ปิดฉากไปเรียบร้อย สำหรับการแข่งขันฟุตบอลพรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำฤดูกาล 2022 – 2023 และเป็นอีกหนึ่งฤดูกาลที่เต็มไปด้วยสีสัน ความสนุก รวมถึงมีเรื่องราวเป็นที่จดจำมากมาย ไทยพีบีเอส รวบรวมสถิติ และเกร็ดอันน่าสนใจมาบอกกัน
ทีมแชมป์ และทีมตกชั้นประจำฤดูกาล 2022 – 2023
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ประจำฤดูกาล 2022 – 2023 ลงแข่งขันกันทั้งหมด 380 นัด จากจำนวนทีม 20 ทีม และกินระยะเวลาการฟาดแข้งกว่า 10 เดือน (ส.ค.65 - พ.ค.66) ผลการเก็บคะแนนการแข่งขัน เป็นทีมแมนเชสเตอร์ ซิตี้ สามารถเก็บแต้มไปได้สูงสุด 89 แต้ม คว้าแชมป์ไปครอง ตามมาด้วยทีมอาร์เซนอล ที่เก็บคะแนนไปได้ 84 คะแนน ซึ่งก่อนหน้านั้นอาร์เซนอลเป็นทีมนำบนหัวตารางมากว่า 248 วัน แต่ถูกแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ไล่แซงจนเข้าป้ายคว้าแชมป์ในที่สุด
ด้านทีมอันดับสาม ตกเป็นของ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 75 คะแนน และตามมาด้วยนิวคาสเซิล 71 คะแนน จบอันดับที่สี่ ซึ่งอันดับที่หนึ่งถึงสี่ จะได้โควตาไปเล่นฟุตบอลยูฟ่าแชมเปียนส์ลีกฤดูกาลหน้า
ที่น่าสนใจคือ สามทีมที่ต้องตกชั้นจากพรีเมียร์ลีก ลงไปเล่นในลีกแชมเปียนชิพฤดูกาลหน้า ได้แก่ เลสเตอร์ ซิตี้ 34 แต้ม ลีดส์ ยูไนเต็ด 31 แต้ม และเซาธ์แฮมป์ตัน 25 แต้ม ทั้งสามทีมถือว่าเป็นทีมที่มีแฟนบอลจำนวนมาก โดยเฉพาะเลสเตอร์ ซิตี้ ทีมที่มีเจ้าของเป็นคนไทย แถมเมื่อฤดูกาล 2015 – 2016 เคยคว้าแชมป์พรีเมียร์ลีกมาครองมาแล้ว
สถิติผลงานทีมที่น่าสนใจ
นอกจากจะสามารถคว้าแชมป์ไปครอง แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ยังมีสถิติทีมที่ทำผลงานแพ้ในลีกน้อยที่สุด ด้วยจำนวน 5 นัด ซึ่งยังมีอีกทีมที่ทำผลงานแพ้น้อยที่สุดเท่ากัน นั่นคือ นิวคาสเซิล ที่จำนวน 5 นัด
นอกจากนี้ แมสเชสเตอร์ ซิตี้ ยังเป็นทีมที่ทำประตูได้สูงที่สุดด้วยจำนวน 94 ประตู ส่วนทีมที่ทำประตูได้น้อยที่สุดประจำฤดูกาลที่ผ่านมา ได้แก่ วูล์ฟแฮมป์ตัน ด้วยจำนวน 31 ประตู
นิวคาสเซิลยังเป็นทีมที่ทำผลงานเสมอมากที่สุดของฤดูกาล ที่จำนวน 14 นัด ซึ่งเท่ากับทีมเบรนท์ฟอร์ด 14 นัดเท่ากัน ส่วนทีมที่ทำผลงานแพ้มากที่สุดประจำฤดูกาล ได้แก่ เซาธ์แฮมป์ตัน 25 นัด
ด้านทีมที่มีนักเตะอายุเฉลี่ยในทีมน้อยที่สุด ได้แก่ อาร์เซนอล 24.4 ปี และทีมที่มีนักเตะอายุเฉลี่ยมากที่สุดของลีก นั่นคือ เวสต์แฮม 27.8 ปี
ผลงานนักเตะอันโดดเด่น
พรีเมียร์ลีกฤดูกาล 2022 – 2023 เป็นอีกครึ่งหนึ่งที่มีนักเตะหน้าใหม่ที่ย้ายมาร่วมลีก และทำผลงานได้ดี ไม่ว่าจะเป็น กาเซมิโร หรือ ลิซานโดร มาร์ติเนซ กองกลางและกองหลังแห่งแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด นอกจากนี้ยังถือเป็นปีแห่งนักเตะอาร์เจนตินา ทีมแชมป์ฟุตบอลโลกหนล่าสุด ไม่ว่าจะเป็น ลิซานโดร มาร์ติเนซ (แมนฯ ยูฯ), เอ็นโซ เฟร์นานเดซ (เชลซี), ฮูเลียน อัลวาเรซ (แมนฯ ซิตี้) และ อเล็กซิส แม็ค อัลลิสเตอร์ (ไบร์ทตัน แอนด์ โฮฟ อัลเบี้ยน) ที่โชว์ฟอร์มในลีกได้ดีเป็นอย่างมาก
แต่ที่ต้องเรียกว่าเปรี้ยงปร้างสุดๆ คงต้องยกให้ เออร์ลิ่ง เบราท์ ฮาลันด์ กองหน้าแห่งแมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่ทำผลงานยิงประตูในลีกสูงสุดด้วยจำนวน 36 ประตู
ส่วนนักเตะที่มีการส่งบอลให้เพื่อนทำประตู หรือที่เรียกว่า การทำแอสซิสต์ (Assit) ด้วยจำนวนสูงที่สุด ได้แก่ เควิน เดอ บรอยน์ กองกลางตัวเก่งของแมนเชสเตอร์ ซิตี้ สามารถทำแอสซิสต์ไปได้ 17 ครั้ง
ด้านผู้รักษาประตูที่มีผลงานโดดเด่น ทำสถิติไม่เสียประตู หรือที่เรียกว่าทำคลีนชีต (Clean sheet) ได้มากที่สุด ตกเป็นของ ดาบิด เด เคอา ของแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ทำคลีนชีตไปได้ 17 นัด เป็นกำลังสำคัญช่วยให้แมน ฯ ยูฯ เข้าป้ายอันดับสามประจำฤดูกาล
เหตุการณ์ที่ต้องจดจำประจำฤดูกาล 2022 – 2023
ปิดท้ายด้วย “เหตุการณ์สำคัญ” ที่เป็นไฮไลต์ประจำฤดูกาล เริ่มต้นด้วย ข่าวใหญ่ที่คริสเตียโน โรนัลโด้ ออกมาให้สัมภาษณ์ถึงทีมแมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด ต้นสังกัดของตัวเองในเชิงลบ จนเป็นเหตุให้สโมสรยกเลิกสัญญา ก่อนที่ทีม อัล นาสเซอร์ แห่งลีกซาอุดิอาระเบีย จะคว้าตัวไปร่วมทีมพร้อมค่าเหนื่อยมหาศาล
อีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญ เกิดขึ้นในแมทซ์แห่งศักดิ์ศรี “ลิเวอร์พูล vs แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด” โดยเป็นลิเวอร์พูล ในฐานะทีมเจ้าบ้าน ถล่มประตูผู้มาเยือนไปแบบขาดลอย 7-0 ถือเป็นความปราชัยต่อคู่รักคู่แค้นแบบมโหฬารของแมนฯ ยูฯ ที่ต้องถูกบันทึกในประวัติศาสตร์
และส่งท้ายด้วยการคว้าแชมป์ลีกของ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ที่เป็นการคว้าแชมป์ติดต่อกันถึง 3 ครั้ง และยังเป็นแชมป์สมัยที่ 5 ในรอบ 6 ปี เรียกว่าเป็นทีมแข็งแกร่งแห่งยุคอย่างแท้จริง
พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ฤดูกาล 2022 - 2023 รูดม่านลงเรียบร้อย พร้อมเรื่องราวและความประทับใจ จากนี้ไปอีกราวสองเดือน พรีเมียร์ลีก อังกฤษ ก็จะกลับมาเปิดฤดูกาลใหม่กันอีกครั้ง รับประกันความสนุก ตื่นเต้นเร้าใจเช่นเดิม…