เป็นข่าวที่ถูกพูดถึงในสังคม กรณี “แบงค์ เลสเตอร์” อินฟลูเอนเซอร์โลกออนไลน์ เสียชีวิต โดยเชื่อมโยงสาเหตุมาจากการดื่มเหล้าเพียว จนเกิดอาการช็อกและเสียชีวิตในเวลาต่อมา
แม้ทางการแพทย์ จะยังต้องรอผลการวินิจฉัยโดยละเอียดถึงการเสียชีวิตครั้งนี้ แต่สิ่งที่สะท้อนสู่สังคมตอนนี้คือเรื่อง “พิษภัยของแอลกอฮอล์” Thai PBS ชวนทำความรู้จัก อาการไม่พึงประสงค์ที่เกิดขึ้นหลังการดื่มแอลกอฮอล์ เพื่อเรียนรู้และป้องกันไม่ให้เกิดผลร้ายตามมา
1.ดื่มแอลกอฮอล์แล้วเกิดอาการหน้าแดง ตัวแดง
หนึ่งในอาการที่มักเกิดขึ้นกับผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์หลายคน นั่นคือ ดื่มแล้วเกิดอาการ “หน้าแดง” หรือแม้แต่เกิดผื่นแดงขึ้นมา เรียกว่า Alcohol Flush Reaction หรือ AFR สาเหตุเกิดจากการแปรผันของยีนที่ทำให้เกิดความผิดปกติขึ้นในกระบวนการผลิตเอนไซม์ที่ช่วยย่อยแอลกอฮอล์
เอนไซม์ที่ว่านี้ มีชื่อว่า แอลดีไฮด์ดีไฮโดรจีเนส 2 (Aldehyde Dehydrogenase 2: ALDH 2) ซึ่งมีคุณสมบัติในการย่อยสลายสารแอซีทาลดีไฮด์ (Acetaldehyde) หรือก็คือแอลกอฮอล์ที่ผ่านกลไกร่างกาย เพื่อให้อยู่ในรูปที่สามารถย่อยและดูดซึมได้ แต่เมื่อเกิดความผิดปกติที่เรียกว่า AFR ขึ้น จึงเกิดลักษณะอาการหน้าแดง ตัวแดง เป็นผื่น คัดจมูก น้ำมูกไหล ท้องเสีย และคลื่นไส้อาเจียน
อาการนี้พบได้บ่อยในชาวเอเชีย อาจรู้จักกันในอีกชื่อหนึ่งว่า Asian Flush เป็นภาวะไม่ทนทานต่อแอลกอฮอล์ ซึ่งมีแนวโน้มทำให้ “เมาเร็ว” กว่าคนอื่น ผู้ที่พบสัญญาณเหล่านี้ พึงรู้ตัวว่าไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป และรวมถึงผู้ที่ร่วมดื่ม ไม่ควรบังคับหรือชักชวนให้ผู้ที่มีอาการนี้ดื่มมากจนเกินไป เพราะอาจเกิดอันตรายแก่ร่างกายได้
2. ดื่มแอลกอฮอล์แล้วปวดท้องหรือท้องเสีย
แอลกอฮอล์ถือเป็นสิ่งแปลกปลอมต่อร่างกาย ดังนั้น ร่างกายจึงพยายามขับสิ่งนี้ออกให้เร็วที่สุด ส่งผลให้เมื่อดื่มแอลกอฮอล์เข้าไป ระบบย่อยอาหารจะทำงานหนักขึ้น เพื่อขับสารเหล่านี้ออกจากร่างกาย
น้ำและของเหลวที่ดื่มเข้าไปจะถูกขับออกไปพร้อมกับสารเคมี ทำให้หลังจากดื่มแอลกอฮอล์ มักมีอาการถ่ายเหลวหรือท้องเสียตามมา
แอลกอฮอล์ยังส่งผลให้เกิดความระคายเคืองต่อลำไส้ และกระเพาะอาหาร ผู้ที่ดื่มแอลกอฮอล์เป็นประจำ เสี่ยงต่อการเกิดแผลในทางเดินอาหาร และเกิดอาการแสบท้อง และปวดท้องเรื้อรังได้
3.ดื่มแอลกอฮอล์แล้วทำให้ปวดหัว
สำหรับนักดื่มย่อมรู้ดี หากดื่มแอลกอฮอล์ในปริมาณที่มากจนเกินไป วันถัดมาจะเกิดอาการปวดหัว หรือที่เรียกว่า “เมาค้าง” สาเหตุของการปวดหัวจากการดื่มแอลกอฮอล์ เกิดจากร่างกายสูญเสียน้ำมากกว่าปกติ ทั้งจากการขับถ่าย หรือแม้แต่การอาเจียน ส่งผลให้ร่างกายเกิดภาวะขาดน้ำ และมีอาการปวดหัวขึ้นได้
นอกจากนี้ การดื่มแอลกอฮอล์มากเกินไป ยังทำให้เกิดคั่งค้างของสารแอลดีไฮด์ ที่มีผลต่อการลดปริมาณน้ำตาลในเลือด และยังไปรบกวนการทำงานของฮอร์โมนเมลาโทนินที่มีผลต่อเรื่องการนอน ทำให้เกิดอาการปวดหัวขึ้นเช่นกัน
4. ดื่มแอลกอฮอล์แล้วทำให้ปวดตัว
นักดื่มหลายคน มักประสบกับอาการปวดเมื่อยตัวหลังการดื่มแอลกอฮอล์ สาเหตุส่วนหนึ่งมาจากปริมาณกรดแลกติกในกล้ามเนื้อที่เพิ่มสูงขึ้น ทั้งนี้แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไป มีสารที่ชื่อว่า พิวรีน (Purine) เมื่อสารนี้เข้าสู่ร่างกายจะถูกเปลี่ยนเป็นกรดยูริก สามารถกระตุ้นให้เกิดการอักเสบ เมื่ออักเสบเรื้อรังก็อาจเพิ่มความเสี่ยงของโรคเก๊าต์ได้
ข้อแนะนำในการเลี่ยงไม่ให้เกิดภาวะที่ไม่พึงประสงเหล่านี้ คือ พยายามจิบน้ำเปล่าสลับไปกับการดื่มแอลกอฮอล์ แต่ทางที่ดีที่สุด ที่จะไม่ส่งผลเสียต่อร่างกาย นั่นคือ งดดื่ม หรือดื่มแอลกอฮอล์แต่พอดี
“พอดี” ในที่นี้ ไม่ใช่พอดีแค่ปริมาณการดื่มในแต่ละครั้ง แต่ควรเลือกการดื่มสังสรรค์ที่พอเหมาะพอดี ไม่ทำร้ายร่างกายจนเกินไป
อ้างอิง
- www.pobpad.com