ใครจะเคยคิดว่าคนธรรมดาสามัญ กินเงินเดือนไปวัน ๆ ทำงานแล้วกลับห้องเช่าขนาดเล็กแค่พอให้แมวดิ้น ก็สามารถกลายเป็นนักสะสมงานศิลปะจำนวนมหาศาล มูลค่าแพงระยับระดับโลกกับเขาได้เหมือนกัน ?
Herb & Dorothy เป็นสารคดีเล็ก ๆ เรียบ ๆ ง่าย ๆ ที่พาเราไปทำความรู้จักสามีภรรยาน่ารักคู่หนึ่ง ผู้สร้างวีรกรรมเหลือเชื่อนี้ให้เราได้เห็นอย่างใกล้ชิด ยิ่งกว่านั้นคือมันทำให้เรารู้สึกขึ้นมาทันทีว่า โลกศิลปะไม่ใช่โลกไกลเกินเอื้อม และการเป็นนักสะสมชั้นดี ก็ไม่เกี่ยวอะไรเลยกับการเป็นเศรษฐีร้อยล้านอย่างที่เราอาจเคยคิดมาตลอด !
เฮิร์บ โวเกล เป็นพนักงานไปรษณีย์ ส่วน โดโรธี ภรรยาของเขาเป็นบรรณารักษ์ห้องสมุด ทั้งคู่อาศัยอยู่ในอะพาร์ตเมนต์ห้องนอนเดียวขนาดเล็ก ๆ ในแมนฮัตตันมาตั้งแต่ต้นทศวรรษ 1960 พวกเขาไม่มีทั้งเงินสำหรับกว้านซื้องานศิลปะและไม่มีคฤหาสน์สำหรับเอามันมาประดับประดาโชว์ฐานะแน่ ๆ แต่ในเมื่อค้นพบตัวเองชัดเจนแล้วว่ารักงานศิลปะอย่างเอาจริงเอาจังและใฝ่ฝันอยากมีมันไว้ในครอบครอง ทั้งสองก็ก้าวข้ามข้อจำกัดภายนอกด้วยการเริ่มสะสมจาก “งานที่ยังไม่มีใครเห็นคุณค่า” โดยเฉพาะงานศิลปะแนวมินิมัลลิสต์และคอนเซปชวลอาร์ต
ภายใต้กฎเหล็กประจำตัว 2 ประการคือ หนึ่ง งานทุกชิ้นต้องเป็นงานที่พวกเขาจ่ายไหว และจะต้องยัดใส่อะพาร์ตเมนต์รูหนูของพวกเขาได้เท่านั้น
ไม่อยากเชื่อก็ต้องเชื่อ ด้วยกฎสองข้อนี้บวกพลังอันเหลือล้นในการออกตระเวนดูงานตามแกลเลอรีแทบทุกค่ำคืน และพลังในการตามตื๊อเพื่อขอซื้องานราคาย่อมเยาจากทั้งศิลปินโนเนมและศิลปินที่เพิ่งเริ่มเป็นที่รู้จัก
เมื่อเวลาผ่านไปร่วม 30 ปี สามีภรรยาโวเกลก็มีงานสะสมถึงกว่า 4,000 ชิ้น ! แถมยังได้รับการยอมรับว่าเป็นหนึ่งในคอลเล็กชันงานศิลปะร่วมสมัยที่ใหญ่และสำคัญที่สุดของสหรัฐอเมริกา โดยทั้งหมดแออัดยัดทะยานอยู่ตามผนังห้อง ซอกหลังประตู ใต้เตียง ใต้โซฟา ฯลฯ และที่น่าทึ่งมากคือในจำนวนนั้นมีงานยุคแรก ๆ ของศิลปินที่กลายเป็นตัวพ่อตัวแม่ของวงการศิลปะร่วมสมัยในเวลาต่อมาด้วย ไม่ว่าจะเป็น ซอล เลวิตต์, คริสโตกับชองโคล้ด, ริชาร์ด ทัตเทิล, ชัค โคลส และอีกมากมาย
ซึ่งบ่งบอกได้อย่างดีถึงสายตาอันแหลมคมและรสนิยมเป็นเลิศของเฮิร์บกับโดโรธีที่ไม่คับแคบน้อยนิดเหมือนเงินในกระเป๋าของพวกเขา
และด้วยความที่มีผลงานของศิลปินสำคัญอยู่ในมือแบบนี้เอง คอลเล็กชันบ้านโวเกลจึงถูกประเมินว่ามีราคารวมกันหลายล้านดอลลาร์ ซึ่งหมายความว่าหากทั้งคู่นำมันออกขาย พนักงานไปรษณีย์กับบรรณารักษ์เงินเดือนไม่เยอะก็จะกลายร่างเป็นมหาเศรษฐีไปได้ทันทีทันใด
...แต่ความน่าทึ่งประการต่อมาก็อยู่ตรงนี้ ตรงที่พวกเขาไม่เคยเอางานออกขายเลยแม้แต่ชิ้นเดียว ! พวกเขาพิสูจน์หัวใจของความเป็นนักสะสมตัวจริงที่สะสมงานทั้งหมดด้วยความรักความหลงใหลล้วน ๆ และเมื่อถึงวันที่อะพาร์ตเมนต์จิ๋วไม่สามารถรองรับไหวอีกต่อไป ทั้งสองก็ตัดสินใจบริจาคงานทุกชิ้นให้แก่พิพิธภัณฑ์ศิลปะแห่งชาติในวอชิงตัน ดีซี ไปฟรี ๆ ด้วยเหตุผลว่าถึงเวลาแล้วที่จะแบ่งปันมันให้สาธารณชนได้ร่วมชื่นชม
สารคดี Herb & Dorothy เป็นผลงานกำกับของ เมงุมิ ซาซากิ นักข่าวอิสระและคนทำหนังชาวญี่ปุ่นที่โคจรมารู้จักสองสามีภรรยาโวเกลเข้าเมื่อได้ไปชมงานนิทรรศการของพวกเขาในปี ค.ศ. 2004 แล้วตัดสินใจตามถ่ายทำชีวิตของทั้งคู่อยู่นานถึง 4 ปี
ซาซากิเคยเล่าไว้ว่าความยากของหนังที่ดูเหมือนง่าย ๆ เรื่องนี้อยู่ตรงที่ตัวซับเจ็กต์ทั้งสองไม่ค่อยจะยอมอธิบายว่าทำไมถึงเลือกซื้องานชิ้นนี้ชิ้นนั้น แต่ในที่สุดซาซากิก็ได้คำตอบของคำถามดังกล่าวจาก ลูซิโอ พอซซี ศิลปินที่อธิบายว่า “ก็เพราะอย่างนี้แหละ สามีภรรยาโวเกลถึงได้พิเศษกว่าใคร ...ก็ทำไมเราจะต้องอธิบายงานศิลปะด้วยล่ะ ทำไมต้องใช้คำพูดบอกเล่า เราถึงจะเข้าใจได้มันได้ ? เฮิร์บกับโดโรธีไม่เคยอธิบาย พวกเขาแค่ดูมัน ดู และดู นั่นแหละคือวิธีที่พวกเขาใช้สื่อสารกับศิลปิน”
เมื่อจับหัวใจนี้ได้ วิธีคิดในการถ่ายทำของซาซากิก็เปลี่ยนไป แทนที่จะตั้งหน้าตั้งตาตื๊อให้สามีภรรยาโวเกลพูดถึงงานสะสม เธอก็เริ่มใช้กล้องจับจ้องทั้งสองตอนที่กำลัง “ดู” งานศิลปะอย่างเงียบเชียบจดจ่อและบทสนทนาเล็ก ๆ น้อย ๆ ระหว่างทั้งคู่แทน
ซึ่งก็กลายเป็นรายละเอียดเหล่านี้นี่เองที่ยิ่งทำให้หนังสามารถสัมผัสความรู้สึกของเราคนดูได้ และส่งผลให้มันไม่ได้เป็นเพียงสารคดีที่ว่าด้วยนักสะสมงานศิลปะ แต่เป็นเรื่องราวความรัก ทั้งรักระหว่างคนสองคนที่มีรสนิยมหลงใหลในสิ่งเดียวกัน รักบริสุทธิ์ที่พวกเขามีให้แก่ศิลปะอันงดงาม และความรักทุ่มเทในการทำสิ่งที่ตนเองชื่นชอบโดยไม่ยอมให้ข้อจำกัดใดในชีวิตกลายเป็นอุปสรรคขัดขวาง
เหนืออื่นใด สาระสำคัญที่ Herb & Dorothy สื่อก็คือเรื่องของการเข้าถึงโลกศิลปะ เราหลายคนอาจเคยรู้สึกเกร็งหรือกดดันเมื่อยืนอยู่หน้าผลงานชิ้นไหนสักชิ้น ด้วยความคิดว่าศิลปะเป็นสิ่งที่ต้องอาศัยความรู้ลึกซึ้งหรือรสนิยมหรูเลิศเท่านั้นจึงจะเสพได้ แต่เฮิร์บกับโดโรธีทำให้เราได้เห็นว่ามันง่ายกว่านั้นมาก พวกเขาบอกเราว่าแท้จริงแล้วมันเป็นเพียงเรื่องของการทำตามสัญชาตญาณ สายตา และความรู้สึก บางทีสิ่งที่เราต้องทำก็อาจแค่ “ดู” มันและสัมผัสความรื่นรมย์ที่ผุดขึ้นในใจ เพราะเมื่อนั้นความซาบซึ้งต่องานศิลปะก็ได้บังเกิดขึ้นแล้ว
▶ติดตามรับชมเรื่องราวไม่ธรรมดาของ เฮิร์บ โวเกล พนักงานไปรษณีย์ และ โดโรธี โวเกล บรรณารักษ์ …คู่สามีภรรยาผู้สร้างคอลเล็กชันศิลปะร่วมสมัยที่สำคัญที่สุดชิ้นหนึ่งในประวัติศาสตร์ด้วยวิธีการอันแสนเรียบง่าย
🎬รับชมสารคดี Herb & Dorothy ได้ทาง www.VIPA.me และ VIPA Application