Thai PBS พาเที่ยว | “วันท่องเที่ยวโลก” ชวนเที่ยว 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่

ก่อนที่เราจะเก็บกระเป๋า ไปเที่ยวด้วยกันในบรรทัดต่อจากนี้ Thai PBS พาเที่ยว ขอเริ่มด้วยที่มาที่ไปของ “วันท่องเที่ยวโลก” หรือ “World Tourism Day” ให้คณะทัวร์ทุกท่านได้เสริมความรู้กันเสียก่อน

ย้อนไปเมื่อปี 1979 ได้มีมติเห็นชอบของที่ประชุม “องค์การการท่องเที่ยวโลกแห่งสหประชาชาติ (UNWTO)” ประกาศให้วันที่ 27 กันยายน ของทุกปีเป็น “วันท่องเที่ยวโลก” หรือ “World Tourism Day” เพื่อให้ทั่วโลกได้เฉลิมฉลอง ส่งเสริมและพัฒนาด้านการท่องเที่ยวสากลในอนาคต

Thai PBS พาเที่ยว ขอใช้โอกาสนี้ ชวนทุกคนออกเดินทางไกล เที่ยวรอบโลกกับ “7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่” ไปด้วยกัน ซึ่งทั้ง 7 สถานที่นี้ นำเสนอโดยองค์กรของสวิตเซอร์แลนด์ “The New Open World Corporation (NOWC)” เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2007 ที่กรุงลิสบอน ประเทศโปรตุเกส

อยากรู้หรือเปล่า ? ว่าที่ไหนจะเป็นที่เที่ยวโปรดที่ต่อไปของเรา พร้อมแล้วก็ออกไปเที่ยวกันเถอะ !!!

“Cristo Redentor”

หรือในอีกชื่อหนึ่งคือ “Christ the Redeemer” ความสูง 38 เมตร ที่ตั้งตระหง่านอยู่บนยอดเขากอร์โกวาดู ประเทศบราซิล ออกแบบโดย “เอโตร์ ดา ซิลวา กอชตา” วิศวกรชาวบราซิล และสร้างโดย “ปอล ลันดอฟสกี” ประติมากรชาวฝรั่งเศส ที่ใช้เวลาถึง 5 ปี ในการก่อสร้างรูปปั้นพระเยซูคริสต์ เพื่อสะท้อนถึงความศรัทธาอันยิ่งใหญ่ อันเป็นสิ่งยึดเหนี่ยวจิตใจของชาวบราซิลและคริสต์ศาสนิกชนทุกคน

อนุสาวรีย์สุดอลังการนี้ ยังถือได้ว่าเป็นอนุสาวรีย์ที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งของโลก มีนักท่องเที่ยวเดินทางมาเยือนราว 1.8 ล้านคนต่อปี และยังเป็นสัญลักษณ์ที่ทำให้เมือง “Rio de Janeiro” อันเป็นสถานที่ตั้ง โด่งดังไปทั่วโลกอีกด้วย

“Chichen Itza”

เป็นโบราณสถานบนพื้นที่ราว 6.4 ตารางกิโลเมตร ทางภาคตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศเม็กซิโก มีรูปทรงสามเหลี่ยม ลดหลั่นกันเป็นชั้น ๆ จนหลายคนอดคิดไม่ได้ว่า นี่มันคล้ายกับพีระมิดของอียิปต์อย่างไรอย่างนั้น

ส่วนชื่อ “Chichen Itza” นั้น มาจากภาษามายา ที่แปลว่า “ต้นทางแห่งความสุขสบายของประชาชน” โบราณสถานแห่งนี้สร้างขึ้นโดยชาวมายัน เพื่อใช้เป็นอนุสรณ์ของเทพเจ้า

“Colosseum”

สนามกีฬากลางแจ้งสุดยิ่งใหญ่ใจกลางกรุงโรม มีรูปทรงเป็นวงรี ก่อด้วยอิฐและหินทราย รองรับผู้ชมได้กว่า 50,000 ที่นั่ง และใช้เวลาในการก่อสร้างนานกว่า 10 ปี

แต่นอกจากความอลังการแล้ว ที่แห่งนี้เคยถูกใช้เป็นสนามประลองการต่อสู้ที่น่าหดหู่ ระหว่างทาสและสัตว์ดุร้ายอย่างเสือหรือสิงโต โดยผู้ที่รอดตายจะได้รับอิสรภาพเป็นการตอบแทนต่อความบันเทิงที่มอบให้ผู้ชม

“Colosseum” ถูกยกย่องว่า มีการออกแบบที่ชาญฉลาด จากการสร้างสนามกีฬาให้เป็นรูปวงรี เพื่อทำให้ผู้ชมรู้สึกใกล้ชิดกับนักกีฬา และมีการออกแบบทางระบายน้ำ เพื่อไม่ให้น้ำท่วมขังในสนามตอนฝนตกอีกด้วย ที่นี่จึงกลายเป็นต้นแบบของสนามกีฬาต่าง ๆ ในปัจจุบัน

“Great Wall of China”

หรือที่คนไทยคุ้นหูว่า “กำแพงเมืองจีน” นั้น ถือเป็นสิ่งก่อสร้างโดยฝีมือมนุษย์ที่ยาวที่สุดในโลกเท่าที่เคยมีมา ด้วยความยาวกว่า 21,196.18 กิโลเมตร และครอบคลุมพื้นที่ 15 มณฑลทั่วประเทศจีน จึงไม่น่าแปลกใจที่ UNESCO จะประกาศให้เป็นหนึ่งในมรดกโลก

ความยิ่งใหญ่เกรียงไกรนี้ มีจุดเริ่มต้นใน “สมัยราชวงศ์ฉิน” ราชวงศ์แรกของจักรวรรดิจีน ที่ปกครองแผ่นดินในช่วง 221 – 206 ปีก่อนคริสต์ศักราช เพื่อป้องกันการรุกรานจากชนเผ่ามองโกลและเติร์ก ซึ่งภายหลังยังมีการสร้างกำแพงต่อเติมอีกหลายครั้งด้วยกัน

“Petra”

คือนครโบราณที่ซ่อนตัวอย่างลึกลับในหุบเขาวาดี มูซา ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างทะเลสาบเดดซี กับ ทะเลอัคคาบา ในประเทศจอร์แดน ที่นี่เคยเป็นนครแห่งการค้าอันยิ่งใหญ่และเมืองหลวงของชนเผ่านาบาเชียน ก่อนจะถูกทิ้งร้างนานกว่า 700 ปี และถูกค้นพบอีกครั้งในปี 1812 โดยนักสำรวจชาวสวิตเซอร์แลนด์ “โจฮันน์ ลุควิก เบิร์กฮาร์ท”

“Petra” มีโรงละครของเมือง ซึ่งเป็นต้นแบบของโรงละครในสถาปัตยกรรมแบบกรีก-โรมันโบราณ ชาวนาบาเชียนสร้างเมืองแห่งนี้โดยใช้วิธีการแกะสลักหินให้เป็นช่องอุโมงค์ต่าง ๆ อย่างวิจิตรงดงามอลังการ ทำให้ UNESCO ประกาศให้เป็นมรดกโลกเมื่อปี 1985

“Machu Picchu”

เจ้าของฉายา “เมืองสาบสูญแห่งอินคา” ตั้งอยู่บนเทือกเขาสูงกว่าระดับน้ำทะเล 2,350 เมตร บนที่ราบสูงแอนดีส ลึกเข้าไปในป่าอเมซอน เหนือแม่น้ำอูรูบัมบา ในประเทศเปรู

ที่นี่เป็นหลักฐานชิ้นสำคัญของอาณาจักรอินคาที่หายสาบสูญไปกว่า 3 ศตวรรษ ภายหลังการแพ้สงครามให้กับชาวสเปน และการเกิดโรคระบาดครั้งใหญ่ จนปรากฏตัวอีกครั้งในปี 1911 โดยการค้นพบของนักโบราณคดีชาวอเมริกัน “ไฮแรม บิงแฮม”

ซากอารยธรรมโบราณอันรุ่งเรืองของอาณาจักรอินคา ควรค่าแก่ความใฝ่รู้ของผู้คนที่นิยมเดินทางไปศึกษาประวัติศาสตร์ และการประกาศของ UNESCO ให้ “Machu Picchu” เป็นมรดกโลกเมื่อปี 1983

“Taj Mahal”

เจ้าของสมญานาม “สถาปัตยกรรมแห่งความรักที่สวยที่สุดในโลก” ใช้เวลาก่อสร้างกว่า 20 ปี เพื่อเป็นที่ระลึกถึง “พระนางมุมตัซ มาฮาล” พระจักรพรรดินีอันเป็นที่รักยิ่งของ “จักรพรรดิชาห์ จาฮัน” พระจักรพรรดิแห่งจักรวรรดิโมกุล

“Taj Mahal” ถูกรังสรรค์ด้วยหินอ่อนสีขาว ศิลาแลง ประดับลวดลายเครื่องเพชร พลอย หิน โมรา และเครื่องประดับจากมิตรประเทศ ด้วยสัดส่วนอันวิจิตรงดงามที่สุด หลอมรวมเป็นสุสานแห่งหัวใจรักของพระองค์ต่อหญิงผู้เป็นที่รักเหนือกาลเวลา กลายเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่อย่างไร้ที่ติ

Thai PBS สวัสดีทุกสีวัน ร่วมเฉลิมฉลอง 27 กันยายน “วันท่องเที่ยวโลก (World Tourism Day)” รวมชุดภาพ 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ ไว้ให้ทักทายได้ทุกที่ สวัสดีทุกสีวัน แชร์ฟรี คลิกเลย! 🙏 www.thaipbs.or.th/Sawasdee