ่มใหญ่ติดตามไปด้วย นิกสันเรียกการเยือนครั้งนี้ว่า "สัปดาห์ที่เปลี่ยนโลก"

ทั้งนี้ ริชาร์ด นิกสัน เคยกล่าวก่อนได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีถึงความต้องการความสัมพันธ์ที่ดีขึ้นกับสาธารณรัฐประชาชนจีน ซึ่งสหรัฐอเมริกามิได้ธำรงความสัมพันธ์ทางการทูต เพราะรับรองสาธารณรัฐจีนบนเกาะไต้หวันว่าเป็นรัฐบาลจีน ในการดำรงตำแหน่งสมัยแรก 
 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

วันสำคัญวันนี้ในอดีตจีนกำแพงเมืองจีนประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา
ผู้เขียน: Thai PBS Digital Media

บทความ NOW แนะนำ

ข่าวล่าสุด