นี่คืออีกหนึ่งรายการอาหารบน VIPA ที่ทั้งสนุกสนาน มีอารมณ์ขัน และกระตุ้นต่อมหิวให้ต้องทำงานหนักสุดขีดตลอดการรับชม
เมื่อนึกถึง “รายการทำอาหาร” ใครกันจะไปนึกถึงเชฟวัยกลางคนร่างยักษ์หนวดเคราครึ้ม ที่ปรากฏตัวบนมอเตอร์ไซค์คันใหญ่เบิ้ม เมื่ออยากจะสนทนาก็พูดคุยกันอย่างอิสระจนแทบจะเรียกได้ว่าไม่มีบท เมื่อนึกสนุกอยากจะทำอาหารก็กางโต๊ะริมทุ่งนา หรือหาอะไรมาวางบนกระโปรงรถ หยิบวัตถุดิบใกล้ตัวมาหั่น ๆ สับ ๆ ผัด ๆ แล้วดันน่าอร่อย และอีกหลาย ๆ ครั้งพวกเขาก็ชวนคุณลุง คุณป้า คุณยายที่พบเจอในหมู่บ้านทั้งหลายมาเป็นพ่อครัวแม่ครัว แล้วผันตัวเองไปเป็นผู้ช่วยอย่างเกือบจะงก ๆ เงิ่น ๆ
แต่ก็ด้วยองค์ประกอบทั้งหมดนี้แหละ ที่เมื่อผสมเข้ากับมิตรภาพอันแน่นแฟ้นระหว่างเชฟหนุ่มใหญ่ทั้งคู่ เรื่องราวความหลากหลายของวัฒนธรรมอาหาร และความงดงามของธรรมชาติในชนบท ที่พวกเขาควบบิ๊กไบค์คู่ใจตระเวนไป ก็ส่งผลให้ The Hairy Bikers กลายเป็นรายการอาหารที่มีเอกลักษณ์ เข้าถึงง่าย และเป็นที่นิยมของผู้ชมมากมายนับตั้งแต่เริ่มปรากฏตัวทางโทรทัศน์ครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 2004 (ก่อนแตกยอดมาสู่ซีรีส์และหนังสือนับจำนวนไม่ถ้วน)
ในซีซัน The Hairy Bikers' Mediterranean Adventure นี้ สองเชฟนาม เดฟ ไมเออร์ส กับ ซิ คิง บุกผจญภัยเมดิเตอร์เรเนียนโดยเริ่มต้นที่อิตาลีแผ่นดินใหญ่
เสน่ห์ระดับสุดยอดของตอนแรกนี้ อยู่ตรงที่พวกเขาพาเราไปรู้จักแก่นแท้ของอาหารอิตาเลียน คือแนวคิด "La Cucina Povera" หรือ “ครัวของผู้ยากไร้”
อันเป็นประเพณีในชนบทของอิตาลีตอนใต้ตั้งแต่ยุคโรมันเรื่อยมา และเข้มข้นเป็นพิเศษในช่วงหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งประเทศเผชิญปัญหาทางเศรษฐกิจและการขาดแคลนทรัพยากร บีบบังคับให้ชาวบ้าน (ซึ่งโดยมากเป็นเกษตรกร) ต้องปรุงอาหารอย่างประหยัดด้วยวัตถุดิบรอบตัว ไม่ว่าจะเป็นผลไม้, ผัก, ข้าว, ถั่ว, เมล็ดพืชและธัญพืช เนื้อสัตว์ (มีแค่บางครั้งคราว) พาสต้าสดที่ทำจากแค่แป้งกับน้ำ ขนมปังสดและขนมปังเก่า ฯลฯ ร่วมกับสมุนไพรและเครื่องเสริมรสจากธรรมชาติ เช่น น้ำมันมะกอก กระเทียม หัวหอม พริกไทย
ไม่เพียงวัตถุดิบที่เรียบง่าย แต่การปรุงก็ยังใช้การแปรรูปน้อย ทำให้อาหารมีทั้งความสดใหม่และเต็มไปด้วยคุณค่าทางโภชนาการ แม้บางเมนูอาจจะหนักแป้ง แต่โดยมากจะเป็นอาหารที่มีความสมดุลระหว่างคาร์โบไฮเดรต (จากพาสต้า ขนมปัง ธัญพืช) โปรตีน (จากพืชตระกูลถั่วและเนื้อสัตว์ไม่ติดมัน) ไขมันดี (จากน้ำมันมะกอก) และเส้นใยธรรมชาติ (จากผัก) ซึ่งแปลกแตกต่างจากอาหารตะวันตกทั่วไปที่เน้นเนื้อ ไข่ และผลิตภัณฑ์จากนม
สำหรับการทำขนมปังนั้น ชาวบ้านจะนำแป้งไปให้โบสถ์ประจำท้องถิ่นแล้วอบเป็นก้อนขนมปังดิบขนาดใหญ่ จากนั้นก็ส่งไปอบเพิ่มอีกที่ร้านเบเกอรี จนได้ขนมปังสำหรับทั้งสัปดาห์ โดยจะแบ่งเป็นขนมปังสดกินได้สองวัน และขนมปังแห้งสำหรับอีกห้าวัน พวกเขาใช้ประโยชน์จากขนมปังหลาย ๆ แบบเพื่อให้คุ้มค่าที่สุด ทั้งหั่นเป็นชิ้นใส่ลงในซุป อบกับซาลามี ชีส และมะเขือเทศชิ้นเล็ก ๆ ทอดแล้วโรยบนผักและพาสต้า ซึ่งเป็นวิธีที่ทำให้ส่วนผสมหลักที่มีจำกัดนั้นใช้ได้นานขึ้น ขณะเดียวกันก็เพิ่มรสชาติที่หลากหลายขึ้นด้วย
นอกเหนือความเรียบง่าย สดใหม่ และรสชาติเลิศแล้ว อีกจุดเด่นหนึ่งที่เกิดขึ้นคู่กับอาหาร La Cucina Povera ก็คือบรรยากาศในการกินที่มี “ความเป็นครอบครัวและชุมชน” เนื่องจากมันเป็นประเพณีอาหารที่สืบทอดมายาวนานจากรุ่นสู่รุ่น อีกทั้งยังมักมีการปรุงเพื่อแบ่งปันกัน ขณะที่ตัววัตถุดิบตามธรรมชาติก็สอดคล้องกับแนวคิดเรื่อง “ความยั่งยืน” ในยุคปัจจุบันด้วย ทำให้ทั้งคนอิตาลีรุ่นใหม่และนักท่องเที่ยวต่างชาติกลับมาให้ความสนใจอาหารประเภทนี้อย่างคึกคัก
รายการ The Hairy Bikers สื่อสารให้เราได้เห็นทั้งความหมายของประเพณีอาหารและส่งเสริมการใช้วัตถุดิบท้องถิ่น โดยย้ำเน้นว่า ทุกพื้นที่บนโลกนี้มีความเป็นเอกลักษณ์ในด้านอาหารแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับภูมิศาสตร์ ภูมิอากาศ วัฒนธรรม
และประโยชน์ของการใช้ของสดจากท้องถิ่นนั้นก็มีมากมาย ทั้งการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม ส่งเสริมเศรษฐกิจท้องถิ่น และส่งเสริมความสัมพันธ์ในชุมชน ซึ่งเมื่อเนื้อหาเช่นนี้ถูกฉาบเคลือบไว้ด้วยอารมณ์ขัน จิตวิญญาณแบบนักผจญภัย และความรักความเคารพต่อวิถีชีวิตอันหลากหลายของผู้คนในแต่ละพื้น จึงทำให้รายการมีเสน่ห์และชวนให้คนดูรู้สึกสัมผัสอาหารของพวกเขาได้อย่างง่ายดาย
อย่ารอช้า รีบตามรอยคู่หูเชฟเคราครึ้มไปชิมอาหารจานอร่อยแห่งเมดิเตอร์เรเนียนกันได้ในรายการ The Hairy Biker's เชฟคู่หู...ตะลุยเมดิเตอร์เรเนียน ทาง www.VIPA.me และ VIPA Application
“ Secret Story ” คอลัมน์น้องใหม่จาก VIPA ที่มาพร้อมเรื่องราวเจาะลึก มุมมองในมิติที่คุณอาจไม่เคยรู้ ทั้งเบื้องหน้า และเบื้องหลังของผลงานสารคดีคุณภาพ ที่เราไม่อยากให้คุณพลาดใน www.VIPA.me