กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดสถิติการปิดกั้นโซเชียลมีเดีย เพจ และเว็บไซต์ URLs ผิดกฎหมาย เพียง 5 เดือนแรกของปีงบประมาณ 2568 ปิดกั้น เพจ-เว็บไซต์ ผิดกฎหมายไปแล้วกว่า 80,000 รายการ พบเร่งปิดกั้นเพิ่มขึ้น 1.5 เท่า ปิดเว็บพนันมากสุด
นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) เปิดเผยว่า กระทรวงดีอี ได้เร่งรัดการดำเนินการปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์ โดยเฉพาะการปิดกั้นโซเชียลมีเดีย, เพจ และเว็บไซต์ URLs ผิดกฎหมายทุกรูปแบบ เพื่อเป็นการตัดวงจรช่องทางการก่ออาชญากรรมที่สำคัญของขบวนการมิจฉาชีพ

ทั้งนี้ ตั้งแต่เดือน ตุลาคม 2567-กุมภาพันธ์ 2568 (ระยะเวลา 5 เดือนของปีงบประมาณ 2568) กระทรวงดีอี ได้ดำเนินการปิดกั้นโซเชียลมีเดีย เพจ และเว็บไซต์ URLs ผิดกฎหมายแล้ว 80,669 รายการ หรือเฉลี่ย 16,133 รายการต่อเดือน เพิ่มขึ้น 1.508 เท่าตัว จากช่วงเดียวกันของปีงบประมาณ 2567 (เดือน ตุลาคม 2566-กุมภาพันธ์ 2568) ที่ปิดกั้น 53,466 รายการ หรือ เฉลี่ย 10,693 รายการต่อเดือน

สำหรับประเภทของการปิดกั้นในระยะเวลา 5 เดือน (ต.ค. 2567-ก.พ. 2568) มีดังนี้
- พนันออนไลน์ จำนวน 31,832 รายการ เพิ่มขึ้น 1.3 เท่า จากช่วงเวลาเดียวกันก่อนหน้านี้ (ต.ค.66-ก.พ.67) ที่มีจำนวน 24,352 รายการ
- บิดเบือน/หลอกลวงออนไลน์ จำนวน 21,939 รายการ ลดลง 0.8769 เท่า จากช่วงเวลาเดียวกันก่อนหน้านี้ (ต.ค.66-ก.พ.67) ที่มีจำนวน 25,017 รายการ
- อื่น ๆ จำนวน 26,898 รายการ เพิ่มขึ้น 6.565 เท่า จากช่วงเวลาเดียวกันก่อนหน้านี้ (ต.ค.66-ก.พ.67)
ที่มีจำนวน 4,097 รายการ
สำหรับจากการทำงานร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ในการเฝ้าระวัง ตรวจสอบติดตามการก่ออาชญากรรมออนไลน์อย่างต่อเนื่อง ทำให้สถิติการปิดกั้นโซเชียลมีเดีย เพจ เว็บไซต์ และ URLs ผิดกฎหมายมีตัวเลขที่เพิ่มขึ้น จากช่วงเวลาเดียวของปีงบประมาณก่อนหน้า

หากกรณีที่ยังพบเว็บไซต์บางรายการที่ยังเพิกเฉย ไม่ปิดกั้น/ระงับการเผยแพร่ ตามที่ศาลได้มีคำสั่ง ดีอีจะถือเป็นการฝ่าฝืนไม่ปฏิบัติตามคำสั่งศาล ซึ่งมีความผิดตาม พ.ร.บ. คอมพิวเตอร์ฯ และหากพบการฝ่าฝืนดังกล่าว กระทรวงฯ จะนำผลการตรวจสอบการไม่ระงับ/ไม่ปิดกั้นเว็บไซต์ของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต แพลตฟอร์มด้วยระบบการจัดเก็บทางคอมพิวเตอร์ ไปทำการปรับพินัยฐานไม่ปิด URLs ที่ผิดกฎหมาย ต่อไป