ระหว่างการวิ่งบนทางวิ่งเพื่อนำเครื่องบินขึ้นนั้น นักบินจะต้องเชิดหัวเครื่องขึ้นในความเร็วและมุมเชิดที่ถูกต้องเพื่อพยุงแรงยกของปีกให้สร้างแรงยกได้มากพอที่จะไต่ระดับ แต่ขณะเดียวกัน มุมเชิดนั้นก็จะต้องไม่มากเกินไปชนหางของเครื่องบินขูดหรือไถลกับพื้นซึ่งถือเป็นหนึ่งในความเสี่ยงต่ออุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ระหว่างการขึ้นบิน
การขูดหรือไถลกับทางวิ่งของหางของเครื่องบินมีศัพท์ทางการบินว่า “Tailstrike”
ในระหว่างการวิ่งขึ้นบินบนทางวิ่งนั้น หนึ่งในสิ่งที่นักบินจะต้องคอยสังเกตเสมอคือความเร็วของเครื่องบินซึ่งจะสอดคล้องกับสิ่งที่เรียกว่า “V Speed” ซึ่งค่าคงที่ในการคำนวณเพื่อขึ้นบินของเครื่องบินในแต่ละช่วง มีอยู่หลัก ๆ อยู่ 3 ค่า คือ V1 Speed, VR Speed และ V2 Speed
ความเร็ว V1 คือความเร็วที่เร็วเกินไปเกินกว่าที่จะหยุดได้ทันแล้ว ดังนั้นไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น เครื่องบินจะต้องขึ้นบิน ไม่เช่นนั้นแล้วจะไถลออกนอกทางวิ่ง
ความเร็ว VR หรือ Rotation Speed คือความเร็วที่นักบินสามารถเชิดหัวขึ้นได้ เป็นความเร็วที่ปีกมีแรงยกมากพอในการพยุงเครื่องบินขึ้น
ความเร็ว V2 คือ ความเร็วที่เครื่องบินจะสามารถไต่ระดับได้อย่างปลอดภัยแม้จะเสียเครื่องยนต์ไปหนึ่งเครื่อง
เมื่อความเร็วถึง VR นักบินจะทำสิ่งที่เรียกว่า “Rotation” ซึ่งหมายถึงการเชิดหัวของเครื่องบินขึ้นด้วยการดึงคันบังคับแพนควบคุมเครื่องบิน การเชิดหัวของเครื่องบินขึ้นจะเพิ่มมุมปะทะของอากาศกับปีก (Angle of Attack) ทำให้ปีกมีแรงยกและค่อย ๆ ยกตัวออกจากทางวิ่งได้
อย่างไรก็ตาม หากเครื่องบินมีมุมเชิดระหว่างการขึ้นบินมากจนเกินไป หางของเครื่องบินนั้นจะเข้าใกล้กับพื้นดินจนเกิดขูดหรือไถลกับพื้นของทางวิ่งไปได้ ซึ่งสาเหตุของการเกิด Tailstrike นั้นมีหลากหลายมาก ตั้งแต่ความผิดพลาดของนักบิน (Pilot Error) เช่น เชิดหัวขึ้นก่อน VR Speed หรือเชิดหัวขึ้นด้วยมุมที่ชันเกินไป หรืออาจจะเกิดจากปัจจัยภายนอก เช่น กระแสลมจากข้างหลัง (Tailwind) ทำให้ปีกสูญเสียแรงยก หรือมีน้ำแข็งก่อตัวบนปีกของเครื่องบินจากการละลายน้ำแข็ง (Deice) ไม่สมบูรณ์ ทำให้ปีกเสียประสิทธิภาพ ปัจจัยเหล่านี้ล้วนอาจทำให้หางของเครื่องบินไถลกับพื้นของทางวิ่งได้
ความเสียหายจากการเกิด Tailstrike นั้นอาจเล็กน้อยหรือรุนแรงขึ้นอยู่กับระยะทางที่หางของเครื่องบินไถลกับพื้นทางวิ่งรวมถึงความแรงในการไถล หลังการเกิด Tailstrike นั้น เครื่องบินมักจะต้องได้รับการตรวจสอบอย่างถี่ถ้วนก่อนที่จะนำกลับมาบินใหม่ได้
การซ่อม Tailstrike ที่ไม่ได้มาตรฐานเคยคร่าชีวิตผู้คนกว่าหลายร้อยคนมาแล้วในกรณีของเที่ยวบิน JAL 123 ในวันที่ 12 สิงหาคม 1985 การซ่อม Tailstrike ที่ไม่ได้มาตรฐานเมื่อ 7 ปีก่อนหน้า ทำให้โครงสร้างบริเวณท้ายเครื่องของเครื่องบินล้มเหลว เป็นเหตุให้เครื่องบินเสียแรงดันและสูญเสียแพนปีกหลังรวมถึงระบบควบคุมทั้งหมดและตกในที่สุด มีผู้เสียชีวิตกว่า 520 คน
เรียบเรียงโดย โชติทิวัตถ์ จิตต์ประสงค์
🎧 อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech