เดินทางมาถึงรอบชิงชนะเลิศเป็นที่เรียบร้อย สำหรับศึกฟุตบอลยูโร 2024 ที่ได้คู่ชิงชนะเลิศ ระหว่าง สเปน และ อังกฤษ
ก่อนที่ค่ำคืนนี้ (14 ก.ค.67) จะได้ลุ้นกันว่า ทีมไหนจะได้ชูถ้วยคว้าแชมป์ยูโร 2024 เราชวนย้อนดูสถิติ และเกร็ดน่ารู้ของทั้งสองทีมกัน
“สเปน-อังกฤษ” เส้นทางสู่รอบชิงยูโร 2024
เส้นทางสู่รอบชิงชนะเลิศฟุตบอลยูโร 2024 ของทั้งสองทีม เริ่มต้นดังนี้
สเปน
รอบแรก
สเปน-โครเอเชีย 3-0
สเปน-อิตาลี 1-0
แอลเบเนีย-สเปน 0-1
รอบ 16 ทีมสุดท้าย
สเปน-จอร์เจีย 4-1
รอบ 8 ทีมสุดท้าย
สเปน-เยอรมนี 2-1
รอบรองชนะเลิศ
สเปน-ฝรั่งเศส 2-1
อังกฤษ
รอบแรก
เซอร์เบีย-อังกฤษ 0-1
เดนมาร์ก-อังกฤษ 1-1
อังกฤษ-สโลวีเนีย 0-0
รอบ 16 ทีมสุดท้าย
อังกฤษ-สโลวาเกีย 2-1
รอบ 8 ทีมสุดท้าย
อังกฤษ-สวิสเซอร์แลนด์ 5-3 (เสมอกันในเวลา 1-1)
รอบรองชนะเลิศ
เนเธอร์แลนด์-อังกฤษ 1-2
“สเปน-อังกฤษ” สถิติพบกัน (Head to Head)
สเปนและอังกฤษ พบกันในการแข่งขันอย่างเป็นทางการมาทั้งหมด 27 ครั้ง เป็นฝั่งสเปนชนะไป 10 ครั้ง และอังกฤษชนะไป 13 ครั้ง ที่เหลือเสมอกัน 4 ครั้ง
สำหรับ 5 นัดหลังสุดที่ทั้งคู่พบกัน ผลัดกันแพ้ชนะทีมละ 2 ครั้ง และเสมอกัน 1 ครั้ง โดยเกมล่าสุดที่พบกันเกิดขึ้นในศึกเนชันส์ลีก เมื่อปี 2018 ซึ่งครั้งนั้น อังกฤษ ชนะ 3-2
ย้อนดูผล 5 นัดหลังสุดที่ สเปน- อังกฤษ พบกัน
- 15 ต.ค.2018 สเปน 2-3 อังกฤษ ศึกฟุตบอลเนชันส์ลีก
- 8 ก.ย.2018 อังกฤษ 1-2 สเปน ศึกฟุตบอลเนชันส์ลีก
- 15 พ.ย.2026 อังกฤษ 2-2 สเปน ฟุตบอลกระชับมิตร
- 13 พ.ย.2015 สเปน 2-0 อังกฤษ ฟุตบอลกระชับมิตร
- 12 พ.ย.2011 อังกฤษ 1-0 สเปน ฟุตบอลกระชับมิตร
“สเปน-อังกฤษ” สถิติในฟุตบอลยูโร 2024
- สเปนมีสถิติสวยหรูในยูโรหนนี้ โดยชนะทั้งหมด 6 นัดที่ผ่านมา ส่วนอังกฤษ ชนะไป 3 นัด เสมออีก 3 นัด
- ด้านสถิติการทำประตู สเปนทำไปได้ 13 ประตู ส่วนอังกฤษทำไปได้ 7 ประตู
- ความพยายามในการสร้างสรรค์เกม สเปนมีทั้งหมด 108 ครั้ง ด้านอังกฤษ ทำได้เพียง 66 ครั้ง
- อังกฤษมีสถิติในการครอบครองบอลเฉลี่ยอยู่ที่ 58.84% มากกว่าสเปนที่มีอัตราการครอบครองบอลที่ 57.34%
- ส่วนอัตราการผ่านบอลแม่นยำ สเปนอยู่ที่ 90% ด้านอังกฤษอยู่ที่ 90.34%
- เรื่องระเบียบวินัยการเล่น สเปน มีผู้เล่นที่ได้รับใบเหลืองทั้งหมด 15 ใบ และใบแดง 1 ใบ ด้านอังกฤษ มีผู้เล่นที่ได้รับใบเหลือง 11 ใบ ไม่มีใบแดง
“สเปน-อังกฤษ” วิเคราะห์ตัวผู้เล่น
ทั้งสองทีมลงเล่นมาทั้งหมด 6 นัด ถึงตรงนี้ สเปนใช้นักเตะเอาท์ฟิลด์ หรือผู้เล่นที่ไม่ใช่ผู้รักษาประตูครบทั้ง 23 คน โดยมี 4 คนที่ได้ลงสัมผัสเกมในสนามทั้ง 6 นัด ได้แก่ มิเกล เมริโน่, มิเกล โอนาร์ซาบาล, อัลบาโร่ โมราต้า และ ลามิน ยามาล
ด้านอังกฤษมีผู้เล่นที่ยังไม่ได้ลงสนามเลยเพียง 3 คน คือ อดัม วอร์ตัน, ลูวิส ดังค์ และ โจ โกเมซ โดยมีผู้เล่นที่ลงสัมผัสในเกมทั้ง 6 นัดอยู่ถึง 9 คน ได้แก่ จอร์แดน พิคฟอร์ด, จอห์น สโตนส์, คีแรน ทริปเปียร์, ไคล์ วอล์คเกอร์, จู๊ด เบลลิงแฮม, เดแคลน ไรซ์, ฟิล โฟเด้น, บูคาโย่ ซาก้า และ แฮร์รี่ เคน
จากภาพรวมในการใช้ผู้เล่นของทั้งสองทีม อังกฤษน่าจะส่งผู้เล่นที่ลงสนามหลัก ๆ ทั้ง 9 คนลงในสนามนัดชิงฯ เนื่องจากตอบโจทย์แท็คติกของเฮดโค้ชอย่าง แกเร็ธ เซาธ์เกต ทว่าต้องดูที่พละกำลังเช่นกัน เนื่องจากอังกฤษมีแมทซ์ที่ลงเล่น 120 นาทีมาแล้ว 2 เกม
ด้านสเปนมีการหมุนเวียนตัวผู้เล่นมากกว่า จะได้เปรียบเรื่องพละกำลัง แต่ทั้งนี้ทั้งนั้น ค่าเฉลี่ยอายุของผู้เล่นทั้งสองทีม สเปนอยู่ที่ 27.19 ปี มากกว่าอังกฤษ ที่มีค่าเฉลี่ยผู้เล่นอยู่ที่ 26.23 ปี
ฟุตบอลยูโรจัดแข่งขันมาแล้ว 17 ครั้ง เป็นสเปนเคยคว้าแชมป์มาแล้ว 3 ครั้ง คือในปี 1964, 2008 และ 2012 ส่วนอังกฤษ ยังไม่เคยคว้าแชมป์รายการนี้เลย
จึงน่าสนใจว่า นัดชิงชนะเลิศในยูโร 2024 สเปนจะได้แชมป์เป็นสมัยที่ 4 ซึ่งจะกลายเป็นชาติที่คว้าแชมป์ฟุตบอลยูโรมากที่สุด หรือว่าจะเป็นอังกฤษ ที่จะกลายเป็นแชมป์หน้าใหม่หนแรกในประวัติศาสตร์ ค่ำคืนที่ 14 กรกฎาคมนี้ เวลา 02.00 น. ได้ทราบผลกัน!
อ้างอิงข้อมูล
-uefa.com