EBOLA ถือเป็นวงเมทัลสัญชาติไทยที่อยู่ในวงการเพลงไทยมานานเกือบ 2 ทศวรรษ โดยสมาชิกอย่าง เอ๋ กิตติศักดิ์ บัวพันธุ์ (ร้องนำ) กอล์ฟ วรรณิต ปุณฑริกาภา (กีตาร์) โอ๋ สุรพงษ์ บัวพันธุ์ (กีตาร์) เอ เชาวลิต ประสงค์สิน (เบส) และ พัน พงษ์พันธุ์ โพธินิมิตร (กลอง) ได้เดินทางผ่านยุคสมัยที่เปลี่ยนไปของวงการเพลงและแทบไม่เคยหายไปจากวงการเลย
และแม้ว่า EBOLA จะเป็นที่รู้จักในวงกว้าง แต่ ณ ขณะเดียวกัน ยุคหนึ่งของ EBOLA ที่หลายคนอาจจะไม่เคยได้รู้มาก่อน ก็คือเรื่องราวช่วงเวลาที่วงยังเป็นศิลปินใต้ดิน ซึ่งในรายการนักผจญเพลง REPLAY ตอน วิถี EBOLA พวกเขาก็ได้นำเรื่องราวยุคที่เป็นวงใต้ดินมาเล่าให้ทุกคนได้ฟังกัน
นิยามเพลงใต้ดิน
ใน รายการนักผจญเพลง REPLAY นั้น เอ๋ EBOLA นักร้องนำของวงได้เผยว่า วงใต้ดินถ้าเป็นต่างประเทศ จะเป็นวงดนตรีที่มีความขบถ มีเรื่องราวการต่อต้านสังคม เนื้อเพลงตรงไปตรงมาต่างจากเพลงที่โปรโมตทั่วไปที่จะสามารถฟังได้ทุกเพศทุกวัย
EBOLA เริ่มจากการเป็นผู้ฟังเพลงใต้ดิน ก่อนจะมาเล่นดนตรีด้วยกัน โดยคนที่แนะนำให้ EBOLA ทำผลงาน คือ รัตน์ โกบายาชิ อดีตมือกลองวง Silly Fools และ Dezember นั่นเอง
วิถีของวงดนตรีใต้ดินแบบฉบับ EBOLA
หลังจากที่เริ่มทำงานจริงจัง วง EBOLA ก็ทำผลงานและไปเล่นตามที่ต่าง ๆ เพราะยุคนั้นวงดนตรีมีพื้นที่ให้แสดงคอนเสิร์ตหลายที่ และมีสื่อนิตยสารสำหรับวงใต้ดินด้วย โดยสมาชิกวงได้เผยว่าวันที่พวกเขามีผลงานเพลง ทางวงได้ภูมิใจมากที่ตัวเองสามารถทำอัลบั้มได้ด้วยตัวเอง และพอไปเล่นคอนเสิร์ต หลังจบงานก็ขายอัลบั้มหมด ซึ่งพวกเขาภูมิใจที่ตัวเองสามารถเล่นดนตรีแบบที่ตัวเองชอบ และได้อยู่กับกลุ่มเพื่อน 5 คนที่คิดอะไรเหมือนกัน
โดย เอ๋ นักร้องนำ ได้เล่าว่าวง EBOLA นั้นทำผลงานที่สื่อถึงเรื่องราวความจริงแบบตรงไปตรงมาตลอด 28 ปี ซึ่งวง EBOLA ได้ทำเพลงเองในช่วงแรกแบบมีเพื่อนร่วมวงการคอยช่วยเหลือ ก่อนที่จะได้รับโอกาสจากค่ายเพลง Warner Music ให้ทำอัลบั้มเต็ม ภายใต้การดูแลของโปรดิวเซอร์มากความสามารถอย่าง จอร์จ-วารุศ รินทรานุกูล ที่นอกจากงานเพลงของ EBOLA แล้ว เขายังอยู่เบื้องหลังเพลงฮิตอย่าง เพลง “เรื่องบนเตียง” ของ Peacemaker และเพลง “ไม่หลับไม่นอน” ของ มาช่า วัฒนพานิช
วันที่ EBOLA ขึ้นมาอยู่บน “บนดิน”
ในช่วงแรกของการทำงานร่วมกับค่ายเพลง Warner Music วง EBOLA เจอปัญหาว่าพวกเขายังไม่สามารถรักษาสมดุลระหว่างตัวตนในฐานะศิลปินใต้ดิน และการปรับตัวเข้าหาแฟนเพลงกลุ่มใหม่ โดยพวกเขาได้มีการพูดคุยกับต้นสังกัดหลายครั้ง จนได้เรียนรู้ว่า ถ้าพวกเขาอยากไปสู่ที่ใหม่ ๆ ก็ต้องมีการปรับตัวหรือเปลี่ยนอะไรบางอย่างในฐานะศิลปิน และมองไปเส้นทางข้างหน้าแบบไม่ยึดติดอะไรเดิม ๆ ที่เคยทำ
และเมื่อวง EBOLA ได้เริ่มปรับเปลี่ยนความคิด จนมีผลงานเพลงที่ไม่จำกัดแค่เพลงเนื้อหาแบบยุคที่ยังทำผลงานใต้ดิน พวกเขาก็ได้ไปเล่นเป็นโชว์เปิดคอนเสิร์ตวง Linkin Park ที่เดินทางมาแสดงที่ไทย พร้อมได้ร่วมงานกับหลายศิลปิน รวมถึงพบกับแฟนเพลงกลุ่มใหม่ แต่ถึงแม้ว่าจะได้พบกับแฟนเพลงกลุ่มใหม่ วง EBOLA ก็เล่าว่าพวกเขาเจอเหตุการณ์ที่ว่าแฟนเพลงหลายคนไม่ยอมรับการเปลี่ยนแปลง เมื่อมีการปรับเปลี่ยนภาษาในเพลงให้กลุ่มคนฟังที่กว้างขึ้น หรือวันที่ทำเพลงเนื้อหาแนวเยียวยาความรู้สึกควบคู่กับเพลงที่มีเนื้อหาตะโกนความจริง
ซึ่งสมาชิกเองก็รู้สึกแปลกใจว่าทำไมวงถึงเจอความเห็นแบบนี้ เพราะพวกเขามองว่าตัวเองยังทำเพลงเหมือนเดิม แต่แค่มีการเปลี่ยนวิธีใช้ภาษาบ้าง โดยตัวของเอ๋ นักร้องนำได้ยืนยันกลางรายการแบบชัดเจนว่า วง EBOLA จะไม่มีเพลงรักหวาน ๆ แน่นอน แต่ถ้าเป็นเพลงแนวให้กำลังใจ พวกเขาสามารถทำออกมาให้แฟนเพลงฟังได้
บทสรุป
วงการเพลงใต้ดินนั้นเป็นพื้นที่ที่ศิลปินได้เป็นตัวเอง แต่ถ้าศิลปินใต้ดินอยากเข้าหากลุ่มคนฟังที่กว้างขึ้น พวกเขาจะต้องปรับการทำงานใหม่เพื่อพาผลงานไปพบปะคนกลุ่มใหม่ ๆ โดยวง EBOLA ก็ได้ผ่านการเปลี่ยนแปลงจนกลายเป็นที่รู้จักวงกว้างในวันนี้
นอกจากการพูดคุยแล้วในรายการนักผจญเพลง Replay วง EBOLA ก็ได้นำเพลงที่บ่งบอกถึงการเดินทางพวกเขามาเล่นให้ทุกคนได้ฟังด้วยทั้งเพลงสิ่งที่ฉันเป็น, เพลงในความเป็นคน, เพลงวันที่ไม่มีจริง, เพลงฉุดฉันขึ้นไป, เพลงนักแสดงนำ และเพลงกลับสู่จุดเริ่มต้น รวมถึงเล่าประสบการณ์น่าเหลือชื่อในวันที่เป็นศิลปินบนดินอย่างเช่นวันที่พวกเขาได้เล่นดนตรีเปิดคอนเสิร์ตให้กับวง Linkin Park แบบละเอียด
โดยแฟน ๆ สามารถชมรายการเต็มที่ YouTube Thai PBS และเว็บไซต์ https://www.thaipbs.or.th/program/SongHunterTV/episodes/102087