ในวงการเพลงไทย วง Scrubb ที่นำโดย 2 สมาชิก บอล-ต่อพงศ์ จันทบุบผา และ เมื่อย-ธวัชพนธ์ วงศ์บุญศิริ ถือเป็นอีกวงที่น่าสนใจมากในแง่การทำงาน เพราะวง Scrubb เป็นวงอินดี้ป็อปที่มีซาวด์ดนตรีเป็นเอกลักษณ์แบบไม่เหมือนใคร บางเพลงก็ฟังดูเรียบง่าย แต่บางเพลงก็มีเซอร์ไพรส์ อย่างเช่น การเลือกเครื่องดนตรีที่หลายคนนึกไม่ถึงมาใส่ในเพลง
ขณะเดียวกันเพลงของ Scrubb จะมีเนื้อหาเชิงบวกและสดใสเป็นหลักต่างจากหลายศิลปินไทย และสิ่งนี้ทำให้พวกเขาเป็นอีกวงที่หลายคนชื่นชอบ จนล่าสุดกระแสเพลงของพวกเขาไปถึงต่างประเทศด้วย หลังจากที่เพลงของ Scrubb ได้ถูกนำไปใช้ในซีรีส์วัยรุ่นเรื่องหนึ่งในปี พ.ศ. 2563
ใครที่ตั้งคำถามว่าดนตรีและเนื้อเพลงที่แตกต่างแบบฉบับวง Scrubb นั้นมาได้อย่างไร ถ้าได้ชมรายการนักผจญเพลง Replay จะพอเห็นภาพได้เลยว่าทำไมวง Scrubb ถึงไม่เหมือนใครตั้งแต่ตอนทำอัลบั้มแรก มาจนถึงวันที่พวกเขาปล่อยอัลบั้ม TREE ที่นำมาพูดถึงในรายการแบบเต็ม ๆ
เพราะเส้นทางตั้งแต่จุดเริ่มต้นที่เจอกัน จนถึงวันที่ออกอัลบั้มนั้น มันเต็มไปด้วยเรื่องราวมากมายที่ทำให้พวกเขาเติบโตเป็นวงที่ทั้งมีคุณภาพและเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร
ชีวิตมหาวิทยาลัยที่ได้ลองผิดลองถูกทางดนตรี
ในรายการนักผจญเพลง Replay บอล ต่อพงศ์ มือกีตาร์ของ Scrubb ได้เล่าว่า เขาได้เจอกับ เมื่อย รุ่นน้องในมหาวิทยาลัยผู้กลายเป็นนักร้องนำวง Scrubb ในเวลาต่อมา โดยแม้ว่าเมื่อยจะเพิ่งหัดเล่นกีตาร์ในช่วงที่เรียนมัธยมปลาย แต่ตัวเขาที่ไม่รู้จักคอร์ดดนตรีก็ใช้วิธีเล่นคอร์ดกีตาร์ที่รู้จักและสร้างเพลงใหม่ขึ้นมาจากคอร์ดที่รู้จนได้ทั้งเนื้อร้องและทำนองออกมา โดยวิธีการทำงานแบบของเมื่อยก็ทำให้บอลชวนเขามาร่วมงาน เพราะเขามองว่า คนที่เพิ่งเรียนกีตาร์ไม่นานแต่แต่งเพลงได้นั้นถือว่าเก่งมาก
นอกจากตัวของเมื่อยจะมีการทดลองเล่นกีตาร์แบบไม่เหมือนนักดนตรีคนอื่นแล้ว ตัวของบอลที่เป็นรุ่นพี่ก็มีเส้นทางการเล่นดนตรีไม่เหมือนใครเช่นกัน เพราะบอลเป็นคนที่ชอบการเล่นกีตาร์ แต่ได้เล่นกลองมาตลอด
โดยสมัยเรียนอยู่ที่มหาวิทยาลัย บอลได้เล่นเพลงของ หิน เหล็ก ไฟ วงร็อกที่เป็นปรากฏการณ์ของวงการเพลงไทยในยุค 90 ด้วย และในช่วงที่ประกวดวงดนตรีมหาวิทยาลัย พวกเขาก็ทำวงที่เมื่อย มารับหน้าที่มือกลอง ส่วนตัวของบอลเล่นกีตาร์ ซึ่งพวกเขาเองก็ได้รับรางวัลจากการประกวดด้วย เรียกได้ว่าฝีมือไม่ธรรมดาตั้งแต่ตอนเรียนเลย เพราะขนาดสลับเครื่องดนตรีกันเล่น ก็ยังสามารถคว้ารางวัลกลับบ้านได้
บทบาทศิลปินฝึกหัด GMM Grammy ที่เปิดประตู Scrubb เข้าสู่วงการเพลง
เมื่อตัวของ บอล Scrubb เรียนจบ เขาก็ได้เข้าเป็นเด็กฝึกค่ายเพลง GMM Grammy ร่วมกับเพื่อนที่ทำวงด้วยกัน และได้เป็นหนึ่งในศิลปินที่ถูกเลือกในโปรเจกต์ INTRO 2000 ที่เป็นอัลบั้มพิเศษรวมศิลปิน genie records ที่แจ้งเกิดวง Saturday Seiko และ พลพล พลกองเส็ง
แต่ว่าก่อนจะได้ปล่อยผลงาน วงตอนนั้นของบอลก็ได้ยุบไป โดยบอลตัดสินใจเอาเพลง “วันนี้ดีจัง” ที่ทำกับวงเดิมในตอนนั้นมาทำต่อ จนบอลได้กลับร่วมงานกับเมื่อยอีกครั้งในนามวง EYE ซึ่งแม้ว่าวง EYE จะมีอายุวงที่ค่อนข้างสั้น แต่นั่นก็เป็นจุดที่ทำให้บอลกับเมื่อยได้รู้จักกับ ฟั่น-โกมล บุญเพียรผล โปรดิวเซอร์ที่อยู่ข้าง Scrubb มาหลาย 10 ปี
และในช่วงที่ทำวง EYE นั้น บอลได้เล่าว่า ตัวของเขาได้เรียนรู้โปรแกรมการทำเพลงด้วยคอมพิวเตอร์ ขณะที่เมื่อยได้ไปเรียนที่สถาบันดนตรีเพื่อพัฒนาฝีมืออย่างจริงจัง จนหลังจากนั้นทั้ง บอล และ เมื่อย ได้ทำ วง Scrubb และทำเพลงด้วยกันตั้งแต่ปี พ.ศ.2543 เป็นต้นมา โดยเริ่มจากทำเพลงใต้ดินและขายอัลบั้มเองแบบลองผิดลองถูก ก่อนจะแยกย้ายไปทำงานของตัวเอง แม้ว่าในตอนนั้นเพลง “ชูบีดูบีดั้บ” ที่พวกเขาทำในฐานะศิลปินใต้ดิน จะมีกระแสและเป็นที่รู้จักในกลุ่มคนฟังเพลงนอกกระแสบ้างก็ตาม
การทดลองครั้งสุดท้าย ก่อน Scrubb ได้เพลงแจ้งเกิดเต็มตัว
ในปี พ.ศ. 2545 ที่กระแสเพลงอินดี้เริ่มเป็นที่พูดถึงอีกครั้ง ทำให้ตัวของบอล และ เมื่อยได้ลองนำผลงานที่แต่งไว้มาทำดนตรีจริงจัง โดยในเวลานั้นค่าย Black Sheep ในเครือของ Sony Music ก็สนใจผลงานของ Scrubb พร้อมให้ทางวงมาปล่อยเพลงในอัลบั้มรวมศิลปินหน้าใหม่ของค่ายที่มีชื่อว่า Black Sheep Compilation 01
โดยในอัลบั้มชุดดังกล่าว วง Scrubb ได้ปล่อยเพลงที่มีชื่อว่า “ทุกอย่าง” ผลงานที่มีการผสมผสานหลากหลายแนวดนตรีรวมถึงท่อนดนตรีแจ๊สที่อยู่กลางเพลง ซึ่งดนตรีที่แตกต่างและเนื้อร้องที่ติดหูก็ทำให้เพลง “ทุกอย่าง” เข้าไปอยู่ในใจแฟน ๆ โดยบอล และ เมื่อย ได้เล่าว่า กระแสตอบรับ Scrubb ทำให้พวกเขาประหลาดใจมาก เพราะพวกเขาตั้งใจจะกลับมาทำเพลงใต้ดินอีกรอบ แต่ว่าพวกเขากลับมีเพลงดังเป็นของตัวเองที่ขึ้นอันดับ 1 ชาร์ต Fat Radio
หลังจากที่ประสบความสำเร็จจากเพลง “ทุกอย่าง” วง Scrubb ก็มีอัลบั้มแรกที่มีเพลงฮิต อย่าง เพลงเธอ, เพลงทุกอย่าง, เพลงกลัว, เพลง Art Bar และเพลงเก็บมันเอาไว้ จนพวกเขาได้คว้ารางวัล ศิลปินหน้าใหม่ยอดเยี่ยม Fat Awards ครั้งที่ 2 ของคลื่นวิทยุ Fat Radio และรางวัลอินดี้ยอดเยี่ยม Hamburger Award 2003
ซึ่งใครที่ติดตามวงการเพลงยุค 2000 จะรับรู้เลยว่านิตยสาร Hamburger และคลื่นวิทยุ Fat Radio นั้นมีอิทธิพลกับวัยรุ่นยุคนั้นมาก และการได้รางวัลจากทั้งสองสื่อ เหมือนเครื่องยืนยันถึงความไม่ธรรมดาของ Scrubb ได้เป็นอย่างดี
และพอมาอัลบั้มชุด 2 ที่มีชื่อว่า club วง Scrubb ก็มี เพลงเวลา, เพลงใกล้, เพลงคู่กัน และ เพลง See Scape ที่ฮิตต่อเนื่องหลายปี จนถ้าใครย้อนไปมองชีวิตของเมื่อยและบอลที่เล่นดนตรีสมัยมหาวิทยาลัยแบบลองผิดลองถูก น่าจะรู้สึกเซอร์ไพรส์ถึงเส้นทางชีวิตของพวกเขา เพราะถ้าใครที่ฟังเรื่องราวพวกเขาในรายการนักผจญเพลง Replay จะรู้สึกเลยว่า การทำงานและการเรียนรู้เรื่องดนตรีมันไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ
สรุปเส้นทางดนตรีของ Scrubb จากรั้วมหาวิทยาลัย ถึงวันที่มีอัลบั้ม
จากการเล่าของสมาชิกอย่างบอล และ เมื่อย หลาย ๆ คน อาจสังเกตได้ว่า เส้นทางของวงนั้นแม้จะเต็มไปด้วยการลองผิดลองถูก แต่การลองผิดลองถูกทั้งการฝึกฝนเครื่องดนตรีหลายชนิด การไปเรียนรู้วิธีการทำเพลงกับมืออาชีพ ทำให้พวกเขาสามารถสั่งสมประสบการณ์ และขณะเดียวกันก็มีโอกาสในการสร้างซาวด์ในแบบฉบับตัวเองขึ้นมา
และเมื่อ Scrubb มาทำงานกับ ฟั่น โกมล โปรดิวเซอร์คู่ใจ ตัววงก็ได้เติบโตแบบก้าวกระโดด เพราะโปรดิวเซอร์อย่าง ฟั่น โกมล แม้จะได้รับโอกาสให้ทำผลงานกับศิลปินอย่างใหม่ เจริญปุระ และอีกหลาย ๆ นักร้องดังที่มีชื่อเสียง แต่ตัวเขากลับไม่ได้ใช้ความสร้างสรรค์ทางดนตรีที่หวือหวามากนัก
ซึ่งในรายการบอลและเมื่อยได้เล่าว่า Scrubb เองก็เหมือนเป็นห้องทดลองของตัวฟั่น โกมล เหมือนกัน ในการนำดนตรีแบบที่เขาไม่เคยทำกับศิลปินอื่นมาใช้กับวง Scrubb และนั่นก็เป็นสิ่งที่ทำให้ Scrubb โดดเด่นขึ้นมาจนได้ใจคนฟังมาแทบทุกยุคสมัย
ใครที่อ่านเรื่องราวของ Scrubb แล้วสงสัยว่าพวกเขานั้นมีเอกลักษณ์ทางดนตรีอย่างไร ในรายการนักผจญเพลง Replay พวกเขาก็ได้นำเพลงฮิตทุกยุคมาเล่นโชว์แบบสด ๆ โดยทุกคนสามารถชมการสัมภาษณ์และย้อนฟังเพลงได้ทาง YouTube Thai PBS และเว็บไซต์ https://www.thaipbs.or.th/program/SongHunterTV/episodes/102998