โอลิมปิก 2024 อีกปีของมหกรรมกีฬาสุดยิ่งใหญ่ที่รวมถึงนักกีฬายอดฝีมือจากทั่วโลก ทัพนักกีฬาไทยเดินทางไปร่วมแข่งขันครั้งนี้มากถึง 51 ชีวิต มีหลากหลายชนิดกีฬาน่าสนใจ Thai PBS ขอหยิบยกเอานักกีฬาไทยที่น่าจับตาในโอลิมปิกครั้งนี้ เส้นทางการต่อสู้ที่ผ่านมาเป็นอย่างไร ? เพื่อลุ้นให้เร้าใจกว่าเดิมกับศึกโอลิมปิกที่กำลังจะมาถึง
เทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ
ความหวังคว้าโอลิมปิกสมัยที่ 2
เทนนิส พาณิภัค วงศ์พัฒนากิจ กลายเป็นชื่อที่แฟนกีฬาไทยรู้จักกันเป็นอย่างดี หลังแจ้งเกิดคว้าแชมป์จากโอลิมปิกโตเกียวเกมส์ 2020 แล้วก้าวขึ้นมาเป็นนักเทควันโดอันดับ 1 ของโลกในรุ่น 49 กก. หญิง จากการคว้าแชมป์มากมาย ไล่เรียงตั้งแต่แชมป์เอเชีย แชมป์ซีเกมส์ จนถึงแชมป์โลก อาการบาดเจ็บจากการฝึกซ้อมในช่วงปี 2017 ทำให้เจ้าตัวเริ่มวางแผนรีไทร์จากทีมชาติ การกลับมาคว้าเหรียญทองในเอเชียเกมส์ 2022 ที่ผ่านมา ปูทางสู่บทส่งท้ายในนามทีมชาติของเธอในโอลิมปิก 2024 ครั้งนี้
โปรแกรมการแข่งขัน : เทควันโด รุ่น 49 กก. หญิง
วันที่ 7 ส.ค. รอบคัดเลือก เวลา 14.09 น., รอบ 16 คนสุดท้าย เวลา 14.33 น., รอบ 4 คนสุดท้าย เวลา 19.30 น., รอบรองชนะเลิศ เวลา 21.21 น.
วันที่ 8 ส.ค. รอบ Repechages เวลา 00.30 น.(คืนวันที่ 7 ส.ค.), รอบชิงเหรียญทองแดง เวลา 01.19 น. (คืนวันที่ 7 ส.ค.), รอบชิงชนะเลิศ เวลา 02.19 น. (คืนวันที่ 7 ส.ค.)
บิว ภูริพล บุญสอน
เทพบิวกับเส้นชัยต่ำกว่า 10 วิ
บิว ภูริพล หรือที่แฟนกีฬารู้จักกันในฉายา “เทพบิว” ลดกรดดาวรุ่งวัย 18 ปี สร้างชื่อจากการสร้างสถิติในการแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 47 ด้วยการสร้างสถิติวิ่ง 100 เมตร และ 200 เมตร ด้วยเวลา 10.19 วินาที และ 20.57 วินาที แซงโค้งติดทีมชาติไปลุยศึกซีเกมส์ 2021 และวิ่งล่าคว้าเหรียญรางวัลมาได้ถึง 3 เหรียญทอง ในการวิ่ง 100 เมตร 200 เมตร และวิ่งผลัด 4x100 เมตร ดาวรุ่งพุ่งแรงดวงนี้สร้างผลงานน่าจับตามองไว้มากมาย แม้จะมีอาการบาดเจ็บรบกวน แต่ก็ยังคงทำผลงานได้ดี และเร่งเครื่องในโค้งสุดท้ายคว้าโควตาลุยโอลิมปิกมาได้สำเร็จ เส้นชัยในใจของเขากับโอลิมปิกครั้งแรกในชีวิตคือทำเวลาวิ่งได้ต่ำกว่า 10 วินาที
โปรแกรมการแข่งขัน : วิ่ง 100 ม. ชาย
วันที่ 3 ส.ค. รอบคัดเลือก เวลา 15.35 น., รอบแรก เวลา 16.45 น.
วันที่ 5 ส.ค. รอบรองชนะเลิศ เวลา 01.00 น. (คืนวันที่ 4 ส.ค.), รอบชิงชนะเลิศ เวลา 02.50 น. (คืนวันที่ 4 ส.ค.)
วิว - กุลวุฒิ วิทิตศานต์
แบดมินตันรอวันคว้าเหรียญประวัติศาสตร์
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา แบดมินตันไทยถือเป็นกีฬาอีกชนิดที่สร้างชื่อเสียงในเวทีระดับโลก ตั้งแต่เมย์ - รัชนก อินทนนท์ ที่เคยคว้าตำแหน่งมือหนึ่งของโลก และแชมป์โลกอายุน้อยที่สุด จนถึงการมาถึงของ วิว - กุลวุฒิ วิทิตศานต์ ดาวรุ่งดวงใหม่ คว้าแชมป์โลกประเภทชายเดี่ยวมาได้สำเร็จในปี 2023 ก่อนจะไต่ไปมืออันดับ 3 ของโลก แม้ในช่วงที่ผ่านมา เจ้าตัวจะยอมรับว่าตำแหน่งแชมป์โลกสร้างความกดดันที่ทำให้ฟอร์มสะดุดลงบ้าง แต่ในโอลิมปิกครั้งนี้ ภาพรวมทัพนักแบดมินตันไทยก็สามารถงัดฟอร์มเด่น จนสามารถคว้าตั๋วร่วมโอลิมปิกมาได้ครบทุกประเภท เป็นครั้งแรกในรอบ 20 ปี
ถึงตรงนี้จึงน่าติดตามว่าทัพนักกีฬาแบดมินตันไทยจะทำได้ดีขนาดไหน ในโอลิมปิก 2024 นี้ เพื่อสร้างประวัติศาสตร์เหรียญแรกของกีฬาแบดมินตัน โดยนักกีฬาแบดมินตันไทยที่ร่วมชิงชัยทั้งหมด มีดังนี้
วิว – กุลวุฒิ วิทิตศานต์ มืออันดับ 8 ของโลก ประเภทชายเดี่ยว
บาส - เดชาพล พัววรานุเคราะห์ กับ ปอป้อ – ทรัพย์สิรี แต้รัตนชัด มืออันดับ 6 ของโลก ประเภทคู่ผสม
เมย์ – รัชนก อินทนนท์ มืออันดับที่ 11 ของโลก และ เม – ศุภนิดา เกตุทอง มืออันดับที่ 16 ของโลก ประเภทหญิงเดี่ยว
เอ็ม - สุภัค จอมเกาะ กับ สกาย กิตินุพงศ์ เกตุเรน มืออันดับที่ 24 ของโลก ประเภทชายคู่
กิ๊ฟ - จงกลพรรณ กิติธรากุล กับ วิว - รวินดา ประจงใจ มืออันดับ 10 ของโลก ประเภทหญิงคู่
โปรแกรมการแข่งขันของนักแบดมินตันไทย
วันที่ 27 ก.ค. ประเภท คู่ผสม เวลา 15.10 น. ประเภท ชายเดี่ยว เวลา 16.00 น. ประเภท หญิงเดี่ยว เวลา 19.50 น.
วันที่ 28 ก.ค. ประเภท คู่ชาย เวลา 00.30 น. (คืนวันที่ 27 ก.ค.) ประเภท คู่หญิง เวลา 03.00 น. (คืนวันที่ 27 ก.ค.) ประเภท คู่ชาย 21.30 น.
วันที่ 29 ก.ค. ประเภท คู่ผสม เวลา 00.30 น. (คืนวันที่ 28 ก.ค.)
วันที่ 30 ก.ค. ประเภท คู่หญิง เวลา 00.30 น. (คืนวันที่ 29 ก.ค.)
โปรแกรมการแข่งขันแบดมินตันรอบต่อ ๆ ไปในช่วงวันที่ 30 ก.ค. – 5 ส.ค. จะขึ้นอยู่กับผลการแข่งขันรอบแรกนี้
เวฟ วีรพล วิชุมา
จอมพลังไทยในวันหวนคืนสู่โอลิมปิก
ยกน้ำหนักไทยสร้างผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมต่อเนื่องในนับตั้งแต่คว้าเหรียญแรกในโอลิมปิก 2000 ที่ซิดนีย์ ทัพจอมหลังไทยสามารถคว้าเหรียญติดมือกลับมาได้เสมอจนกระทั่งโอลิมปิก 2020 ที่ผ่านมา ไทยกลับหายไปจากเวทีโอลิมปิก เหตุผลก็เนื่องจากการโดนลงโทษจากสหพันธ์ยกน้ำหนักนานาชาติ (IWF) จากการถูกตรวจพบสารกระตุ้น ทว่าสาเหตุนั้นก็ไม่ได้มาจากเจตนาที่จะใช้สารต้องห้าม แต่มาจากเจลแบบพิเศษสำหรับทา ซึ่งมีการซึมเข้าสู่ร่างกายทางผิวหนังที่เคยใช้มาก่อนแล้ว
โทษดังกล่าวจบลงแล้ว การกลับมาครั้งนี้ของทัพจอมพลังไทยนั้น จึงเป็นการกลับมาเพื่อพิสูจน์ตัวเองอีกครั้งในเวทีโอลิมปิก โดยความหวังหนึ่งในโอลิมปิกครั้งนี้คือ เวฟ - วีรพล วิชุมา ดาวรุ่งวัย 19 ปี (จะอายุครบ 20 ปี ในสิงหาคมนี้) ที่ฉายแววเด่นมาตั้งแต่เปิดตัวในจากศึกเยาวชนโลก เมื่อปี 2022 ด้วยผลงาน 2 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน ต่อยอดด้วยการแข่งชิงแชมป์โลก ที่คว้ามาได้ถึง 3 เหรียญทองแดงด้วยวัยเพียง 18 ปี ปิดท้ายด้วยศึกแชมป์เอเชีย ที่คว้าเหรียญ 1 เหรียญทอง 1 เหรียญเงิน และศึกชิงแชมป์โลกปี 2023 ที่สามารถสร้างเซอร์ไพรส์คว้ามาได้ถึง 2 เหรียญทอง โอลิมปิกครั้งนี้ จอมพลังไทยคนนี้ในรุ่น 73 กก. จึงมีลุ้นเบี้ยดคว้าเหรียญมาได้เหมือนกัน
โปรแกรมการแข่งขัน : ยกน้ำหนัก รุ่น 73 กก. ชาย
วันที่ 9 ส.ค. เวลา 00.30 น. (คืนวันที่ 8 ส.ค.)
เหลิม - ธิติสรรณ์ ปั้นโหมด
ความหวังกำปั้นไทยหวนคืนแชมป์โอลิมปิก
มวยสากลเป็นอีกกีฬาความหวังสำหรับคนไทย หลังจากห่างหายจากเหรียญทองในกีฬาโอลิมปิกมาตั้งแต่โอลิมปิกที่จีนเมื่อปี 2008 จากผลงานของสมจิต จงจอหอ ถึงวันนี้ทัพเสื้อกล้ามไทยมีความหวังใหม่อย่าง เหลิม - ธิติสรรณ์ ปั้นโหมด ที่ทำผลงานได้ดีอย่างต่อเนื่อง นับจากก้าวขึ้นสังเวียรมวยสากล โดยสามารถคว้าแชมป์เยาวชนโลกเมื่อปี 2018 และรองแชมป์เอเชีย ก่อนจะคว้าเหรียญทองซีเกมส์ 2019 และยังคงทำผลงานได้อย่างโดดเด่นด้วยการเอาชนะแชมป์โลกเหรียญทองโอลิมปิก 2016 ในรอบคัดเลือกคว้าตั๋วร่วมโอลิมปิก 2020 ด้วยวัยเพียง 19 ปี ทว่าน่าเสียดายที่เจ้าตัวเกิดอาการบาดเจ็บรุนแรงก่อนทัวร์นาเมนเริ่มไม่นานจึงต้องถอนตัวออกไป
อย่างไรก็ตาม เหลิมที่เพิ่งฟื้นจากอาการบาดต้องการกลับมาพิสูจน์ตัวเองอีกครั้ง และด้วยผลงานทะลุเข้าถึงรองชิงชนะเลิศได้เหรียญเงินจากเอเชียนเกมส์ 2022 คว้าโควตาร่วมโอลิมปิกครั้งนี้มาได้อย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นถึงความมุ่งมั่น กลายเป็นอีกความหวังของทัพนักกีฬาไทย แม้ตอนนี้จะพลาดท่าตกรอบ แต่ด้วยอายุที่ยังน้อย ก็ยังคงน่าติดตามว่าหนทางข้างหน้าของเขาในนามทีมชาติจะเป็นเช่นไร
โปรแกรมการแข่งขัน : มวลสากลชาย รุ่น 51 ก.ก.
วันที่ 30 ก.ค. รอบ 16 คน เวลา 16.00 น. และ 20.30 น. (นักกีฬาไทยได้ชนะบายในรอบแรก เข้ารอบ 16 คนทันที)
วันที่ 31 ก.ค. รอบ 16 คน เวลา 01.00 น. (คืนวันที่ 30 ก.ค.)
วันที่ 2 ส.ค. รอบก่อนรองชนะเลิศ เวลา 21.34 น.
วันที่ 3 ส.ค. รอบก่อนรองชนะเลิศ เวลา 02.04 น. (คืนวันที่ 2 ส.ค.)
วันที่ 4 ส.ค. รอบรองชนะเลิศ เวลา 17.20 น. และ เวลา 21.50 น.
วันที่ 9 ส.ค. รอบชิงชนะเลิศ เวลา 03.34 น. (คืนวันที่ 8 ส.ค.)
ทัพนักกีฬาไทยในโอลิมปิกครั้งนี้มีมากถึง 51 คน ถือว่ามากที่สุดในชาติอาเซียน ยังมีกีฬาอีกหลากหลายประเภทที่น่าจับตาสำหรับนักกีฬาไทยในโอลิมปิกนี้ เช่น กอล์ฟ รวมถึงปิงปอง น่าติดตามว่านักกีฬาไทยจะประวัติศาสตร์หน้าใหม่ในโอลิกปิกครั้งนี้ได้หรือไม่ ?