รวม 3 มือเซตระดับพระกาฬ วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย จากอดีตสู่ปัจจุบัน

วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ลงทำการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงเนชันส์ลีก 2023 (VNL 2023) และต่อเนื่องมาสู่ รายการแข่งขันวอลเลย์บอลหญิง ซี วี.ลีก 2023 ซึ่งทีมชุดนี้ถือเป็น “เลือดใหม่” ที่มีดีไม่แพ้รุ่นพี่ ๆ โดยเฉพาะผู้เล่นในตำแหน่ง Setter หรือ มือเซต ที่ทีมวอลเลย์บอลหญิงไทยไม่เคยขาดแคลนผู้เล่นระดับคุณภาพในตำแหน่งนี้เลย

ไทยพีบีเอสขอนำเรื่องราว “3 มือเซตระดับพระกาฬ” ที่สร้างชื่อให้ทีมชาติไทย นับจากอดีตสู่ปัจจุบัน แถมยังเป็นขวัญใจที่แฟน ๆ กีฬาชาวไทยจดจำพวกเธอได้เป็นอย่างดี…

ปริม อินทวงศ์ : มือเซตรุ่นบุกเบิกความสำเร็จวอลเลย์บอลหญิงไทย

หากใครเป็นแฟนกีฬาวอลเลย์บอลสักหน่อย ร้อยทั้งร้อย ต้องคุ้นหูชื่อ “ปริม อินทวงศ์” อดีตนักวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย แถมยังได้รับฉายาว่า “มือเซตอัจฉริยะ” สร้างชื่อเสียงโด่งดัง และเป็นนักวอลเลย์บอลรุ่นบุกเบิกความสำเร็จให้กับทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยในอดีต

ภาพจากเฟซบุ๊ก ปริม อินทวงศ์

ปริม มีชื่อเล่นว่า เจน เป็นชาวเชียงราย เริ่มต้นเล่นวอลเลย์บอลที่โรงเรียนดำรงราษฎร์ จังหวัดเชียงราย ก่อนจะเข้ามาเรียนต่อที่กรุงเทพฯ และพัฒนาจนกลายเป็นผู้เล่นในสังกัดทีมไทยน้ำทิพย์

กระทั่งในปี 2529 ขณะที่เธออายุ 16 ปี ก็สามารถก้าวขึ้นมาติดทีมชาติ โดยแรกเริ่มเดิมที เธอเล่นในตำแหน่งตัวตบ แต่เหตุการณ์พลิกผันในปีต่อมา เมื่อสมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย ที่กำลังเตรียมทีมไปแข่งขันในรายการชิงแชมป์เอเชีย โดย อ.กิตติศักดิ์ ขันทอง เฮดโค้ชทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยในตอนนั้น ได้ตัดสินใจให้ปริมเปลี่ยนมาเล่นตำแหน่งมือเซต

เนื่องจากเล็งเห็นว่าปริมมีทักษะที่ดี และสามารถเล่นลูกพลิกแผลง หรือตีบอลเร็วได้ จึงทำให้เธอเปลี่ยนตำแหน่ง จากมือตบมาเป็นมือเซต นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา

ภาพจากเฟซบุ๊ก ปริม อินทวงศ์

ปริมพาทีมคว้าแชมป์กีฬาซีเกมส์ สมัยแรก ในปี 2532 ที่ประเทศมาเลเซีย พร้อมพาทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยเก็บเกี่ยวความสำเร็จเรื่อยมา โดยเฉพาะการสร้างประวัติศาสตร์ เป็นส่วนหนึ่งในการพาทีมทัพลูกยางสาวไทย เข้าไปแข่งขันศึกชิงแชมป์โลกเป็นครั้งแรกในปี 2541 รวมทั้งเป็นกำลังหลักให้กับทีมชาติไทยลงแข่งกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ปี 2541 เช่นกัน

ภาพจากเฟซบุ๊ก ปริม อินทวงศ์

แม้จะประสบความสำเร็จ กลายเป็นมือเซตที่เป็นหัวใจสำคัญของทีม แต่ปริมกลับมีปัญหาที่หัวเข่า จนในที่สุดต้องประกาศเลิกเล่นในปี 2542 ปิดฉากการรับใช้ชาติกว่า 14 ปี แต่ถึงอย่างนั้น ชื่อของ “ปริม อินทวงศ์” ก็ได้รับการยกย่องให้เป็นหนึ่งในนักวอลเลย์บอลหญิงที่ดีที่สุดในประวัติศาสตร์ทีมชาติไทย

นุศรา ต้อมคำ : มือเซตระดับตำนานที่ชาวต่างชาติให้การยอมรับ

หลัง ปริม อินทวงศ์ บอกลาทีมชาติไป ตำแหน่ง “มือเซต” ของทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ก็มีสายเลือดใหม่ที่ก้าวขึ้นมาทดแทน นั่นคือ “นุศรา ต้อมคำ” มือเซตที่มีฝีไม้ลายมือเก่งกาจ แถมยังสร้างชื่อเสียงในเวทีนานาชาติจนเป็นที่ยอมรับ

นุศรา มีชื่อเล่นว่า นุช แต่ผู้คนในวงการมักเรียกว่า “ซาร่า” เธอเป็นชาวจังหวัดราชบุรี เริ่มต้นชีวิตการเล่นวอลเลย์บอลจากการเห็นพี่สาวของตัวเองฝึกซ้อมวอลเลย์ฯ ในทุก ๆ วัน จนทำให้เกิดสนใจในกีฬาชนิดนี้ขึ้นมา และตัดสินใจเริ่มเล่นวอลเลย์บอลมาตั้งแต่อายุ 10 ปี

ด้วยพรสวรรค์บวกกับพรแสวง ส่งให้นุศราพัฒนาการเล่นวอลเลย์บอลมากขึ้นเป็นลำดับ นุศราใช้เวลาไต่เต้าจากทีมระดับโรงเรียน ก้าวสู่ระดับเยาวชนทีมชาติ ก่อนที่ในปี 2544 เธอสามารถก้าวขึ้นสู่ทีมชาติชุดใหญ่ โดยเป็นหนึ่งในทีมเข้าร่วมแข่งขันในรายการชิงแชมป์เอเชีย

และในปี 2546 นุศราและทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย ก็สามารถคว้าเหรียญทองในกีฬาซีเกมส์ที่ประเทศเวียดนาม จากนั้นพวกเธอก็เก็บเกี่ยวความสำเร็จอีกมากมาย โดยเฉพาะในปี 2552 ที่คว้าเหรียญทองในศึกชิงแชมป์เอเชียมาครองได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์

นุศราถือเป็นมือเซตที่มีทักษะความสามารถชนิดหาตัวจับยาก จนสโมสรวอลเลย์บอลระดับโลกพยายามคว้าตัวไปร่วมทีม ที่ผ่านมา เธอมีโอกาสไปร่วมเล่นให้กับทีมสโมสรในลีกยุโรปหลายแห่ง อาทิ สเปน, สวิตเซอร์แลนด์, อาเซอร์ไบจาน, และตุรกี พร้อมกับคว้ารางวัลผู้เล่นทรงคุณค่า และมือเซตยอดเยี่ยมมาครองอยู่ไม่ขาด

แม้นุศราและเพื่อนร่วมรุ่นทีมชาติในนาม “7 เซียน” (ปลื้มจิตร ถินขาว, อรอุมา สิทธิรักษ์, อำพร หญ้าผา, มลิกา กันทอง, วิลาวัณย์ อภิญาพงศ์, วรรณา บัวแก้ว และนุศรา ต้อมคำ) จะประกาศอำลาการเล่นให้กับทีมชาติไปแล้ว แต่ปฏิเสธไม่ได้ว่า เธอยังคงถูกกล่าวขานถึง ทั้งในแง่ผลงาน และการเป็นแรงบันดาลใจให้กับน้อง ๆ นักกีฬารุ่นหลังอยู่เสมอ

พรพรรณ เกิดปราชญ์ : มือเซตความหวังใหม่แห่งยุค

ฮอตสุดในเวลานี้ ต้องยกให้ “กัปตันชมพู่” หรือ พรพรรณ เกิดปราชญ์ มือเซตรุ่นใหม่มาแรงแห่งทีมวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย

ชื่อ พรพรรณ วนเวียนอยู่ในนามทีมชาติไทยมากว่า 10 ปีแล้ว เธอเก็บเกี่ยวประสบการณ์กับนักกีฬารุ่นพี่มาอย่างยาวนาน กระทั่งได้รับโอกาสเป็น “ผู้นำ” ให้กับวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยชุดปัจจุบัน

ปัจจุบันพรพรรณอายุ 30 ปี เธอเป็นชาวนครพนม เริ่มต้นกีฬาวอลเลย์บอลที่โรงเรียนกีฬาจังหวัดอ่างทอง ก่อนจะฝึกฝนพัฒนาตัวเอง กระทั่งติดทีมยุวชนและเยาวชนทีมชาติไทยตามลำดับ

พรพรรณก้าวขึ้นสู่ทีมชุดใหญ่ในปี 2555 และลงแข่งขันในรายการปริ๊นเซส คัพ ที่จังหวัดนครราชสีมา และหลังจากนั้น เธอก็ลงรับใช้ชาติในทัวร์นาเมนต์ต่าง ๆ พร้อมกับเรียนรู้แนวทางจากรุ่นพี่อย่าง นุศรา ต้อมคำ ซึ่งยกให้เป็น "ไอดอล" ในการเล่นวอลเลย์บอลมาโดยตลอด

ภายหลังวอลเลย์บอลสาวรุ่นพี่ในนาม “7 เซียน” ต่างอำลาทีมชาติไป พรพรรณก้าวขึ้นมารับบทบาท “มือเซตเบอร์หนึ่ง” ของทีม พร้อมสวมปลอกแขนกัปตันทีม โดยลงทำหน้าที่ในกีฬาซีเกมส์ 2021 ที่ประเทศเวียดนาม พร้อมกับคว้าเหรียญทองมาครองได้สำเร็จ

ก่อนที่เมื่อปี 2022 กัปตันชมพู่จะพาทีมวอลเลย์บอลหญิงไทยรุ่นใหม่ ลงแข่งขันในรายการวอลเลย์บอลเนชันส์ลีกส์ 2022 และยังคงทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจ พาทีมไทยจบที่อันดับ 8 ของการแข่งขัน แถมยังทำสถิติเป็นมือเซตที่ทำคะแนนได้เป็นอันดับหนึ่งของรายการอีกด้วย

นอกจากมีลีลาการเล่นที่ตื่นเต้นเร้าใจแล้ว พรพรรณยังมีบุคลิกภาพในสนามที่สนุกสนาน มีรอยยิ้มแจ่มใส เป็นทั้งผู้นำและเป็นผู้สร้างขวัญกำลังใจให้กับเพื่อนร่วมทีมอยู่เสมอ ทั้งหมดจึงส่งให้เธอกลายเป็น “ดาวเด่น” ในทีม และได้รับความสนใจจากสื่อ รวมทั้งเป็นขวัญใจคนใหม่ของแฟนกีฬาชาวไทยไปเป็นที่เรียบร้อย

หากจะบอกว่า ทีมวอลเลย์บอลหญิงไทย ไม่เคยขาดผู้เล่นที่มีความสามารถ คงจะไม่ผิดไปนัก แต่เหนืออื่นใด คือการส่งต่อผู้เล่นจากรุ่นสู่รุ่นที่มีมาตรฐาน จึงทำให้วอลเลย์บอลหญิงไทยสร้างผลงานที่ดี จนก้าวไปสู่ระดับโลกได้อย่างน่าชื่นชม...

อ่านข่าวและบทความที่เกี่ยวข้อง