ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

หน้าร้อน ! รู้จัก Heat Stroke อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม


Logo Thai PBS
แชร์

หน้าร้อน ! รู้จัก Heat Stroke อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม

https://www.thaipbs.or.th/now/content/2506

หน้าร้อน ! รู้จัก Heat Stroke อันตรายที่ไม่ควรมองข้าม
บริการเสริมจาก Thai PBS AI

Heat Stroke หรือโรคลมแดด เป็นหนึ่งในภาวะอันตรายจากความร้อนที่ร้ายแรงที่สุดในสัตว์เลือดอุ่นอย่างมนุษย์ หากปฐมพยาบาลและรักษาไม่ทันท่วงที ผู้ป่วยจะมีอัตราการเสียชีวิตที่สูงจนน่าตกใจ ในบางช่วงอายุ ผู้ป่วย Heat Stroke มีอัตราการเสียชีวิตสูงกว่า 50% และแม้จะรอดชีวิต ก็อาจมีอาการแทรกซ้อนหรือความพิการตามมา

การรักษา Heat Stroke ที่ดีที่สุดหลัก ๆ อยู่ที่การป้องกันไม่ให้เกิด Heat Stroke แต่แรก เนื่องจากผู้ป่วย Heat Stroke มักจะอยู่ในภาวะวิกฤตแล้วเมื่อถึงมือทีมแพทย์ และการรักษาทำได้เพียงการประคองผู้ป่วยไม่ให้อาการทรุดลงไปมากกว่าเดิม การฟื้นตัวจึงขึ้นอยู่กับร่างกายของผู้ป่วยด้วย

Heat Stroke เกิดขึ้นเมื่อผู้ป่วยอยู่ในภาวะอุณหภูมิร่างกายสูงกว่าปกติ (Hyperthermia) เป็นระยะเวลานาน โดยมีอุณหภูมิร่างกายสูงกว่า 40.6 องศาเซลเซียส

ร่างกายของมนุษย์เป็นระบบดุลยภาพ หรืออยู่ในภาวะธำรงดุล (Homeostasis) กล่าวคือ ร่างกายเราจะรักษาสภาพแวดล้อมต่าง ๆ เช่น อุณหภูมิ ปริมาณ ปริมาณเกลือแร่ ฯลฯ ให้เหมาะสมกับการทำงานของร่างกาย เช่นนั้นแล้ว ร่างกายจะรักษาอุณหภูมิให้อยู่ที่ประมาณ 37 องศาเซลเซียสตลอดเวลา

หากร่างกายสูญเสียความร้อน ระบบประสาทจะตอบสนองโดยการทำให้เรารู้สึกหนาวเพื่อหาที่ที่อุ่นขึ้น นับเป็นการตอบสนองทางพฤติกรรม (Behavioural Response) ในขณะเดียวกันก็ทำให้ตัวเราสั่นเพื่อสร้างความร้อน (Motor Response) หากร่างกายเรามีอุณหภูมิสูงเกินไป ระบบประสาทก็จะตอบสนองโดยการทำให้เรารู้สึกร้อนเพื่อหาที่ที่เย็นขึ้น และในขณะเดียวกันก็สั่งให้ต่อมเหงื่อทำงานเพื่อระบายความร้อนด้วยเหงื่อ (Evaporative Cooling) เพื่อลดอุณหภูมิของร่างกาย

ระบบรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้สมดุลนี้เรียกว่า “Thermoregulation”

Heat Stroke เกิดได้จากสองสาเหตุหลัก คือ ร่างกายสูญเสียความสามารถในการรักษาอุณหภูมิ หรืออาจเกิดจากปัจจัยภายนอกซึ่งทำให้ร่างกายไม่สามารถควบคุมอุณหภูมิของร่างกายได้ ยกตัวอย่างเช่น การตากแดด การใช้กำลังเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นตัวการก่อให้เกิดความร้อน การดื่มน้ำไม่เพียงพอหรือการขาดน้ำ และการดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งทำให้ร่างกายหลั่งเหงื่อเพื่อระบายความร้อนไม่ได้

Heat Stroke แบ่งได้หลัก ๆ เป็นสองชนิดคือ Classic Heat Stroke และ Exertional Heat Stroke 

Classic Heat Stroke เป็นชนิดที่อันตรายที่สุด เกิดจากความล้มเหลวของระบบรักษาอุณหภูมิของร่างกายร่วมกับปัจจัยภายนอก อาการที่สำคัญที่สุดของ Classic Heat Stroke คือ “ร่างกายร้อนมาก แต่เหงื่อไม่ออก” ร่วมกับอาการอื่น ๆ ของ Heat Stroke เช่น สับสน เพลีย เวียนหัว หมดสติ หากไม่ได้รับการรักษาในทันที ผู้ป่วยมักจะหมดสติและเสียชีวิตจากภาวะอวัยวะล้มเหลว

Exertional Heat Stroke เกิดจากการใช้กำลังเกินความสามารถในการระบายความร้อนของร่างกาย กล่าวคือ ระบบรักษาอุณหภูมิของร่างกายยังทำงานปกติ แต่ไม่เพียงพอต่อความร้อนที่เกิดขึ้น มักเกิดขึ้นขณะออกกำลังกาย เช่น การวิ่งมาราธอน นอกจากนี้ยังสามารถเกิดขึ้นได้กับคนที่ต้องใส่ชุดซึ่งทำให้การระบายความร้อนของร่างกายไม่มีประสิทธิภาพ เช่น ชุดดับเพลิง ชุดมาสคอต เป็นต้น

ใน Exertional Heat Stroke ผู้ป่วยมักจะมีเหงื่อออกในปริมาณมาก แตกต่างกับแบบ Classic ซึ่งไม่มีเหงื่อออกเลย นอกจากนี้ ผู้ป่วยมักจะรู้สึกดีขึ้นทันทีที่หยุดพักหรือหยุดการใช้กำลัง หรือถอดชุดที่ขัดขวางการระบายความร้อนของร่างกาย ในขณะที่แบบ Classic ผู้ป่วยมักจะมีอาการแย่ลงหากหมดสติแล้ว

วิธีป้องกัน Heat Stroke ทั้งสองแบบ คือ การเข้าใจความแตกต่างระหว่าง Heat Stroke ทั้งสองแบบ การหลีกเลี่ยงการตากแดดหรืออยู่ในบริเวณที่อากาศถ่ายเทไม่ดีเป็นเวลานาน โดยเฉพาะในหน้าร้อน การใส่ชุดที่ระบายอากาศได้ดี และที่สำคัญคือการดื่มน้ำให้บ่อยครั้งแม้จะไม่รู้สึกกระหายน้ำ เนื่องจากความกระหายเป็นความรู้สึกทางกาย ใช้บ่งบอกการขาดน้ำได้ไม่ดีนัก จึงควรดื่มน้ำให้มากไว้ก่อนหากต้องอยู่ในที่ที่อากาศร้อนหรือต้องไปออกกำลังกาย

หากคนรอบตัวเกิด Heat Stroke แล้ว การปฐมพยาบาลที่ดีที่สุดคือการลดอุณหภูมิของร่างกายให้เร็วที่สุด เช่น นำผู้ป่วยออกจากสภาพแวดล้อมที่ร้อนทันที การปลดกระดุมหรือถอดเสื้อเพื่อให้ร่างกายของผู้ป่วยระบายความร้อนได้ดีขึ้น การใช้พัดลมหรือเครื่องปรับอากาศเป่าให้ผู้ป่วยเย็นลงก็เป็นอีกหนึ่งวิธีในการช่วยผู้ป่วยให้เร็วที่สุด นอกจากนี้ควรตรวจสอบสัญญาณชีพของผู้ป่วยให้มั่นใจว่าผู้ป่วยหายใจอยู่ และยังมีชีพจรอยู่ ไม่เช่นนั้นแล้วให้ทำการ CPR ทันที

Heat Stroke ถือเป็นโรคที่อันตรายต่อชีวิต เพราะฉะนั้นแล้ว ควรโทรเรียกรถฉุกเฉินเพื่อนำผู้ป่วยส่งโรงพยาบาลในทันทีอีกด้วย ในการรักษาในโรงพยาบาล ผู้ป่วยอาจได้รับสารน้ำทางเส้นเลือดแบบเย็น (Cold IV Fluid) เพื่อลดอุณหภูมิของร่างกาย หรือการใช้น้ำแข็งในการลดอุณหภูมิร่างกาย

เรียบเรียงโดย 
โชติทิวัตถ์ จิตต์ประสงค์
Department of Biomedical Sciences
College of Veterinary Medicine and Life Sciences
City University of Hong Kong


อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS  

“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ฮีตสโตรกฮีทสโตรกExertional Heat StrokeClassic Heat StrokeHeat Strokeภาวะอุณหภูมิร่างกายสูงกว่าปกติHyperthermiaภาวะธำรงดุลHomeostasisหน้าร้อนอากาศร้อนฤดูร้อนความร้อนวิทย์น่ารู้วิทยาศาสตร์น่ารู้วิทยาศาสตร์Thai PBS Sci And Tech Thai PBS Sci & Tech Science
Thai PBS Sci & Tech
ผู้เขียน: Thai PBS Sci & Tech

🌎 "รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก" ไปกับ Thai PBS Sci & Tech • วิทยาศาสตร์ • เทคโนโลยี นวัตกรรม • ดาราศาสตร์ • Media Literacy • Cyber Security • Tips & Tricks • Trends

บทความ NOW แนะนำ

ข่าวล่าสุด