สำหรับเหล่าสาวกเพนกวิน สารคดีของ BBC เรื่อง “Penguins: Meet The Family ครอบครัวใหญ่ ตระกูลเพนกวิน” น่าจะสร้างความฟินได้อย่างดี เพราะนักวิจัยใช้วิธีการทางวิทยาศาสตร์อันซับซ้อนอย่าง จีโนมิกส์ (Genomics – การศึกษาจีโนมของสิ่งมีชีวิต) และสัณฐานวิทยา (Morphology – สาขาหนึ่งของวิชาชีววิทยาว่าด้วยการศึกษารูปพรรณสัณฐานภายนอกและคุณสมบัติเฉพาะของโครงสร้างของสิ่งมีชีวิต)
มาจำแนกให้เราได้รู้จักสายพันธุ์อันหลากหลายของเจ้าสัตว์ปีกน่ารักอุ้ยอ้ายบินไม่ได้นี้ ได้เข้าใจวิวัฒนาการอย่างต่อเนื่องของมัน ได้เห็นถิ่นอาศัยต่าง ๆ ซึ่งบางแห่งก็น่าทึ่งเอามาก ๆ (ใครเคยรู้บ้างว่าเพนกวินไม่ได้มีอยู่แต่ในเขตแดนน้ำแข็ง ทว่ายังมีพวกมันอยู่ในป่า ! กลางทะเลทราย ! ลามไปจนถึงอยู่กลางหมู่ผู้คนในแอฟริกาใต้ด้วย !) ไปจนถึงได้แอบดูพฤติกรรมและความสัมพันธ์อันสุดแสนน่ารักของพวกมัน
ในสารพัดเกร็ดเหล่านั้น เรื่องที่ผู้เขียนชอบมากยิ่งกว่าเกร็ดไหน ๆ คือเรื่องราวเกี่ยวกับ “อึ” ของมันค่ะ ...ใช่แล้ว อึ ! ได้ยินแล้วเราจะนึกหรือว่า สิ่งที่ถูกร่างกายขับออกมาอย่างน่าอี๋แหวะนี่แหละ กลับคือสิ่งสำคัญที่นำมาสู่การค้นพบยิ่งใหญ่ระดับปฏิวัติวงการกันเลยทีเดียว
เรื่องนี้เป็นข่าวฮือฮาเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมา เมื่อมีการค้นพบอาณานิคมของเพนกวินจักรพรรดิที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนในแอนตาร์กติกาถึง 4 แห่ง โดยเบาะแสสำคัญมาจากการที่หน่วยสำรวจบริติชแอนตาร์กติกา (BAS - British Antarctic Survey) ใช้ภาพถ่ายดาวเทียมความละเอียดสูง สแกนหาจนสามารถมองเห็นรอยเปื้อนกองอึสีเข้มจำนวนมหาศาลของพวกมันบนพื้นน้ำแข็งสีขาวกว้างใหญ่ได้ชัดเจนจากอวกาศ และทำให้รู้ว่าจุดนั้นแหละคือตำแหน่งที่เพนกวินจักรพรรดิเคยอาศัยอยู่รวมกันเป็นกลุ่มหนาแน่น หรือก็คืออาณานิคมของพวกมันนั่นเอง
ภาพถ่ายดังกล่าวนี้ถูกเก็บในช่วงปี ค.ศ. 2018-2022 จากดาวเทียมโคเปอร์นิคัส เซนติเนล-2 ขององค์การอวกาศยุโรป (ESA) และดาวเทียมแม็กซาร์ เวิล์ดวิว-3 ซึ่งหลังจากวิเคราะห์อย่างถี่ถ้วน นักวิจัยก็สามารถระบุอาณานิคมเพนกวินจักรพรรดิแห่งใหม่ได้ 4 แห่ง อันส่งผลต่อการประเมินจำนวนประชากรทั้งหมดที่พวกมันมีอยู่ได้ และไม่เท่านั้น เมื่อนำภาพถ่ายดาวเทียมในช่วงเวลาต่าง ๆ มาเปรียบเทียบกัน ก็ยังช่วยให้นักวิจัยติดตามการเปลี่ยนแปลงของขนาดและการเคลื่อนที่ของอาณานิคมซึ่งเป็นข้อมูลสำคัญสำหรับการอนุรักษ์ได้ด้วย
การค้นพบอาณานิคมใหม่นี้ถือเป็นก้าวย่างที่ทำให้มนุษย์เข้าใจมากขึ้นว่าเพนกวินจักรพรรดิชอบอาศัยอยู่ในถิ่นไหนบ้าง และเป็นก้าวย่างที่ยิ่งสำคัญในสภาวะที่โลกกำลังได้รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศอย่างหนักหนาสาหัสขึ้น เพราะการที่สิ่งมีชีวิตชนิดนี้ต้องพึ่งพิงน้ำแข็งในทะเลจึงทำให้มันเป็นดัง “สัตว์ที่ช่วยบ่งชี้สุขภาพ” ของระบบนิเวศน์ของดินแดนดังกล่าว
การรู้ที่ตั้งอาณานิคมใหม่ของมันช่วยให้เราได้เข้าใจทั้งความเปลี่ยนแปลงของแอนตาร์กติกาและการปรับตัวของพวกมันให้เข้ากับสภาพแวดล้อมที่เปลี่ยนไปชัดเจนขึ้น
การระบุอาณานิคมเพนกวินจักรพรรดิจากอวกาศ ถือเป็นการเปลี่ยนโฉมหน้าของงานอนุรักษ์สัตว์เลยทีเดียว เพราะเดิมที วิธีที่มนุษย์เราใช้ในการศึกษาพวกมันก็คือการสำรวจภาคสนามอย่างยากลำบากในสภาพแวดล้อมที่เลวร้าย ส่งผลให้ความถี่และขอบเขตของการสำรวจถูกจำกัด แต่เทคโนโลยีดาวเทียมช่วยให้เราสามารถติดตามสัตว์ลึกลับเหล่านี้ได้ในขอบเขตที่กว้างขวางขึ้นและจำนวนครั้งที่สม่ำเสมอมากขึ้น นำมาสู่การพัฒนากลยุทธ์การอนุรักษ์ที่ตรงเป้าหมายเพื่อปกป้องถิ่นอาศัยและการอยู่รอดของพวกมันให้ทันการณ์
แน่นอนว่าการใช้ภาพถ่ายดาวเทียมเพื่อศึกษาสัตว์นั้นไม่ได้จำกัดอยู่แค่กับเพนกวินจักรพรรดิ แต่เทคโนโลยีนี้ยังมีแนวโน้มที่จะติดตามสัตว์ป่าสายพันธุ์ต่าง ๆ ในพื้นที่ห่างไกลหรือเข้าถึงได้ยากทั่วโลก เช่น ติดตามการเคลื่อนที่ของฝูงสัตว์ในแอฟริกา จับตาดูการตัดไม้ทำลายป่าอย่างผิดกฎหมายในป่าแอมะซอน หรือพูดง่าย ๆ ได้ว่า ดาวเทียมกำลังกลายเป็นเครื่องมือสำคัญในการต่อสู้เพื่อรักษาความหลากหลายทางชีวภาพ
การค้นพบกองมูลสัตว์ที่มองเห็นได้จากอวกาศที่ฟังเผิน ๆ เหมือนเป็นเรื่องน่าขำนั้น แท้จริงแล้วจึงยิ่งใหญ่กว่าที่คิด
มันคือหนทางที่สร้างสรรค์และชาญฉลาดในการศึกษาทำความเข้าใจธรรมชาติ การแสวงหาความรู้ผ่านพัฒนาการอันไม่หยุดยั้งของเทคโนโลยี และความพยายามของเหล่าผู้คนที่จะปกป้องสิ่งมีชีวิตผู้เป็นสหายร่วมโลกให้รอดพ้นจากหายนะที่มนุษย์กลุ่มอื่น ๆ ร่วมกันก่อขึ้นนั่นเอง
▶ ติดตามสารคดี Penguins: Meet The Family ครอบครัวใหญ่ ตระกูลเพนกวิน ออกสำรวจ "เพนกวิน" สัตว์ที่หลายคนชื่นชอบและหลงใหล จากความโดดเด่นทั้งด้านกายภาพและความสามารถ สารคดีนี้จะพาไปพบกับเพนกวินที่ยกโขยงมาทั้งครอบครัวให้เราสัมผัสรูปแบบชีวิต และการปรับตัว รับชมได้ทาง www.VIPA.me หรือ VIPA Application