ในช่วงยุค 2000 ถือเป็นปีแห่งการเข้าสู่สหัสวรรษใหม่ และยังเป็นยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงในอีกหลาย ๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นแฟชันการแต่งตัว วิถีชีวิต รวมไปถึงวิวัฒนาการของเทคโนโลยีที่เริ่มเข้ามามีบทบาทสำคัญ
จะเห็นได้ชัดจากการที่วัยรุ่นเริ่มหันไปเล่นโซเชียลมิเดีย นั่นเป็นจุดสำคัญที่ทำให้แนวทางการเสพเพลงของวัยรุ่นในยุค 2000 นั้น เริ่มที่จะมีพฤติกรรมเปลี่ยนแปลงไปจากเดิม
ในรายการนักผจญเพลง Replay ได้ชวนศิลปินที่เคยอยู่ในวงการเพลงยุค 2000 และแต่ละบทเพลงของพวกเขา ยังได้รับความนิยมจากวัยรุ่นในยุคนั้นเป็นอย่างมาก เรียกได้ว่าถ้าใครเป็นวัยรุ่น Y2K จะต้องร้องเพลงของพวกเขาได้มาจนถึงวันนี้อย่างแน่นอน และศิลปินกลุ่มนั้นก็คือวง Dr.Fuu และวง FLAME
2 ศิลปินวงร็อกที่เคยอยู่ภายใต้สังกัดของค่าย RS ซึ่งปัจจุบันได้หมดสัญญาและกลายเป็นศิลปินอิสระมาจนถึงทุกวันนี้ พวกเขาได้มาถ่ายทอดเรื่องราวเกี่ยวกับเส้นทางการเป็นศิลปินตั้งแต่จุดเริ่มต้นการรวมวง จนถึงในวันที่มีเพลงดังจนผู้คนร้องตามกันได้ทั้งประเทศ
บทความนี้จึงจะพาทุกคนย้อนกลับไปในช่วงที่ตัวเองยังเป็นวันรุ่น Y2K กันอีกครั้ง ว่าเพลงของศิลปิน 2 วงนี้ ได้เข้ามามีบทบาทสำคัญยังไงบ้าง รวมไปถึงความสนุกของการเสพเพลงในแบบฉบับของคนยุคนั้น บรรยากาศจะเป็นยังไง เราไปย้อนความทรงจำด้วยกันกับบทความในตอนนี้
การเสพเพลงในยุควัยรุ่น Y2K
ยุค 2000 ถือเป็นอีกหนึ่งยุคทองที่วงการเพลงไทยรุ่งเรืองเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะในกลุ่มวัยรุ่นที่สนใจการฟังเพลงมากขึ้น เพราะมีแนวทางในการเสพเพลงที่หลากหลายช่องทาง ไม่ว่าจะเป็นทางคลื่นวิทยุขวัญใจวัยรุ่นอย่าง SEED Radio หรือการเลือกรับฟังเพลงผ่านทางโทรทัศน์ ที่มีฟรีทีวีสำหรับรายการเพลงเพื่อวัยรุ่นโดยเฉพาะ เช่น You Channal เป็นต้น
รวมไปถึงการฟังเพลงผ่านอินเตอร์เน็ตตามเว็บไซต์ต่าง ๆ เช่น เว็บไซต์ Music ATM อีกทั้งยังมีเว็บไซต์ที่ไว้สำหรับดาวน์โหลดเพลงสุดฮิตอย่าง “4 Shere” หรือแม้แต่การดาวน์โหลดผ่านทางโทรศัพท์ ที่ในช่วงนั้นถ้าเพลงไหนดัง กำลังเป็นกระแส จะต้องถูกนำไปดาวน์โหลดเป็นเพลงรอสายบ้าง หรือริงโทนบ้าง ใครที่เป็นวัยรุ่น Y2K จะต้องเคยผ่านการใช้สื่อเหล่านี้ในการเสพเพลงอย่างแน่นอน
เพลงสุดไวรัล ที่วัยรุ่นต้องเคยใช้ตั้ง Status
และแน่นอนว่า 2 วงร็อกขวัญใจวัยรุ่นอย่าง Dr.Fuu และวง FLAME ก็ถือเป็นวงที่ได้รับความนิยมสูงมากในยุคนั้น เพลงของพวกเขาไม่เพียงได้รับความนิยมจนติดชาร์ตเพลงในอันดับต้น ๆ เท่านั้น แต่ละบทเพลงของพวกเขายังถือเป็นเพลงในยุคแรก ๆ ที่มีการนำชื่อเพลง หรือเนื้อเพลงที่โดนใจ นำไปโพสต์ลงในสื่อโซเชียลมิเดียต่าง ๆ และที่เป็นที่นิยมในยุคนั้นก็คือ “Hi 5” หรือ “Facebook” นั่นเอง
ตัวอย่างเพลงแทนใจคนเศร้าสุดไวรัลอย่างเช่น “ใจเหลือ ๆ”, “เมื่อไหร่จะรัก”, “ไม่ใช่เทวดา”, “ดวงดาวแห่งรัก” ของวง Dr.Fuu อีกทั้งยังมีเพลง “จำไว้คนเลว”, “รักสนุก”, “คนหน้าตาดีชอบมีแฟนแล้ว”, “สาปแช่งพวกแย่งแฟน” เพลงสุดจี๊ดที่แรงกระแทกใจของวง FLAME และอื่น ๆ อีกมากมาย เชื่อว่าครั้งนึงของการเป็นวัยรุ่น Y2K คุณจะต้องเคยเอาหนึ่งในเพลงของพวกเขาไปตั้ง Status อย่างแน่นอน
เพลงของพวกเขาไม่เพียงแค่ได้รับความนิยมในช่วงยุคหนึ่งเท่านั้น แต่ปัจจุบันเชื่อว่าใครหลาย ๆ คนก็ยังคงเปิดฟังเพลงของพวกเขาอยู่เสมอ แม้จะผ่านเวลามานาน ไม่ว่าแต่ละวงจะมีการเปลี่ยนแปลงไปมากน้อยเพียงใด แต่เสียงเพลงของพวกเขาไม่เคยหายจากวงการ เรายังคงได้ยินเพลงของพวกเขาถูกร้องตามสถานบันเทิง หรือตามงานต่าง ๆ อยู่เสมอ และไม่ว่าเพลงไหนจะถูกหยิบมาร้องมาเล่น เชื่อว่าทุกคนต้องร้องตามกันได้อย่างแน่นอน
การสร้างวงดนตรีขึ้นมาหนึ่งวง กว่าจะหาสมาชิกมารวมตัวกันได้นับว่าเป็นเรื่องที่ยากแล้ว แต่กว่าจะมีเพลงฮิตนั้นเป็นเรื่องที่ยากมากกว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายเลยในการที่วงดนตรีวงหนึ่งจะสร้างเพลงฮิตที่ยังดังมาถึงยุคปัจจุบันนี้ได้
ใครที่คิดถึงวง Dr.Fuu และวง FLAME มารับชมพวกเขาได้ในรายการนักผจญเพลง Replay กับตอนที่มีชื่อว่า “Flame x Dr.Fuu กว่าจะมีเพลงฮิต” รับชมได้ทาง YouTube Thai PBS และ เว็บไซต์ https://www.thaipbs.or.th ซึ่งพวกเขาได้จัดเตรียมโชว์เพลงสุดพิเศษที่เชื่อว่าแฟน ๆ จะต้องหายคิดถึงพวกเขากันอย่างแน่นอน