ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

Secret Story | Children of the Mist เมื่อประเพณีโบราณปะทะโลกสมัยใหม่


Lifestyle

30 ส.ค. 67

ธิดา ผลิตผลการพิมพ์

Logo Thai PBS
แชร์

Secret Story | Children of the Mist เมื่อประเพณีโบราณปะทะโลกสมัยใหม่

https://www.thaipbs.or.th/now/content/1539

Secret Story | Children of the Mist เมื่อประเพณีโบราณปะทะโลกสมัยใหม่
บริการเสริมจาก Thai PBS AI

Children of the Mist เปิดด้วยภาพงดงามของหมู่บ้านชาวม้งบนภูเขาทางตอนเหนือของเวียดนาม แต่ไม่กี่ฉากต่อมา ความสวยงามนั้นก็จางหายเมื่อสิ่งที่เราเริ่มได้พบคือเรื่องราวของประเพณีที่ชวนให้ตกใจ นั่นคือ "การลักพาตัวเจ้าสาว" (Bride kidnapping) หรือเล่าให้ละเอียดกว่านั้นได้ว่า มันคือสถานการณ์ที่เด็กสาววัยเพียง 12-13 ปี ถูกผู้ชายฉุดไปจากบ้าน ตามด้วยการถูกบังคับให้แต่งงานกับเขาทั้งที่อาจแทบไม่เคยรู้จัก สนิทสนมกันเลยด้วยซ้ำ

ฟังดูเหมือนฉากในหนังระทึกขวัญใช่ไหม แต่นี่คือเรื่องจริงที่เกิดขึ้นในชุมชนชาวม้งหลายต่อหลายแห่ง

ฮาเหล่เดียม ผู้กำกับสาวชาวเวียดนามก็ตกใจไม่แพ้กันตอนได้รู้จักประเพณีนี้ เธอบอกว่า 

"ตอนแรกฉันคิดว่ามันเป็นแค่เรื่องเล่า แต่แล้วระหว่างที่ฉันอยู่ในหมู่บ้านเพื่อทำสารคดีเรื่องนี้ เหตุการณ์ก็เกิดขึ้นจริง ๆ กับเด็กผู้หญิงคนหนึ่ง เธอถูกลักพาตัวไปและต่อมาก็ถูกขายไปที่ชายแดนจีน ทำให้ฉันตกใจมาก"

Children of the Mist เล่าเรื่องราวของ ดี้ เด็กสาวชาวม้งวัย 12 ปีที่อาศัยอยู่กับครอบครัวและใช้ชีวิตประจำวันตามวิถีปกติ ทั้งวิ่งเล่นกับเพื่อน ๆ ในทุ่งหญ้ากว้าง ช่วยพ่อแม่ทำงานในไร่นาขั้นบันได และเดินทางไปโรงเรียนท่ามกลางสายหมอกยามเช้า เราได้เห็นเธอค่อย ๆ เติบโตและเปลี่ยนแปลงจากเด็กน้อยไร้เดียงสาสู่วัยแรกรุ่นที่เริ่มสนใจเรื่องความรัก

ดี้ เด็กสาวชาวม้งวัย 12 ปี

แต่แล้วในช่วงเทศกาลตรุษจีน เมื่อดี้อายุ 14 ปีครึ่ง เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เธอคบหากับเด็กหนุ่มอายุเท่า ๆ กันและพากันเดินหายไปในบ่ายวันหนึ่ง ก่อนที่แม่ของเธอจะได้ยินข่าวว่าลูกสาวถูกลักพาตัวไปแล้วและพ่อแม่ของฝ่ายชายพากันเดินทางมาเยี่ยมเยือนพร้อมข้อเสนอเรื่องสินสอดในงานแต่งงาน หนังพาเราไปสัมผัสกับความวุ่นวาย ความกลัว และความขัดแย้งที่เกิดขึ้น ทั้งในใจของดี้เอง ครอบครัวของเธอ และชุมชนรอบข้าง ซึ่งนำมาสู่การต่อรอง โต้เถียงและการตัดสินใจที่ยากลำบากของทุกคนที่เกี่ยวข้อง

ฮาเหล่เดียมบอกว่า เธออยากสื่อถึงความขัดแย้งระหว่างประเพณีโบราณและโลกสมัยใหม่ที่ทุกสิ่งเปลี่ยนแปลงไป 

"มันเป็นเรื่องราวของคนรุ่นเราที่ต้องสูญเสียวัยเด็กไปอย่างกะทันหัน และฉันรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรมเลย ฉันอยากพูดถึงความรู้สึกเศร้าและเหงาซึ่งเราต้องเผชิญตามลำพังในช่วงที่กำลังเติบโต การต้องผ่านมันไปให้ได้เป็นอะไรที่ยากและน่ากลัวมาก”

นอกจากนี้ เธอยังอยากให้เราเห็นประเด็นการละเมิดสิทธิมนุษยชนและการละเมิดความเป็นเด็ก ที่แฝงอยู่ในประเพณีลักพาตัวเจ้าสาวนี้ด้วย "ฉันไม่ได้ต้องการตัดสินว่าประเพณีนี้ถูกหรือผิด แต่ฉันอยากให้ผู้ชมได้เห็นว่ามันส่งผลกระทบต่อชีวิตของเด็กผู้หญิงอย่างไร เด็ก ๆ ควรได้มีโอกาสเลือกอนาคตของตัวเอง ไม่ใช่ถูกบังคับให้แต่งงานตั้งแต่ยังไม่พร้อม ยิ่งกว่านั้นคือนี่ไม่ใช่แค่เรื่องของประเพณี แต่มันเกี่ยวข้องกับความยากจน การขาดโอกาสทางการศึกษา และความไม่เท่าเทียมทางเพศที่ฝังรากลึกในสังคมของเรา”

สิ่งที่ทำให้ Children of the Mist น่าทึ่งมาก ๆ คือการที่หนังและกล้องสามารถพาเราเข้าใกล้ชิดซับเจ็กต์ราวกับเราเป็นสมาชิกในชุมชนม้งและในบ้านของดี้ไปด้วย เราจึงมีโอกาสได้เห็นทุกคนรอบข้างแสดงความคิดความรู้สึกและพฤติกรรมออกมาเต็มที่ (ซึ่งนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้บางช่วงของหนังชวนลุ้นระทึกมาก) 

ดี้ ตอนอายุ 12 ปี

ความสำเร็จในแง่นี้ต้องปรบมือให้กับฮาเหล่เดียมที่ทุ่มเวลาถึง 3 ปี โดยเดินทางไปอยู่ในหมู่บ้านของดี้ปีละ 5-6 ครั้ง ครั้งละไม่ต่ำกว่าหนึ่งเดือน เพื่อจะใช้ชีวิตร่วมกับครอบครัวนี้ ร่วมทำงานในไร่ ช่วยดูแลวัวควาย และเข้าร่วมกิจกรรมทางสังคมต่าง ๆ เธอเล่าว่า "ฉันถ่ายทำคนเดียว ดังนั้นไมค์จึงติดอยู่กับกล้อง จึงกลายเป็นการบังคับกลาย ๆ ให้ฉันต้องอยู่ใกล้ตัวละครเสมอ ข้อเสียคือมันอาจจะทำให้การจัดองค์ประกอบภาพมีข้อจำกัด แต่ข้อดีคือทำให้ดี้เปิดใจกับฉันได้ง่ายขึ้น"

ความท้าทายไม่ได้มีแค่ด้านเทคนิคเท่านั้น แต่ฮาเหล่เดียมยังต้องเผชิญหนึ่งในเรื่องชวนลำบากใจที่สุดของคนทำสารคดีด้วย นั่นก็คือเรื่อง “จริยธรรมและการวางตัวเป็นกลาง” เนื่องจากการเข้าไปใกล้ชิดซับเจ็กต์จนเหมือนพี่น้องเหมือนเพื่อน และความรู้สึกขัดแย้งที่มีเหตุการณ์ตรงหน้า ทำให้เธอสับสนว่าตนเองเข้าไปก้าวก่ายกับชีวิตของพวกเขามากเกินไหมและควรทำอย่างไรกันแน่ เมื่อดี้ต้องเผชิญปัญหาที่อาจจะมีแต่เธอเท่านั้นที่ช่วยได้

ไม่แปลกที่ถ้าใครได้ดู Children of the Mist แล้วจะรู้สึกโกรธ เศร้า หรือรังเกียจประเพณีลักพาตัวเจ้าสาวนี้ อย่างไรก็ตาม เราก็อาจสามารถทำความเข้าใจการมีอยู่ของมันได้เช่นกัน (ไม่ว่าจะเห็นด้วยหรือไม่)

ประเพณีการแต่งงานของชาวม้งนั้นมีหลายรูปแบบ ทั้งการแต่งงานแบบจัดเตรียมหรือคลุมถุงชนที่พ่อแม่เป็นฝ่ายเลือกคู่ครองให้ลูก หรือติดต่อผ่านคนที่ทำหน้าที่แม่สื่อ, การแต่งงานแบบหนีตามกัน ที่คู่รักตัดสินใจชักชวนกันหนีไปแต่งงานกันเอง และการแต่งงานที่เริ่มด้วยการลักพาเจ้าสาวหรือ "การขโมยเจ้าสาว" ซึ่งมีรากเหง้ามาจากความเชื่อและวิถีชีวิตดั้งเดิมของชาวม้ง การลักพานี้มักเกิดขึ้นในช่วงเทศกาลสำคัญ (เช่น ปีใหม่ม้ง) และอาจเกิดขึ้นโดยที่ฝ่ายหญิงไม่รู้ตัวมาก่อน หรือในบางกรณี อาจมีการตกลงกันระหว่างคู่รักหนุ่มสาวล่วงหน้าด้วยซ้ำ 

โดยหลังจากที่หญิงสาวถูกพาตัวไปถึงบ้านฝ่ายชายก็จะมีการเจรจาสู่ขอต่อรองระหว่างครอบครัวของทั้งสองฝ่าย หากตกลงกันได้ก็จะมีการจัดพิธีแต่งงานตามธรรมเนียม แต่หากฝ่ายหญิงไม่ยินยอม เธอมีสิทธิ์ที่จะปฏิเสธและกลับบ้านภายใน 3 วัน (ในหนัง เราจะเห็นการ “ดื่มเหล้าเลิกรา” ด้วย เป็นส่วนหนึ่งในประเพณีหากมีฝ่ายใดไม่ต้องการแต่งงานและต้องการแยกทาง)

กระนั้นก็ตาม ในความเป็นจริง การปฏิเสธก็มักไม่ใช่เรื่องง่ายนัก เนื่องจากมีแรงกดดันทางสังคมและความกลัวว่าจะไม่มีใครอยากมาแต่งงานด้วยอีกในอนาคต นอกจากนี้ ในบางกรณี การ "ลักพา" ที่ว่านี้ก็อาจนำไปสู่การบังคับแต่งงานหรือแม้แต่การค้ามนุษย์ โดยเฉพาะในพื้นที่ชายแดนที่มีปัญหาการค้ามนุษย์ข้ามชาติ

ปัจจุบัน บางชุมชนยังใช้ประเพณีนี้อยู่ แต่ด้วยการเปลี่ยนแปลงทางสังคมและการศึกษาที่สูงขึ้น ชาวม้งรุ่นใหม่หลายคนก็เริ่มตั้งคำถามต่อประเพณีการลักพาเจ้าสาวและหันมาเลือกวิธีการแต่งงานแบบสมัยใหม่มากขึ้น 

สารคดีอย่าง Children of the Mist จึงช่วยทำหน้าที่เปิดประเด็นให้สังคมได้ถกเถียงเกี่ยวกับการรักษาสมดุลระหว่างการอนุรักษ์วัฒนธรรมดั้งเดิมและการปกป้องสิทธิมนุษยชน โดยเฉพาะสิทธิของเด็กและสตรี เป็นการตั้งคำถามว่าอะไร ? คือสิ่งที่ควรค่าแก่การรักษาไว้ และอะไรที่ควรเปลี่ยนแปลงเพื่ออนาคตที่ดีกว่าของเยาวชน

🎬รับชมสารคดี Children of the Mist ได้ทาง www.VIPA.me และ VIPA Application 

แท็กที่เกี่ยวข้อง

Secret StoryVIPAdotMeVIPAสารคดี VIPAสารคดีสารคดีต่างประเทศการลักพาตัวเจ้าสาวเวียดนามชาวม้งประเพณีสิทธิมนุษยชนสิทธิสตรีสิทธิเด็ก
ธิดา ผลิตผลการพิมพ์
ผู้เขียน: ธิดา ผลิตผลการพิมพ์

ผู้ก่อตั้ง Documentary Club คลับของคนรักสารคดี และหนังนอกกระแส

บทความ NOW แนะนำ

ข่าวล่าสุด