จากสถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่เขาแหลม-เขาชะพลู ต.พรหมณี จ.นครนายก ที่กำลังทวีความรุนแรง ส่งผลกระทบต่อคนในพื้นที่รวมถึงสัตว์ป่านานาชนิดอย่างมหาศาล เพื่อระงับสถานการณ์ให้ได้โดยเร็ว กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) ร่วมกับกองทัพบกส่งเฮลิคอปเตอร์ Kamov Ka-32 จำนวน 1 ลำ และ MI-17 จำนวน 2 ลำ สนับสนุนภารกิจดับไฟป่าครั้งนี้ ด้วยเหตุนี้ #ThaiPBS จึงขอพาไปรู้จักตัวเอกของภารกิจ ซึ่งก็คือ เฮลิคอปเตอร์ Kamov Ka-32 "The Guardian" โดยจะมีประเด็นใดน่าสนใจน่าสนใจบ้างตามมาอ่านกันได้เลย
จุดเริ่มต้น Kamov Ka-32 "The Guardian"
JSC Kamov ซึ่งมีประสบการณ์กว่า 80 ปี ปัจจุบันเป็นบริษัทลูกของ Russian Helicopters คือผู้ผลิตเฮลิคอปเตอร์รุ่น Kamov Ka-32 "The Guardian" โดยพัฒนามาจาก Ka-27 ที่เริ่มเข้าประจำการในกองทัพเรือสหภาพโซเวียตในปี 1982 สำหรับภารกิจต่อต้านเรือดำน้ำ หลังจากนั้นมีการพัฒนาขีดความสามารถให้เหมาะสมกับแต่ละภารกิจ โดยชื่อรุ่น “Ka-32” เป็นรุ่นที่มีการพัฒนาในหลายส่วนรวมถึงได้รับการรับรองให้ใช้ในประเทศอื่น ๆ ทั่วโลก โดยเฉพาะภารกิจสำหรับพลเรือนไม่ว่าจะเป็นด้านการพาณิชย์หรือภารกิจกู้ภัย
โดยที่การออกแบบเฮลิคอปเตอร์รุ่นนี้จุดเด่นอยู่ตรงส่วนใบพัดที่เรียกว่า “Coaxial Rotors” ที่มีลักษณะเป็นแบบใบพัดสองชั้นหมุนไปในทิศทางตรงข้ามกัน การออกแบบลักษณะนี้ทำให้ไม่จำเป็นต้องมีใบพัดขนาดเล็กที่หางหรือใบพัดท้าย ซึ่งช่วยให้โครงสร้างลำตัวส่วนหางสั้นลง เพิ่มความคล่องตัวในการปฏิบัติงาน
ประสิทธิภาพ Kamov Ka-32 "The Guardian"
สำหรับประสิทธิภาพของเฮลิคอปเตอร์ KA-32 ก็คือ มี Power 2,190 แรงม้า บินด้วยความเร็วสูงสุด 124 นอต 230 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ระยะการเดินทางอยู่ที่ 430 ไมล์ทะเล (798 กิโลเมตร) เพดานการบินสูงสุด 16,405 ฟุต
ขณะที่เครื่องยนต์เทอร์โบชาฟท์ Klimov TV3-117MA สองเครื่องได้รับการติดตั้งเคียงข้างกันเหนือห้องโดยสารหลักและขับเคลื่อนโรเตอร์ไปข้างหน้า ขณะที่น้ำหนักเฮลิคอปเตอร์นั้นอยู่ที่ 12,695 กิโลกรัม (27,998 ปอนด์) สามารถบรรทุกได้สูงสุด 3,300 กิโลกรัม (7,275 ปอนด์) ความจุถังน้ำมันเชื้อเพลิง 700 แกลลอน (2,650 ลิตร) และสามารถบรรทุกผู้โดยสารได้ 13 ที่นั่ง
นอกจากนี้อุปกรณ์ลงจอด เฮลิคอปเตอร์ได้ติดตั้งอุปกรณ์ลงจอดแบบสี่ล้อ มีโช้คอัพนิวเมติก Oleo และล้อเลื่อนจมูก ขนาดยางล้อหลักและยางล้อจมูกคือ 600 × 180 มม. และ 400 × 150 มม.
ทั้งนี้ KA-32 สามารถทำการบินต่อเนื่องได้นาน 2 ชั่วโมง 45 นาที อัตราสิ้นเปลือง 860 ลิตรต่อชั่วโมง ความเร็วเดินทาง 222 กิโลเมตรต่อชั่วโมง โดยการขึ้นบินหนึ่งครั้งจะมีนักบินและเจ้าหน้าที่ประจำเฮลิคอปเตอร์ รวม 7 นาย
สมรรถนะพิชิต ภารกิจ “ดับไฟป่า”
- 2 ใบพัด "Coaxial Rotors" ใบพัด 2 ชั้นหมุนไปในทิศทางตรงข้ามกัน
- ท่อดูดน้ำ เพื่อนำน้ำไปทิ้งในพื้นที่เกิดไฟไหม้ (ท่อดูดน้ำยาว 42 เมตร สูบน้ำ 1 นาที ได้ 3,000 ลิตร)
- บินได้นาน 2 ชั่วโมง 45 นาที
- บรรจุน้ำได้ 3,000 ลิตร
- ฉีดได้ไกล 50 เมตร จากเฮลิคอปเตอร์ (ขึ้นอยู่กับอากาศยานจะอยู่เหนือลมหรือต้านลม)
โดยเฮลิคอปเตอร์ “Kamov Ka-32” จะถูกใช้ในการปฏิบัติภารกิจป้องกันสาธารณภัยต่าง ๆ เช่น การควบคุมไฟป่าในพื้นที่ 17 จังหวัดภาคเหนือ รวมถึงเหตุสาธารณภัยอื่น ๆ ซึ่ง เฮลิคอปเตอร์รุ่นนี้ได้รับความนิยมในภารกิจค้นหากู้ภัยและการดับเพลิงทั้งในพื้นราบทั่วไป บนอาคารสูง รวมทั้งพื้นที่ที่รถดับเพลิงทั่วไปยากจะเข้าถึงได้ รวมถึงการช่วยเหลือและขนย้ายผู้ประสบภัยในพื้นที่ที่เข้าถึงด้วยความยากลำบากทั่วประเทศด้วย เนื่องจากมีสมรรถนะในการทรงตัวสูง บินช้า ลอยตัวนิ่งได้นานกว่าเฮลิคอปเตอร์รุ่นอื่น ทนต่อสภาวะอากาศเลวร้ายได้ดี
ซึ่ง “Kamov Ka-32” ได้ทำการบินอย่างเป็นทางการเที่ยวแรกในภารกิจการฝึกควบคุมไฟป่าหมอกควันร่วมกับกองทัพอากาศ ณ จังหวัดเชียงใหม่ เมื่อวันที่ 26 มกราคม 2563
สำหรับ Kamov Ka-32 "The Guardian" ได้รับความนิยมทั่วโลก มีการใช้งานอยู่หลายหน่วยงานในหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ อินโดนีเซีย โปรตุเกส สวิตเซอร์แลนด์ แคนาดา โดยกรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยได้นำเฮลิคอปเตอร์รัสเซียรุ่นนี้มาใช้ในหลายภารกิจ โดยเฉพาะการดับไฟป่า
แหล่งอ้างอิงข้อมูล : กองทัพบก, กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.)