ระวังอย่าหลงเชื่อ หลังพบ มิจฯ ปลอมเพจ "ป.ป.ช."

Thai PBS Verify ตรวจสอบพบเพจเฟซบุ๊กชื่อ "สำนักงานป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิด" นำรูปภาพโปรไฟล์ของ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. มาใช้ ซึ่งนอกจากปลอมเพจแล้ว ยังพบว่ามีการนำเอาเนื้อหาข่าวของ Thai PBS Verify ไปแชร์ในเพจอีกด้วย

ภาพโปรไฟล์ของเพจเฟซบุ๊กที่ใช้ชื่อว่า "สำนักงานป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิด" มีการนำโลโก้ของ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. มาใช้เป็นรูปโปรไฟล์ของเพจดังกล่าว (ลิงก์บันทึก)

**โลโก้ของ สำนักงาน ป.ป.ช. ถูกนำมาใช้เป็นรูปโปรไฟล์ของเพจดังกล่าว**

จากการตรวจสอบพบว่า บัญชีเฟซบุ๊กดังกล่าว ระบุว่าเป็นหน่วยงานราชการ ขณะที่ข้อมูลในช่องแนะนำตัว ระบุว่า สำนักงานป้องกันและปราบปรามการกระทำความผิด "ยินดีช่วยเหลือเหยื่ออาชญากรรมออนไลน์ทุกรูปแบบ" และเมื่อตรวจสอบความโปร่งใสของเพจ พบว่าเพจดังกล่าวสร้างขึ้นเมื่อ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา เพียงเท่านั้น

**เพจดังกล่าวสร้างขึ้นเมื่อ 14 ต.ค.ที่ผ่านมา**

อย่างไรก็ตามเมื่อเปรียบเทียบกับเพจจริงของ สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. พบว่า เพจจริงใช้ชื่อว่า "สำนักงาน ป.ป.ช." ปัจจุบันมีผู้ติดตาม 67,000 คน ส่วนยอดการกดถูกใจอยู่ที่ 40,000 คน สร้างมาตั้งแต่วันที่ 19 ต.ค.2558 ขณะที่ช่องแนะนำตัว ระบุเพียง "สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ" เพียงเท่านั้น (ลิงก์บันทึก)

นอกจากนี้จากการตรวจสอบเนื้อหาภายในเพจพบว่า มีการนำเนื้อหาบทความของ Thai PBS Verify ไปแชร์ในเพจอีกด้วย โดยบทความดังกล่าว เป็นบทความเตือนภัยหลอกลงทุนธุรกิจขายตรง ที่ถูกเผยแพร่ทางเว็บไซต์ของ Thai PBS โดยบทความดังกล่าวถูกเผยแพร่ครั้งแรกเมื่อวันที่ 14 ต.ค.2567 ที่ผ่านมา (ลิงก์บันทึก)

บทความเตือนภัยหลอกลงทุนธุรกิจขายตรงของ Thai PBS Verify ถูกพบนำไปโพสต์ในเพจดังกล่าว

ด้านล่างคือการเปรียบเทียบภาพถ่ายหน้าจอระหว่างเพจปลอม (ซ้าย) และภาพจากเว็บไซต์ที่มิจฉาชีพนำบทความมาโพสต์ในเพจ (ขวา):

อย่างไรก็ตาม เพจเฟซบุ๊กหลักของ สำนักงาน ป.ป.ช. ได้ออกมาโพสต์เตือนเพจดังกล่าวแล้วว่าเป็นเพจปลอม และขอให้ประชาชนติดตามข่าวสารได้ที่เพจทางการของสำนักงาน ป.ป.ช. ทาง https://www.facebook.com/NACCThailandOfficialFanpage เพียงเท่านั้น (ลิงก์บันทึก)

สำหรับเพจหลักของ Thai PBS Verify สามารถติดตามข้อมูล บทความ และข่าวสารได้ที่ https://www.thaipbs.or.th/verify หรือที่เฟซบุ๊กของ Thai PBS Verify เท่านั้น (ลิงก์บันทึก)

ทั้งนี้หากประชาชนพบเห็นบัญชีสื่อสังคมออนไลน์ใดลงโฆษณาอ้างว่า สามารถแจ้งความออนไลน์ หรือลงทะเบียนรับเงินคืนได้ที่บัญชีสื่อสังคมออนไลน์ดังกล่าว สามารถแจ้งเบาะแสได้ที่สายด่วนสำนักงานตำรวจแห่งชาติ 1599 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบข้อมูลต่อไป