ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

เบื้องหลังดรามา" ทราย สก๊อต" ที่ปรึกษาบิ๊กอุทยานฯ ทำเกินหน้าที่

สิ่งแวดล้อม
19 เม.ย. 68
12:47
23,309
Logo Thai PBS
เบื้องหลังดรามา" ทราย สก๊อต" ที่ปรึกษาบิ๊กอุทยานฯ ทำเกินหน้าที่

กลายเป็นประเด็นดรามาในโลกออนไลน์ หลังกรณี "ทราย สก๊อต” หรือ สิรณัฐ สก๊อต เจ้าของฉายามนุษย์เงือก หลังปรากฏคลิปตักเตือนนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติที่แสดงพฤติกรรมเหยียดเชื้อชาติบนเรือท่องเที่ยวบริเวณทะเลภาคใต้ 

วันนี้ (19 เม.ย.2568) นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า หลังจากมีข่าวเกิดขึ้น 2-3 วันเรื่องการปลดทราย สก๊อตออกจากตำแหน่งที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยาน ยืนยันว่าไม่ได้มีคำสั่งปลดทราย สก๊อต เพราะตำแหน่งนี้จะต่อเป็นรายปีถ้าสิ้นปีงบหากไม่มีคำสั่งแต่งตั้งต่อก็ถือว่าสิ้นสุด แต่หากเขาจะขอยุติบทบาทก่อนสิ้นปีก็ต้องทำหนังสือมาเป็นทางการ

อธิบดีกรมอุทยานฯ ระบุว่า ก่อนหน้ามีการส่งข้อความผ่านไลน์ของทราย สก๊อตไปแล้วแต่ไม่มีการตอบรับ จนมีการไปออกผ่านสื่อ ยอมรับว่าสร้างผลกระทบต่อกรมอุทยานฯ และบางประเด็นทำให้สังคมเข้าใจผิด จึงจำเป็นต้องออกมาชี้แจงในอีกมุม และยืนยันว่าไม่อยากให้เรื่องนี้บานปลาย เพราะจะยิ่งทำให้ภาพของหน่วยงานเสียหายมาก

ขอชื่นชมทราย สก๊อตในตำแหน่งที่ปรึกษาฯ ซึ่งจริงๆต้องทำหน้าที่แค่ให้คำปรึกษา ไม่ใช่ทำแบบพนักงานพิทักษ์ป่า รับทราบปัญหาการตำหนิตักเตือน และผ่อนปรนมาหลายครั้ง
นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

นายอรรถพล เจริญชันษา อธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช

อธิบดีกรมอุทยานฯ กล่าวว่า ที่ผ่านมาได้รับทราบปัญหาจากหัวหน้าอุทยานทางทะเล การที่ทราย สก๊อตลงไปทำภารกิจและทำคอนเท็นต์หลายอย่างจนเจ้าหน้าที่อึดอัด ซึ่งเคยบอกว่าให้ดูเรื่องเข้าพื้นที่ และทำคอนเทนต์ต้องขออนุญาต

อยากให้ทรายใช้สติใจเย็น ๆ กลับมาทำงานในจุดที่ทำงานร่วมกัน การตำหนิเพื่อให้เดินหน้าทำงาน ทุกครั้งที่ทำดีก็ให้กำลังใจ

ส่วนกรณีมีหนังสือร้องเรียนพฤติกรรมของทราย สก๊อต จากในพื้นที่ ขณะนี้ได้สั่งให้ตรวจสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดแล้ว และยังยืนยันว่ากรมอุทยานฯไม่ได้สั่งปลด ทราย สก๊อต และพร้อมที่จะเข้ามาพูดคุยกันมากกว่าการไปออกสื่อ 

อ่านข่าว ดรามา "ทราย สก๊อต" บิ๊กอุทยานฯ ยันยังไม่ปลดพ้นที่ปรึกษา

กางหนังสือร้องเรียนพฤติกรรม "ทราย สก็อต"

แหล่งข่าวจากภูเก็ต ระบุว่า ทราย สก๊อต มีเจตจำนงในการอนุรักษ์เป็นเรื่องที่ดีและทำสิ่งที่ดีมามาก แต่บางครั้งการแสดงออกรุนแรงเกินไป คิดว่าเจ้าหน้าที่ในพื้นที่ก็มีความกังวลเกี่ยวกับตำแหน่งที่ปรึกษาอธิบดีฯ บางครั้งไม่กล้าห้ามปราม ขณะที่ชาวบ้าน ผู้ประกอบการกังวลกับสถานะทางสังคมของ ทราย สก๊อตที่เป็นทายาทตระกูลดัง

การอนุรักษ์ต้องอยู่บนพื้นฐานของความร่วมมือ ไม่ใช่ความขัดแย้ง ไม่เช่นนั้นจะนำไปสู่การทำลาย และทราย ไม่ใช่พนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย

นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่กรมอุทยานแห่งชาติ ที่เคยทำงานร่วมกับนายทราย สก็อต ได้ทำรายงานถึงนายอรรถพล ถึงพฤติกรรมของทราย สก็อตว่า 1.มักอ้างตัวว่าเป็นที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยานฯ และใช้อำนาจดังกล่าว สั่งการเจ้าหน้าที่ให้เข้าร่วมสนับสนุนภารกิจ ตลอดจนขอใช้ยานพาหนะของอุทยานแห่งชาติโดยไม่ขออนุญาตและไม่แจ้งล่วงหน้า ซึ่งส่วนมาก รถ เรือจะติดภารกิจประจำของอุทยานฯ ทำให้ประสิทธิภาพในการทำงานลดลง

2.ใช้ทีมงานที่เป็นชาวต่างชาติ เข้ามาร่วมกิจกรรมโดยไม่ขออนุญาต การบินโดรนหรือการถ่ายคลิปวิดีโอต่างๆ ก็ไม่ได้ขออนุญาต และทุกครั้งที่เข้ามาภายในอุทยานฯ มักจะมีตากล้อง ประมาณ 2-3 คน และผู้ดูแล (Body guard) 1 คน ร่วมภารกิจด้วยทุกครั้ง โดยการลงคลิปเท่าที่ทราบนายทราย มักจะลงในช่องทางของตนเอง ไม่เคยพบเห็นลงให้ในช่องทางของกรมอุทยานฯ

ทราย สก๊อต กับนักท่องเที่ยว

ทราย สก๊อต กับนักท่องเที่ยว

ทราย สก๊อต กับนักท่องเที่ยว

3.มีการตักเตือนนักท่องเที่ยว ไกด์ คนเรือ หรือผู้ประกอบการ บ่อยครั้งมีการใช้คำพูดที่ดูถูกเหยียดหยาม หรือด้อยค่าบุคคล พาดพิงถึงการศึกษาของคู่กรณีว่าคุณวุฒิต่ำกว่าตัวเอง อวดอ้างว่าตัวเองเป็นนักอนุรักษ์และรักธรรมชาติมากกว่าคนอื่นๆ ซึ่งผู้ประกอบการในพื้นที่มีความไม่พอใจอย่างยิ่ง ทำให้เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงานประจำพื้นที่ มีความลำบากในการทำงานมาก เพราะผู้ประกอบการเข้าใจว่านายทรายเป็นเจ้าหน้าที่อุทยานฯ จึงตำหนิและกล่าวว่าเจ้าหน้าที่แบบเหมารวม

4.ไม่ทราบว่ามีคุณวุฒิหรือความเชี่ยวชาญหรือผลงานที่เด่นชัดด้านงานทางทะเลใด ที่มีความเหมาะสมต่อการเป็นที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเล เพราะที่ทราบโดยทั่วกันคือ เป็นบุคคลที่ชื่นชอบการว่ายน้ำ

5.ทราย มักจะลงคอนเทนต์ในช่องทางของตนเอง กรณีการปฏิบัติงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ ซึ่งโน้มน้าวให้บุคคลมองเห็น ถึงภาพลักษณ์ที่ดีด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเลของตนเอง แต่ในข้อเท็จจริงมักจะไม่ได้ร่วมกิจกรรมดังกล่าวตั้งแต่ต้น หรือปฏิบัติงานจนแล้วเสร็จ

6.ทราย มักจะมีกิจกรรมด้านการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมทางทะเล ที่เหมือนจะมีวัตถุประสงค์ที่สนองความต้องการตนเองแอบแฝงอยู่ เช่น กิจกรรมว่ายน้ำสำรวจขยะ บริเวณเกาะต่างๆ กิจกรรมดำน้ำลึกสำรวจความหลากหลายของปะการัง ในสถานที่และช่วงเวลาที่สัตว์ทะเลหายากเข้ามาบริเวณดังกล่าว 

เมื่อมีกิจกรรมข้างต้น เจ้าหน้าที่ต้องเตรียมยานพาหนะ น้ำมันเชื้อเพลิง ตลอดจนอาหารสำหรับของทีมงานทราย โดยตัว ทราย มีข้อจำกัดในการรับประทานอาหารและน้ำดื่ม กล่าวคือทราย ไม่กินอาหารทะเล และอาหารที่มีส่วนผสมของวัตถุดิบจากทะเล ด้วยเหตุผลที่ว่าไม่ต้องการทำร้ายทะเล น้ำดื่มต้องเป็นน้ำแร่เท่านั้น

ชื่นชมแต่ตั้งคำถามปมเหยียดชาวบ้าน

นายสุทา ประทีป ณ ถลาง อดีต สส.ภูเก็ต พรรคพลังประชารัฐ กล่าวว่า การปฏิบัติหน้าที่ของทราย สก๊อต ชาวบ้านอึดอัดเรื่องของการใช้อำนาจ และเข้าใจว่าเจ้าหน้าที่อุทยาน อึดอัดด้วย เพราะว่าเกรงจะกระทบต่อการปฏิบัติหน้าที่เลยต้องโอนอ่อนตาม

ซึ่งหลักการตำแหน่งที่ปรึกษาอธิบดีกรมอุทยานฯ การเข้าไปในพื้นที่อุทยาน ต้องรายงาน และได้รับอนุญาตจากหัวหน้าอุทยานฯ ในการดำเนินการต่างๆ แต่ดูเหมือนว่าไม่น่าจะผ่านกระบวนการนี้

เรื่องความตั้งใจของทราย สก๊อต การอนุรักษ์ทุกคนชื่นชม แต่การสร้างคอนเทนต์ให้ร้ายคนอื่น อาจทำให้เสียหายทางธุรกิจ และหากพบการทำผิดต่อทรัพยากรให้ดำเนินคดี 

นายสุทา กล่าวอีกว่า สิ่งที่ไม่ควรทำในลักษณะการใช้อำนาจที่ทำให้เกิดความไม่พึงพอใจ เช่น การเหยียด กระโชกโฮกฮาก ซึ่งทราย สก๊อต ไม่มีอำนาจในการจับกุม ต้องเอาเจ้าหน้าที่ไปร่วมในการดำเนินการ นอกจากนี้กรณีที่ให้สัมภาษณ์ว่าต่างชาติมาเหยียดคนไทยนั้น เวลาที่เขาไปเหยียดชาวบ้านที่ไม่จบ ป.4 เขาก็เหยียดด้วยหรือไม่ มองว่าพฤติกรรมนี้ต้องปรับปรุง 

ขณะที่เรื่องที่พบความบกพร่องของเจ้าหน้าที่รัฐ ที่บางคนก็ทุจริตมันก็มี และงานอนุรักษ์ที่ทราย สก๊อตทำไว้เป็นเรื่องดีมีเยอะ แต่มีเรื่องเดียวคือการปฏิบัติระหว่างตัวบุคคล

ผู้สื่อข่าวถามว่ายังต้องการให้ ทราย สก๊อต ปฏิบัติหน้าที่เกี่ยวข้องกับอุทยานฯ หรือไม่ นายสุทา กล่าวว่า คิดว่าเป็นการตัดสินใจของตัวเขาเอง ถ้าหากเขาปรับตัว ไม่ไปเหยียด คิดว่าทุกคนก็ยินดี เพราะผู้ประกอบการ ไม่ได้ถึงกับว่าเกลียดชัง แต่ตอนนี้มันมีผลกระทบกับเขา จึงเกิดการต่อต้าน

อ่านข่าวอื่นๆ

"ลิซ่า" เขย่า Coachella ทุบสถิติศิลปินที่มีคนกล่าวถึง 6.1 ล้านครั้ง

 

 

ข่าวที่เกี่ยวข้อง