ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

“ฉีดวัคซีน” ไม่ใช่แค่เรื่องของเด็ก ทำไม ? “ผู้สูงอายุ” ต้องฉีดวัคซีน


วิทยาศาสตร์ & เทคโนโลยี

16 ธ.ค. 67

จิราภพ ทวีสูงส่ง

Logo Thai PBS
แชร์

“ฉีดวัคซีน” ไม่ใช่แค่เรื่องของเด็ก ทำไม ? “ผู้สูงอายุ” ต้องฉีดวัคซีน

https://www.thaipbs.or.th/now/content/2033

“ฉีดวัคซีน” ไม่ใช่แค่เรื่องของเด็ก ทำไม ? “ผู้สูงอายุ” ต้องฉีดวัคซีน
บริการเสริมจาก Thai PBS AI

ปัจจุบันอายุขัยของประชากรทั่วโลกยาวขึ้น โดยคาดการณ์ว่าจะมีประชากรกว่า 2.1 พันล้านคนที่มีอายุมากกว่า 60 ปีภายในปี 2050 การทำความเข้าใจถึงการเสื่อมของ “ระบบภูมิคุ้มกัน” ตามอายุ จึงมีความสำคัญมากยิ่งขึ้น ความท้าทายจากการเสื่อมของ “ภูมิคุ้มกันตามอายุ” และบทบาทของ “วัคซีน” ในการรักษาสุขภาพให้ดีตลอดชีวิตจึงจำเป็น

senior-male-patient-getting-vaccinated

“ระบบภูมิคุ้มกัน” เป็นเครือข่ายที่ซับซ้อนของอวัยวะ เซลล์ และกระบวนการต่าง ๆ โดยอาจารย์ ดร. ภก.อนันต์ชัย อัศวเมฆิน ภาควิชาเภสัชวิทยา มหาวิทยาลัยมหิดล ได้ให้ความรู้ว่า ระบบภูมิคุ้มกันทำหน้าที่ป้องกันร่างกายจากการติดเชื้อและสารแปลกปลอม ระบบนี้สามารถแบ่งออกเป็น 2 ส่วนสำคัญคือ

1. ภูมิคุ้มกันโดยกำเนิด (Innate Immunity)

ระบบป้องกันแรกของร่างกายที่ไม่จำเพาะเจาะจงและตอบสนองทันที ประกอบด้วยอุปสรรคทางกายภาพและเคมี

2. ภูมิคุ้มกันแบบปรับตัว (Adaptive Immunity)

ระบบป้องกันที่เฉพาะเจาะจงและถูกกระตุ้นเมื่อมีการโจมตีจากเชื้อโรค เป็นระบบที่มีการจดจำและตอบสนองต่อการติดเชื้อที่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

doctor-preparing-vaccine-senior-woman

การเสื่อมของ “ภูมิคุ้มกันตามอายุ”

เมื่ออายุมากขึ้น “ระบบภูมิคุ้มกัน” จะเริ่มเสื่อมลง ส่งผลให้ประสิทธิภาพในการตอบสนองต่อการติดเชื้อและการพัฒนาภูมิคุ้มกันจากวัคซีนลดลง การเสื่อมนี้เกิดขึ้นทั้งในระบบภูมิคุ้มกันโดยกำเนิดและภูมิคุ้มกันแบบปรับตัว

     - เซลล์ T: จำนวนเซลล์ T ที่ไม่เคยสัมผัสเชื้อ (naive T cells) จะลดลง ขณะที่เซลล์ T ที่มีอายุมากจะเพิ่มขึ้น ส่งผลให้ความสามารถในการจดจำและตอบสนองต่อแอนติเจนใหม่ ๆ ลดลง

     - เซลล์ B: การผลิตเซลล์ B ใหม่ลดลง แต่มีการสะสมของเซลล์ B ที่มีความจำ (memory B cells) ซึ่งทำให้การตอบสนองต่อแอนติเจนใหม่ไม่ดีเท่าที่ควร

covid-vaccine-fight-illness

การอักเสบเรื้อรัง (Inflamm-aging)

ภาวะการอักเสบเรื้อรังระดับต่ำที่เกิดขึ้นในผู้สูงอายุ มีส่วนทำให้เกิดการเสื่อมของระบบภูมิคุ้มกันและการพัฒนาของโรคที่เกี่ยวข้องกับอายุ เช่น โรคเบาหวาน โรคหัวใจ โรคปอด และโรคมะเร็ง

เจ้าหน้าที่เตรียมวัคซีน

นวัตกรรมการผลิตวัคซีนสำหรับผู้สูงอายุ

เพื่อช่วยให้ร่างกายมีการตอบสนองต่อวัคซีนได้ดีขึ้น จึงมีการคิดค้นการใช้สารเสริมฤทธิ์ (adjuvant) ในวัคซีน เมื่อนำมาใช้กับวัคซีนจึงเป็นแอนติเจนที่ช่วยให้วัคซีนกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันได้ดี ทำให้มีการสร้างภูมิคุ้มกันจำเพาะที่มากขึ้น และอยู่ในร่างกายได้นานขึ้น

เข็มกับขวดวัคซีน

บทบาทของวัคซีนในการป้องกันโรคในผู้สูงอายุ

แม้ “ระบบภูมิคุ้มกัน” จะเสื่อมลงตามอายุ แต่วัคซีนยังคงเป็นเครื่องมือสำคัญในการป้องกันโรค ปัจจุบันในไทยมีวัคซีนสำหรับผู้สูงอายุที่มีส่วนผสมของระบบเสริมฤทธิ์ (adjuvant vaccine) ได้แก่

     1. วัคซีนป้องกันงูสวัด (Herpes Zoster) ชนิด Recombinant Zoster Vaccine (RZV) ที่มีส่วนผสมของระบบเสริมฤทธิ์ AS01B

     2. วัคซีน RSV ชนิด Adjuvanted RSVPreF3 Vaccine มีส่วนผสมของระบบเสริมฤทธิ์ AS01E

ได้รับการออกแบบมาเพื่อเพิ่มการตอบสนองของภูมิคุ้มกันทั้งเซลล์ T และการสร้างแอนติบอดี วัคซีนแบบที่มีส่วนผสมของระบบเสริมฤทธิ์นี้แสดงให้เห็นว่ามีประสิทธิภาพสูงในการป้องกันโรคในผู้สูงอายุ

เจ้าหน้าที่เตรียมวัคซีน

การตอบสนองของ “ระบบภูมิคุ้มกัน”

วัคซีนที่มีการเสริมฤทธิ์ด้วย AS01 ถูกออกแบบมาเพื่อกระตุ้นการตอบสนองของระบบภูมิคุ้มกันทั้งในด้านของเซลล์ T และแอนติบอดี โดยการศึกษาชี้ให้เห็นว่าวัคซีนชนิดนี้สามารถสร้างการตอบสนองที่แข็งแกร่งและยาวนาน ช่วยป้องกันการติดเชื้อในระยะยาว แม้ในกลุ่มผู้ป่วยที่มีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอจากโรคหรือได้รับยากดภูมิคุ้มกันอื่น ๆ เช่น โรคมะเร็ง หรือโรคเบาหวาน

วัคซีนงูสวัด ชนิด Recombinant Zoster Vaccine (RZV)

ประสิทธิภาพของวัคซีนงูสวัด (RZV) ในผู้สูงอายุ

จากการศึกษาทางคลินิกที่ครอบคลุมประชากรกลุ่มอายุ 50 ปีขึ้นไป พบว่าวัคซีนชนิดนี้สามารถป้องกันการเกิดงูสวัดได้ 97.2% อย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีอัตราการป้องกันสูงถึง 91.3% ในผู้ที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไป การศึกษานี้ยังชี้ให้เห็นว่าวัคซีนสามารถลดความเสี่ยงในการเกิดภาวะแทรกซ้อนที่รุนแรงจากงูสวัด เช่น อาการปวดประสาทหลังเป็นงูสวัด (Postherpetic Neuralgia) ได้ถึง 88.8% ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมากในการป้องกันโรคและบรรเทาความเจ็บปวดในผู้สูงอายุ

เจ้าหน้าที่เตรียมฉีดวัคซีน

การป้องกันการติดเชื้อและลดภาวะแทรกซ้อน

นอกจากนี้ วัคซีนชนิดนี้ยังแสดงให้เห็นถึงความสามารถในการลดอัตราการเข้ารับการรักษาในโรงพยาบาลจากการติดเชื้อที่เกี่ยวข้องกับงูสวัด เช่น การอักเสบของเนื้อเยื่อประสาทและการสูญเสียการมองเห็น นอกจากนี้ยังช่วยลดภาวะแทรกซ้อนในผู้ที่มีภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่อง โดยมีอัตราการลดความเสี่ยงสูงถึง 77.8% ในกลุ่มที่มีภาวะแทรกซ้อนจากโรค

ตามคำแนะนำของสมาคมโรคติดเชื้อแห่งประเทศไทยปี 2566 เกี่ยวกับวัคซีนป้องกันโรคงูสวัด (Herpes Zoster Vaccine - HZV) สำหรับผู้ใหญ่และผู้สูงอายุ วัคซีนนี้มีความสำคัญในการป้องกันการติดเชื้อไวรัส Varicella Zoster ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคงูสวัด โดยเฉพาะในผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปหรือผู้อายุ 18 ปีขึ้นไปที่มีภาวะภูมิคุ้มกันอ่อนแอ ซึ่งมักมีความเสี่ยงต่อโรคนี้มากขึ้น

วัคซีนชนิด Recombinant Zoster Vaccine (RZV: Shingrix) ที่มีส่วนผสมของสารเสริม (Adjuvant) อย่าง AS01B ได้รับการรับรองว่ามีประสิทธิภาพสูงในการกระตุ้นการตอบสนองของภูมิคุ้มกัน ทั้งในรูปแบบของเซลล์ T และการผลิตแอนติบอดี นอกจากนี้ยังแสดงประสิทธิภาพในการป้องกันโรคงูสวัดและภาวะแทรกซ้อน เช่น อาการปวดปลายประสาทหลังเป็นงูสวัด (Postherpetic Neuralgia - PHN) ได้ดี แม้ในผู้ป่วยที่มีอายุมากหรือมีระบบภูมิคุ้มกันอ่อนแอ

การฉีดวัคซีนงูสวัดจึงเป็นวิธีที่แนะนำโดยแพทย์สำหรับผู้ที่มีอายุ 50 ปีขึ้นไปเพื่อป้องกันการเกิดโรคงูสวัดและผลกระทบจากโรคที่อาจมีความรุนแรงและต่อเนื่องนาน โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ที่เคยป่วยเป็นโรคอีสุกอีใสมาก่อน

หากคุณเคยรับวัคซีนป้องกันงูสวัดชนิดอื่นมาก่อน เช่น วัคซีนชนิดเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์ (Live-attenuated zoster vaccine หรือ Zostavax) และต้องการเปลี่ยนมาฉีดวัคซีนชนิด Recombinant Subunit Zoster Vaccine (Shingrix) ซึ่งเป็นวัคซีนชนิดใหม่ที่มีประสิทธิภาพสูงกว่า แพทย์แนะนำว่าเราสามารถรับวัคซีน Shingrix ได้เช่นกัน ไม่ว่าเราจะเคยได้รับวัคซีน Zostavax มาก่อนหรือไม่ก็ตาม เพราะ Shingrix มีประสิทธิภาพในการป้องกันโรคสูงถึง 97.2% ในการป้องกันการเกิดงูสวัด และยังมีประสิทธิภาพในการป้องกันภาวะแทรกซ้อนอย่างอาการปวดตามแนวเส้นประสาทหลังการติดเชื้อถึง 91.2%

สำหรับผู้ที่เคยได้รับวัคซีนชนิดเชื้อเป็นอ่อนฤทธิ์ก่อนหน้านี้ ควรทิ้งระยะเวลาห่างจากการฉีดวัคซีนอย่างน้อย 2 เดือน ก่อนที่จะรับวัคซีน Shingrix ทั้งสองเข็ม เพื่อให้ระบบภูมิคุ้มกันตอบสนองต่อวัคซีนใหม่ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

นอกจากนี้ หากเราเคยเป็นโรคงูสวัดมาก่อน ยังสามารถฉีดวัคซีนป้องกันงูสวัดได้หลังจากหายจากโรคอย่างน้อย 6 เดือน เพื่อป้องกันการกลับมาเป็นซ้ำ

เข็มฉีดวัคซีน

วัคซีนอาร์เอสวี (RSV vaccine) ชนิด Adjuvanted RSVPreF3 Vaccine มีส่วนผสมของระบบเสริมฤทธิ์ AS01E

ประสิทธิภาพของวัคซีน RSV ชนิด Adjuvanted RSVPreF3 Vaccine ในผู้สูงอายุ

Adjuvanted RSVPreF3 Vaccine (RSV: Arexvy) ใช้สำหรับกระตุ้นการสร้างภูมิคุ้มกันเพื่อป้องกันโรคทางเดินหายใจส่วนล่าง (Lower Respiratory Tract Disease: LRTD) ที่มีสาเหตุมาจาก Respiratory Syncytial Virus (RSV) ในผู้ใหญ่ที่มีอายุ 60 ปีขึ้นไป และ ผู้ใหญ่ที่มีอายุ 50 ถึง 59 ปี ที่มีความเสี่ยงต่อโรคที่เกิดจาก RSV

จากการศึกษาในกลุ่มประชากรอายุ 60 ปีขึ้นไป ในฤดูกาลที่ 1 ติดตามเป็นระยะเวลาการศึกษาทั้งสิ้น 6.7 เดือน พบว่าประสิทธิภาพของวัคซีนสำหรับการป้องกัน RSV-LRTD คือ 82.6% ประสิทธิภาพของวัคซีนสำหรับการป้องกัน Severe RSV-LRTD คือ 94.1% และประสิทธิภาพของวัคซีนสำหรับกลุ่มผู้มีโรคประจำตัวอย่างน้อย 1 โรค ได้แก่ โรคปอดอุดกั้นเรื้อรัง โรคหืด โรคปอดเรื้อรัง โรคหัวใจวายเรื้อรัง โรคเบาหวาน โรคไตเรื้อรัง โรคตับเรื้อรัง คือ 94.6%

และจากการติดตามประสิทธิภาพของวัคซีนในระยะเวลาการศึกษาทั้งสิ้น 17.8 เดือน หรือ 2 ฤดูกาล พบว่า ประสิทธิภาพของวัคซีนสำหรับการป้องกัน RSV-LRTD คือ 74.5% ประสิทธิภาพของวัคซีนสำหรับการป้องกัน Severe RSV-LRTD คือ 82.7% และประสิทธิภาพของวัคซีนสำหรับกลุ่มผู้มีโรคประจำตัว 1 โรค คือ 74.5%

ปัจจุบันวัคซีน RSV ยังไม่มีข้อมูลเกี่ยวกับความจำเป็นสำหรับการฉีดวัคซีนซ้ำหลังจากเข็มแรก และสำหรับผู้สูงอายุที่เคยติด RSV นั้นสามารถฉีดวัคซีน RSV ได้ เมื่อหายจากโรค RSV  

hand-s-nurse-holding-pill-injecting-elderly-female-patients

การป้องกันการติดเชื้อและลดภาวะแทรกซ้อน

ประสิทธิภาพของ “วัคซีน” ใน “ผู้สูงอายุ” มีความสำคัญอย่างยิ่ง เนื่องจากช่วยลดการติดเชื้อและภาวะแทรกซ้อนที่อาจเกิดขึ้น นอกจากนี้ยังช่วยเสริมสร้างความสามารถในการป้องกันตัวเองของระบบภูมิคุ้มกันที่เสื่อมตามอายุ วัคซีนที่มีการออกแบบด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยเช่น Adjuvant Vaccine AS01 เป็นตัวอย่างหนึ่งของการพัฒนาที่สำคัญในการรักษาสุขภาพและคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุอย่างมีประสิทธิภาพ
 

อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS

แหล่งข้อมูลอ้างอิง : pidst, อาจารย์ ดร. ภก.อนันต์ชัย อัศวเมฆิน ภาควิชาเภสัชวิทยา มหาวิทยาลัยมหิดล

“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech

แท็กที่เกี่ยวข้อง

ผู้สูงอายุฉีดวัคซีนผู้สูงอายุผู้สูงวัยวัคซีนฉีดวัคซีนภูมิคุ้มกันระบบภูมิคุ้มกันภูมิคุ้มกันตามอายุวิทยาศาสตร์วิทยาศาสตร์น่ารู้Thai PBS Sci And Tech Thai PBS Sci & Tech Science
จิราภพ ทวีสูงส่ง
ผู้เขียน: จิราภพ ทวีสูงส่ง

เซบา บาสตี้ : เจ้าหน้าที่เนื้อหาดิจิทัล สำนักสื่อดิจิทัล ไทยพีบีเอส / Specialist Contents / Journalist / Writer / Creative Copywriter / Proofreader Lover (ติดต่อ jiraphob.thawisoonsong@gmail.com หรือ 0854129703)

บทความ NOW แนะนำ

ข่าวล่าสุด