“พุ่มพวง ดวงจันทร์” หรือที่ทุกคนเรียกกันว่า “แม่ผึ้ง” ศิลปินลูกทุ่งหญิงที่มีบทบาทกับวงการเพลงลูกทุ่งในบ้านเราเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นผลงานเพลงอมตะมากมายที่ไม่เคยหายไปจากวงการเพลงไทย 

และบทเพลงของแม่ผึ้งยังเปรียบเสมือน “วิชา” ที่ศิลปินลูกทุ่งไทยในหลาย ๆ รุ่น จะต้องเคยศึกษาบทเรียนนี้อย่างแน่นอน หรือแม้กระทั่งตัวตนของแม่ผึ้งเอง ที่ถูกหยิบยกให้เป็นศิลปินระดับครูต้นแบบ เป็นตัวอย่างที่ดีให้กับศิลปินรุ่นใหม่ ๆ ได้เดินตามรอยของแม่ผึ้งต่อไป

เพลงดังตลอดกาลของ พุ่มพวง ดวงจันทร์

แม่ผึ้ง-พุ่มพวง ดวงจันทร์ ศิลปินที่แม้จะจากไปกว่า 30 ปีแล้วก็ตาม แต่เรื่องราวและบทเพลงของเขากลับยังคงอยู่คู่กับวงการเพลงไทยมาจนถึงปัจจุบัน ซึ่งแม้จะเป็นเด็กรุ่นใหม่ก็ตาม เชื่อว่าหลาย ๆ คนคงต้องเคยได้ยินบทเพลงของแม่ผึ้งอย่างแน่นอน 

ไม่ว่าจะเป็นเพลงดังสุดคลาสสิคที่ร้องตามกันได้ทั้งประเทศอย่าง “ผู้ชายในฝัน”, “หนูไม่รู้”, “อื้อฮือหล่อจัง” หรือเพลง “กระแซะเข้ามาซิ” เพลงที่มีจังหวะสนุกสนาน เรียกได้ว่าเราแทบจะได้ยินเพลงเหล่านี้อยู่ในทุกงานที่ให้ความบันเทิงเลยก็ว่าได้     

ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีบทเพลงช้า ที่โชว์ความสามารถในด้านเสียงร้อง และเหล่านักล่าเวลาการประกวดร้องเพลงลูกทุ่งหลายคนต้องเคยนำไปใช้อย่างแน่นอน เช่น เพลง “นักร้องบ้านนอก”, “ดาวเรืองดาวโรย”, “คนดังลืมหลังควาย” หรือ “สาวนาสั่งแฟน”

จากการที่เพลงของแม่ผึ้งเป็นเพลงที่ได้รับความนิยมตลอดกาล นั่นเพราะเอกลักษณ์ทางดนตรีที่มีการปรับเปลี่ยนแนวเพลงให้มีความทันสมัย และมีความเป็นแนวดนตรีสตริงมากขึ้น อีกทั้งยังมีการเปลี่ยนแปลงการเรียบเรียงเสียงประสานให้แตกต่างไปจากเดิมโดยสิ้นเชิง นั่นจึงทำให้เพลงของแม่ผึ้งกลายเป็นเพลงลูกทุ่งร่วมสมัย เด็กรุ่นใหม่ฟังได้ และผู้ใหญ่ฟังก็ยังคงชื่นชอบไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งเพลงเหล่านี้ยังถือเป็นยุคทองของศิลปินที่ชื่อ “พุ่มพวง ดวงจันทร์” อีกด้วย

พุ่มพวง ดวงจันทร์ กับความมหัศจรรย์ที่เกิดขึ้น

อ.เจนภพ จบกระบวนวรรณ หนึ่งในครูเพลงคนสนิทของแม่ผึ้ง ได้มาเล่าเรื่องราวความมหัศจรรย์ของนักร้องสาวคนนี้ไว้ในรายการนักผจญเพลง Replay โดย อ.เจนภพ เผยว่า แม่ผึ้งนั้นเป็นคนที่อ่านหนังสือไม่ออกแม้แต่ตัวเดียว อีกทั้งยังเขียนหนังสือไม่ได้ แต่นั่นกลับไม่ได้เป็นอุปสรรคใหญ่ในการร้องเพลงของเธอเลย 

เธอใช้พรสวรรค์ในด้านเสียงร้องที่มีบวกกับใช้ทักษะด้านการจดจำ และนั่นทำให้เธอเป็นนักร้องเพียงคนเดียวที่เดินเข้าห้องอัดเสียงโดยที่ไม่ต้องใช้เนื้อเพลง แต่ทุกคำร้องที่ออกมานั้นมาจากการจดจำเพียงอย่างเดียว ตั้งแต่เนื้อร้อง ทำนอง จังหวะ เธอคนนี้สามารถจำได้ทั้งหมดแม้จะอ่านหนังสือไม่ได้เลยก็ตาม และ อ.เจนภพ ได้บอกว่า พุ่มพวง ดวงจันทร์ คือนักร้องลูกทุ่งคนแรก ที่สามารถทะลุกำแพงความเชยของเพลงบ้าน ๆ อีกทั้งยังยกระดับเพลงลูกทุ่งแบบเดิม ๆ ให้ขึ้นมาเป็นเพลงมหาชนจนถึงปัจจุบันอีกด้วย

จากความสามารถทั้งด้านการร้องและเต้นที่โดดเด่น ทำให้แม่ผึ้งพร้อมกับคณะวงดนตรี ได้ขึ้นเวทีโลกดนตรี และนี่ยังถือเป็นวงดนตรีลูกทุ่งวงแรกในประเทศที่ได้ขึ้นเวทีโลกดนตรี เท่านั้นยังไม่พอ แม่ผึ้งยังได้รับโอกาสในการขึ้นร้องเพลงการกุศลถวายหน้าพระที่นั่งที่โรงแรมดุสิตธานี เมื่อปี พ.ศ. 2529 โดยร้องทั้งหมด 16 เพลงรวด และนี่ยังเป็นวงดนตรีลูกทุ่งเพียงวงเดียวเท่านั้นที่ได้ขึ้นทำการแสดงบนโรงแรมดุสิตธานีอีกด้วย

บทสรุป

การขึ้นเวทีใหญ่ครั้งสุดท้ายของแม่ผึ้ง คือการได้ร้องเพลงถวายหน้าพระที่นั่งกับบทเพลงพระราชนิพนธ์ ในบทเพลง “ส้มตำ” ซึ่งนั่นถือเป็นการทำหน้าที่ในฐานะศิลปินจนวาระสุดท้ายของชีวิต และได้ปิดตำนานราชินีลูกทุ่ง “พุ่มพวง ดวงจันทร์” ได้อย่างสง่างาม

เสน่ห์ที่ทำให้แม่ผึ้งยังคงตราตรึงอยู่ในจิตใจของแฟน ๆ นอกจากจะเป็นเรื่องของความไพเราะของแต่ละบทเพลงแล้ว ตัวตนของแม่ผึ้งที่มีลักษณะจิตใจดี เป็นกันเอง และไม่เคยดูถูกคนดูจึงเต็มที่ในทุก ๆ การแสดง ทั้งร้องดี เต้นสวย นี่คือความครบเครื่องของผู้หญิงที่ชื่อ “พุ่มพวง ดวงจันทร์” และนั่นทำให้นางพญาลูกทุ่งหญิงคนนี้คงอยู่คู่กับวงการเพลงไทยตลอดกาล

นี่เป็นส่วนหนึ่งของความมหัศจรรย์ของแม่ผึ้ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ หากใครคิดถึงเรื่องราวของแม่ผึ้ง สามารถติดตามได้ในรายการนักผจญเพลง Replay กับตอนที่มีชื่อว่า “กว่าจะเป็นนางพญาเพลงลูกทุ่ง พุ่มพวง ดวงจันทร์” ทาง YouTube Thai PBS และ เว็บไซต์ https://www.thaipbs.or.th/program/SongHunterTV/episodes/103749 ยังมีการถ่ายทอดบทเพลงเพราะ ๆ ที่จะทำให้ทุกคนหายคิดถึงแม่ผึ้ง พุ่มพวง ดวงจันทร์ อย่างแน่นอน