"ร้อนตับแตก" "ร้อนตับแลบ" สำนวนเพิ่มดีกรีความร้อนเหล่านี้ทำให้เห็นได้ว่าความสำบัดสำนวนเป็นส่วนหนึ่งในดีเอ็นเอของคนไทยที่หยั่งรากลึกแบบถาวร จะพูดจะเอ่ยอะไรต้องขอให้มีคำพ่วงต่อท้ายให้ภาษาสนุกเสริมความหมายให้หนักแน่นมากยิ่งขึ้น
ซึ่งสำนวนเหล่านี้พอได้ยินบ่อยเข้าก็มักจะเกิดข้อสงสัยตามมาว่า ทำไมต้องร้อนตับแตก ? ทำไมต้องร้อนตับแลบ ? รวมไปถึงตับมีความเกี่ยวพันอย่างไรกับความร้อน ในบทความนี้เรามีคำตอบของคำถามดังกล่าวมาให้ได้คลายข้อสงสัย แม้จะบรรเทาความร้อนลงไม่ได้แต่บรรเทาความสงสัยลงได้แน่นอน
ทำไมต้องตับ ตับเกี่ยวพันอย่างไรกับความร้อน
จากคำถามที่ว่าทำไมต้องเป็นตับ ก็ชวนนึกสงสัยไปต่อว่า เป็นปอด เป็นไต หัวใจ เซี่ยงจี๊ ได้หรือไม่ และการที่ตับมันแลบออกมา มันแลบออกมาจากที่ไหน ข้อสงสัยนี้ถูกคลาย โดย อาจารย์แพทย์แผนไทยคมสัน ทินกร ณ อยุธยา ที่เขียนบทความในหัวข้อ ร้อนจนตับแล่บ โดยอาจารย์ได้อธิบายไว้ในบทความว่า
“ในทางการแพทย์แผนไทยนั้น ตับคือไฟ ม้ามคือน้ำ ถ้าเทียบกับแผนจีน ตับคือหยิน ม้ามคือหยาง ตับจึงมีความร้อนเป็นปกติ ยิ่งถ้าอากาศร้อน ตับก็ยิ่งร้อนจนเปรียบว่า "ร้อนตับแล่บ" เพราะตับเมื่อมีความร้อนมาก ๆ จะหย่อนตัวลงจากที่ตั้งเดิม”
ดังนั้นจึงอาจอนุมานได้ว่าที่มาของร้อนตับแลบ ก็คือการหย่อนตัวลงของตับภายในร่างกาย ไม่ได้หมายถึงการที่ตับแลบออกมานอกร่างกายแต่อย่างใด ยังไงต้องขอขอบคุณ อาจารย์แพทย์แผนไทยคมสัน ทินกร ณ อยุธยา ในการคลายข้อสงสัย มา ณ ที่นี้ ด้วยนะครับ
แต่ในด้านการให้ความหมายคำว่าตับแลบก็มีความหมายในตัวของมันเอง โดยคำว่า ตับแลบ ในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. 2554 ได้ให้ความหมายไว้ว่า มีอาการเหนื่อยมาก เช่น วิ่งเสียจนตับแลบ ดังนั้นร้อนตับแลบจึงหมายถึงร้อนมากนั่นเอง
ทำไมต้องร้อนตับแตก ความร้อนจากร่างกายทำให้ตับแตกได้จริงหรือ
ยังคงเหลืออีก 1 ข้อสงสัยอันว่าด้วยเรื่องร้อนตับแตก โดยในทางการแพทย์ถ้าตับแตกขึ้นมาเมื่อไร สามารถเกิดอันตรายได้ถึงขั้นถึงแก่ชีวิต แต่คำว่าตับในที่นี้ ไม่ได้มาจากทางการแพทย์ แต่หมายถึง ตับจากหรือใบจาก ที่คนไทยในอดีตหรือคนไทยในพื้นที่ต่างจังหวัดนิยมนำมาใช้มุงหลังคาบ้าน เป็นลักษณนามของใบจากที่เรียงกันเป็นแถวเป็นแนวเรียงซ้อนกันเป็นตับ ๆ ซึ่งเมื่อใบจากเหล่านี้โดนความร้อนจากแสงอาทิตย์เป็นเวลานานจะโก่งตัวเบียดกันไปมาจนปริแตกได้ยินเป็นเสียงลั่นดังเปรี๊ยะ ๆ
คนไทยจึงนิยมเปรียบเทียบอากาศที่ร้อนจัดว่าร้อนตับแตก หรือร้อนจนตับใบจากที่มุงหลังคาบ้านแตกนั่นเอง
แล้วในทางการแพทย์ร้อนจนตับแตกสามารถเกิดขึ้นได้จริงหรือไม่ ? คำตอบของคำถามข้อนี้เกี่ยวพันกับโรคลมแดดหรือชื่อที่คุ้นเคยอย่างฮีตสโตรก ภาวะที่ร่างกายมีอุณภูมิสูงเกินกว่า 40 องศา จนเกิดความเสียหายต่ออวัยวะหลายเเห่งภายในร่างกายอาจพบได้ใน สมอง, หัวใจ, ไต รวมไปถึงตับ หากไม่ได้รับการรักษาอาจนำไปสู่ภาวะตับวายจนถึงแก่ชีวิตในที่สุด คำถามนี้จึงอาจพอสรุปได้ว่าร้อนตับแตกอาจไม่สามารถเกิดขึ้นได้จริง แต่ร้อนตับวายสามารถเกิดขึ้นได้แน่นอน หากไม่สามารถรักษาอุณหภูมิของร่างกายให้คงที่ได้
จากเนื้อหาทั้งหมดในบทความน่าจะพอทำให้ได้คำตอบกันแล้วนะครับว่า ทำไมต้องร้อนตับแตก ? ทำไมต้องร้อนตับแลบ ? ส่วนคำถามที่ว่าร้อนเฉย ๆ ได้ไหม ก็คงได้แหละครับ แต่คิดว่าคงไม่สะใจเท่าร้อนตับแตกแน่นอน สุดท้ายขอฝากเอาไว้ว่า หน้าร้อนแบบนี้ก็อย่าละเลยเผลอปล่อยให้ตัวเองอยู่ท่ามกลางความร้อนเป็นเวลาจนเกิดอาการฮีตสโตรก เดี๋ยวจะตับวายกันได้แบบไม่รู้ตัว
ติดตามบทความอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับหน้าร้อน
- ฤดูร้อนปี 68 เริ่ม 28 ก.พ.นี้ อุตุฯคาด ร้อนน้อยกว่าปี 67
- รู้จัก "ฮีตสโตรก" ภัยความร้อนเกิน 40 องศาฯ ตายเฉลี่ย 33 คนต่อปี
- ร้อน ร้อน แบบนี้ แนะ 6 วิธีคลายร้อน ช่วงอุณหภูมิสูงแตะ 40 องศาฯ
- เช็กดัชนีความร้อนกระทบสุขภาพ - แพทย์แนะวิธีสังเกตอาการ
อ้างอิง
- ร้อนจบตับแลบ โดย อาจารย์แพทย์แผนไทยคมสัน ทินกร ณ อยุธยา
- ภาษาไทย ใช้สนุก ตอนที่ 16 : ร้อนตับแตก โดย สถาบันภาษาไทยสิรินธร จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย