“มะเร็ง” (Cancer) คือโรคที่เกิดจากความผิดปกติของเซลล์ในอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกาย ที่ใครก็ไม่อยากให้เกิดกับตัวเอง แต่การรับประทานอาหารบางอย่าง การสูบบุหรี่ เครื่องดื่มแอลกอฮอล์ เป็นโรคอ้วน รวมถึงการขาดการออกกำลังกาย ทำให้ในรอบ 30 ปีที่ผ่านมา มี “ผู้ป่วยมะเร็ง” อายุต่ำกว่า 50 ปี เพิ่มขึ้นถึง 79% เลยทีเดียว
โดยงานวิจัยเรื่องนี้ถูกเปิดเผยในวารสารทางการแพทย์ BMJ Oncology ว่า “ผู้ป่วยมะเร็ง” อายุ 14-49 ปี จำนวน 1.82 ล้านคน ในปี 2533 เพิ่มขึ้นเป็น 3.26 ล้านคน ในปี 2562 (เพิ่มขึ้น 79%) โดยเป็นการเก็บข้อมูลจาก 204 ประเทศทั่วโลก และครอบคลุมมะเร็ง 29 ชนิด
สำหรับ “มะเร็ง” ที่พบมากที่สุดก็คือ “มะเร็งเต้านม” เฉลี่ยป่วย 13.7 คน เสียชีวิต 3.5 คน จากจำนวนประชากร 100,000 คน ขณะที่ “มะเร็งหลอดลม” มีอัตราผู้ป่วยเพิ่มขึ้นเร็วสุดประมาณ 2.28% ต่อปี ตามมาด้วย “มะเร็งต่อมลูกหมาก” เพิ่มขึ้น 2.23% ต่อปี ส่วนการเสียชีวิตผู้ป่วยอายุต่ำกว่า 50 ปี เพิ่มขึ้น 27% จากปี 2533 อยู่ที่ 1.06 ล้านคน ส่วน “มะเร็ง” ที่ทำให้เสียชีวิตมากที่สุด ได้แก่ มะเร็งหลอดลม, มะเร็งปอด, มะเร็งกระเพาะอาหาร และลำไส้ ตามลำดับ
ทั้งนี้ อัตราการเกิดมะเร็งในระยะเริ่มแรกสูงสุดในปี 2562 อยู่ในอเมริกาเหนือ โอเชียเนีย และยุโรปตะวันตก ประเทศที่มีรายได้ต่ำและปานกลางก็ได้รับผลกระทบเช่นกัน ส่วนอัตราการเสียชีวิตสูงสุดในกลุ่มอายุต่ำกว่า 50 ปีอยู่ในโอเชียเนีย ยุโรปตะวันออก และเอเชียกลาง
แม้สาเหตุของโรคมะเร็ง ที่เกิดกับกลุ่มคนอายุ 14-49 ปี ที่เพิ่มขึ้นจำนวนมากจะยังระบุไม่ได้ แต่ ดร.แคลร์ ไนท์ (Dr Claire Knight) จากสถาบันวิจัยมะเร็งสหราชอาณาจักร (Cancer Research UK) กล่าวว่า คนในกลุ่มดังกล่าวอย่าเพิ่งตกใจจนเกินไป เนื่องจาก “มะเร็ง” มักเป็นโรคที่เกิดกับวัยสูงอายุ ผู้ป่วยมะเร็งรายใหม่ส่วนใหญ่ทั่วโลกได้รับการวินิจฉัยว่าเป็นผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไป หากเป็นกังวลว่าตัวเองเสี่ยงเป็น “โรคมะเร็ง” แนะนำให้ ดูแลอาหารการกินให้ดี ลดการสูบบุหรี่-ดื่มแอลกอฮอล์ ออกกำลังกายสม่ำเสมอ เมื่อใส่ใจสุขภาพโอกาสการเกิดมะเร็งก็จะลดน้อยลงไปได้
--------------------------
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : theguardian