วันนี้ (14 มี.ค.2568) นายพิศาล มาณวพัฒน์ อดีตเอกอัครราชทูตไทยประจำสหภาพยุโรป กล่าวถึงกรณีที่สภายุโรปมีมติรับรองข้อมติด้านสิทธิมนุษยชนเกี่ยวกับไทย ซูดานและอาเซอร์ไบจาน หลังอภิปรายญัตติร่วมในเรื่องประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชนในไทย กรณีการเนรเทศผู้อพยพชาวอุยกูร์
ว่าเป็นโอกาสที่รัฐสภายุโรปแสดงความไม่พอใจกับสิ่งที่ประเทศไทยส่งชาวอุยกูร์กลับจีนขัดหลักสิทธิมนุษยชนที่มีอยู่ ส่วนสหรัฐอเมริกาคงแสดงในวันที่ 2 เม.ย.กรณีที่จะประกาศภาษีศุลกากรกับนานาประเทศทั่วโลก
โดยมองว่าประเทศจีนมีความสำคัญกับประเทศไทยอย่างยิ่งยวด ความสัมพันธ์ต้องแน่นแฟ้น แต่ไทยเองต้องดูแลผลประโยชน์ที่จะได้รับผลกระทบจากความสัมพันธ์นี้ด้วย ซึ่งทั้ง EU และสหรัฐฯ เป็นประเทศคู่ค้าอันดับ 2 กับ 3 ซึ่งได้ดุลการค้าจาก EU 160,000 ล้านบาท ได้ดุลการค้ากับสหรัฐ 1 ล้านล้านบาท ซึ่งจะมีผลกระทบที่จะมาถึงผู้ผลิตผู้ส่งออกของไทย
ทั้งนี้ระบุว่าถ้าไทยยังไม่ได้ตัดสินใจ หรือเลื่อนการส่งชาวอุยกูร์กลับออกไป 6 เดือน หรือ 1 ปี อาจจะไม่ได้รับผลกระทบจากการเจรจา FTA จาก EU และจะลดความเสียหายจากการประกาศการขึ้นภาษีศุลกากรในวันที่ 2 เม.ย.นี้
อ่านข่าว : "สภายุโรป" โหวตประณามไทยส่งอุยกูร์-เรียกร้องใช้ FTA กดดันแก้ กม.

สำหรับแต้มต่อของไทย นายพิศาล ระบุว่ายังมีอยู่แม้จะเลือนรางและเป็นสิ่งที่รัฐบาลไม่ได้ให้ความสนใจ คือ ในวันที่ 18 มี.ค.ที่ทางไทยจะเดินทางไปดูความเป็นอยู่ชาวอุยกูร์ที่จีน โดยจะมีคณะสื่อมวลชนไปด้วย ซึ่งสำหรับการเดินทางครั้งนี้ ถ้า มีผู้แทนของคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติและผู้ที่เกี่ยวข้องเดินทางร่วมไปด้วย เพื่อจะได้ไปเห็นกับตาว่าชาวอุยกูร์ได้รับการดูแลเป็นอย่างดี จะเป็นการสร้างความน่าเชื่อถือไม่ใช่แค่เพียงกับประเทศจีนอย่างเดียว แต่เป็นความเชื่อน่าเชื่อถือของไทยที่จะไปบอกกับนานาชาติได้ และเป็นโอกาสที่แสดงให้ประชาคมโลกได้เห็นถึงความห่วงใยของไทยเช่นกัน
ประเทศจีนคำนึงถึงความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ และสวัสดิการภาพชาวอุยกูร์ และความรู้สึกจากสายตาของประชาคมระหว่างประเทศ และเชื่อว่าทำไมเรื่องสิทธิมนุษยชนจึงเป็นสิ่งที่กินได้ เพราะจีนเกรงว่าถ้าถูกตำหนิติเตียนวิพากษ์วิจารณ์แล้วนั้น สินค้าจะได้รับการคว่ำบาตร ซึ่งจีนต้องการระบายสินค้าไปทั่วโลก
ซึ่งถ้าชื่อเสียงดีขึ้นเท่าไหร่ ก็จะได้รับประโยชน์เท่านั้น
นายพิศาล ยังกล่าวว่าถ้อยแถลงรัฐสภายุโรป ที่ระบุ มาตรา 112 ว่าเป็นเรื่องที่คาดหมายได้ เนื่องจากมีประเทศที่จับตามองประเทศไทยเรื่องสิทธิเสรีภาพ ซึ่งถ้าไม่มีประเด็นการส่งกลับอุยกูร์ ก็คงไม่มีจังหวะรับรองข้อมติ
อ่านข่าว :
"กัณวีร์" ยกปมส่งอุยกูร์ สะท้อนไทยตกเหวกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศ