ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ

Red War ! หงส์ VS ผี เส้นทางคู่ขนานระหว่าง “Top 4 กับ แชมป์ลีก”


กีฬา

3 มี.ค. 66

จิราภพ ทวีสูงส่ง

Logo Thai PBS
แชร์

Red War ! หงส์ VS ผี เส้นทางคู่ขนานระหว่าง “Top 4 กับ แชมป์ลีก”

https://www.thaipbs.or.th/now/content/75

Red War ! หงส์ VS ผี เส้นทางคู่ขนานระหว่าง “Top 4 กับ แชมป์ลีก”
บริการเสริมจาก Thai PBS AI

     Red War รอปะทะเดือด! คืนวันอาทิตย์ คิกออฟ 23.30 น. ตามเวลาประเทศไทย ทั้ง 2 ทีมต่างคว้าชัยเรียกขวัญกำลังใจได้ทั้งคู่ โดย “หงส์แดง” เปิดรังแอนฟิลด์ชนะ วูล์ฟแฮมป์ตัน วันเดอเรอร์ส 2-0 พูนสวัสดิ์ เก็บ 10 แต้ม จาก 4 เกมลีกหลังสุด (ชนะ 3 เสมอ 1) ไม่เสียประตูเลยแม้แต่ลูกเดียว ขยับรั้งอันดับ 6 


     ขณะที่ “ปีศาจแดง” เปิดโอลด์แทรฟฟอร์ดชนะ เวสต์แฮมฯ 3-1 ในศึกเอฟเอ คัพ ส่งผลให้ไม่แพ้ใครเป็นนัดที่ 11 ติดต่อกันทุกรายการ นอกจากนี้ยืดสถิติไม่แพ้ที่โอลด์ แทรฟฟอร์ด เป็นเกมที่ 19 ติดต่อกันด้วย 

ฟอร์มซีซั่นนี้ทั้ง 2 ทีม สวนทางกับฤดูกาลที่แล้ว
     ปัจจุบันเป็นที่รู้กันว่า “หงส์แดง” กับ "ปีศาจแดง" มีสถานการณ์ที่ต่างกันแบบเป็นทางคู่ขนานสวนทางกัน โดยทีมของเอริก เทน ฮาก ยังอยู่ในเส้นทางลุ้นแชมป์ลีก และมีโอกาสสร้างประวัติศาสตร์ซิว 4 แชมป์ในฤดูกาลนี้ ขณะที่ลูกทีมของเยอร์เกน คลอปป์ ต้องเร่งปั่นผลงานเป็นสามแต้มอย่างต่อเนื่องเพื่อติดท็อปโฟร์ ซึ่งขณะนี้ตาม สเปอร์ส ทีมอันดับ 3 อยู่ 6 คะแนน แต่แข่งน้อยกว่า 1 นัด ซึ่ง ไก่เดือยทอง, สาลิกาดง, หงส์แดง, เจ้าสัวน้อย, นกนางนวล ใครจะสมหวังรั้งบิ๊ก 4 โปรดติดตามอย่างใกล้ชิด

     ก่อนแมตช์แดงเดือดเลือดพล่านจะเริ่มขึ้น “คลอปป์” ได้เล่นจิตวิทยา โยนความกดดันไปให้กับ “ผีแดง” ว่า แมนฯ ยูไนเต็ด กำลังมีช่วงเวลาที่ยอดเยี่ยม และได้เปรียบในเรื่องผู้เล่นที่สดมากกว่า เนื่องจากทีมมีการโรเตชันในเกมกลางสัปดาห์ แต่การที่ลิเวอร์พูลได้เล่นในบ้าน (This is Anfield) แน่นอนว่าจะเป็นอะไรที่สนุกสุด ๆ และไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับแมนฯ ยูไนเต็ดแน่นอน


     ขณะที่ “แกรี เนวิลล์” อดีตแบ็กขวาผีแดง ซึ่งปัจจุบันเป็นคอมเมนเตเตอร์ชื่อดังก็ได้ออกปากเตือนทีมรักด้วยว่า การเยือนแอนฟิลด์เป็นเกมที่ยากเสมอ เหล่ากองเชียร์เดอะค็อปจะเล่นงานคุณอย่างหนัก บรรยากาศในสนามสามารถสร้างความยากลำบากให้กับเกมได้ ดังนั้นนักเตะแมนฯ ยูไนเต็ด จะต้องเล่นในเกมวันอาทิตย์นี้อย่างดีที่สุดเพื่อชนะ ลิเวอร์พูล ไม่อย่างนั้นคงคว้าสามแต้มออกมาลำบาก

 
     ทางด้าน “ผีแดง” แม้จะตามจ่าฝูง “อาร์เซนอล” ถึง 11 แต้ม แต่แข่งน้อยกว่า 1 นัด เส้นทางอีก 14 เกม ยังมีอะไรเกิดขึ้นได้เสมอ โดยตอนนี้ “ปีศาจแดง” ลงสนามไปแล้ว 41 เกมในทุกรายการฤดูกาล 2022-2023 และมีโอกาสเป็นไปได้ที่จะลงสนามสูงถึง 65 แมตช์ หากนักเตะเรดเดวิลส์สามารถทะลุคว้า 4 แชมป์ ด้วยเหตุนี้ “เอริก เทน ฮาก” จึงได้แนะนำลูกทีมว่า ต้องพยายามรับมือกับโปรแกรมจำนวนมากให้ได้ โดยเก็บชัยชนะไปเรื่อย ๆ ทีละนัด สิ่งสำคัญคือสภาพจิตใจและสภาพร่างกาย ซึ่งโค้ชผีแดงคิดว่าลูกทีมสามารถยืนระยะได้ไปจนจบซีซั่น..แฟนผียิ้มกรุ้มกริ่ม

สถิติการพบกัน 5 เกมหลังสุด
     23/08/22 แมนฯ ยูไนเต็ด 2-1 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
     12/07/22 แมนฯ ยูไนเต็ด 4-0 ลิเวอร์พูล (อุ่นเครื่องที่ไทย)
     20/04/22 ลิเวอร์พูล 4-0 แมนฯ ยูไนเต็ด (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
     24/10/21 แมนฯ ยูไนเต็ด 0-5 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
     14/05/21 แมนฯ ยูไนเต็ด 2-4 ลิเวอร์พูล (พรีเมียร์ลีก อังกฤษ)
     โดยคู่นี้เจอกันในพรีเมียร์ลีกมาแล้ว 61 นัด ปรากฏว่า “ผีแดง” ชนะ 29 เสมอ 14 ส่วน “หงส์แดง” ชนะ 18 ครั้ง

คาดการณ์ผู้เล่นที่จะลงสนา
     “ลิเวอร์พูล” เกมนี้ไม่มี หลุยส์ ดิอาซ, นาบี เกอิตา, ติอาโก้ อัลกันทารา และโจ โกเมซ ที่ยังไม่หายจากอาการบาดเจ็บ นอกนั้นฟูลทีม นำมาโดย 3 ประสานแนวรุก โมฮาเหม็ด ซาลาห์, ดาร์วิน นูนเญซ และโคดี กัคโป 


     ส่วน “ผีแดง” จะไม่มี คริสเตียน เอริคเซน, ดอนนี ฟาน เดอ เบค และอองโตนี มาร์กซิยาล ที่ยังบาดเจ็บ ส่วนตำแหน่งอื่นพร้อมรบ แผงหลังนำโดย ราฟาเอล วาราน ดูโอ ลิซานโดร มาร์ติเนซ แดนกลาง คาเซมิโร กับ เฟร็ด บราซิเลียนคอนเนกชันจับคู่ต่อเนื่อง ส่วนแนวรุกวาง บรูโน แฟร์นันด์ส, เวาท์ เวกฮอร์สต์, อันโตนี และมาร์คัส แรซฟอร์ด (Rach Machine) เป็นตัวความหวังสูงสุด


     สำหรับผลการแข่งขันของคู่นี้ “ริวัลโด” อดีตดาวเตะทีมชาติบราซิล, บาร์เซโลนา และเอซี มิลาน ได้ให้ความเห็นผ่านสื่อต่างประเทศว่า ทั้งสองทีมจะสู้กันได้อย่างสนุกสูสี ก่อนเป็น “ผีแดง” บุกชนะถึงแอนฟิลด์ 2-1 


     ขณะที่ “ไมเคิล โอเวน” อดีตจอมถล่มประตูของลิเวอร์พูล เชื่อว่า "หงส์แดง" มีโอกาสจบฤดูกาล 2022-2023 ด้วยการติดท็อปโฟร์ได้ หากทำผลงานช่วงโปรแกรมหนัก 5 เกมข้างหน้าได้ดี ซึ่งก็คือ
     - แมนฯ ยูไนเต็ด (เหย้า)
     - บอร์นมัธ (เยือน) 
     - แมนเชสเตอร์ ซิตี้ (เยือน)
     - เชลซี (เยือน)
     - อาร์เซนอล (เหย้า)
     โดย “เบบี้โกล” มองว่าหากผ่าน 5 นัดนี้ไปได้ มีโอกาสสูงมากที่ “หงส์แดง” จะติด 4 อันดับแรกของตาราง

     หากผลการแข่งขันคืนวันอาทิตย์นี้ “ลิเวอร์พูล” เอาชนะได้ จะกลับมามีลุ้นท็อปโฟร์แบบเต็มตัว แต่หากแพ้คาบ้านเรื่องที่กองเชียร์ป่าวร้องให้ซื้อผู้เล่นใหม่ ๆ เข้ามาเสริมทีมช่วงซัมเมอร์นี้คงจะดังกึกก้องอื้ออึง “เยอร์เกน คลอปป์” คงต้องกลั้นใจทำการผ่าตัดทีมครั้งใหญ่ แต่หากโค้ชชาวเยอรมันไม่ถนัดเชี่ยวชาญในเรื่องหมอ ๆ แนะนำให้ลองมาดู The Interns หมอมือใหม่ ของทาง #ThaiPBS https://www.thaipbs.or.th/program/TheInterns รับรองได้ความรู้เพิ่มเติมพร้อมสนุกกับทุก EP แน่นอน อิอิ 


     เส้นทางระหว่าง “Top 4 Go UEFA Champions League ของลิเวอร์พูล” กับ “Road to 4 Fantastic Champions ของแมนฯ ยูไนเต็ด” ใครจะสมหวังไปก่อนในยกนี้..คืนวันอาทิตย์ได้คำตอบ

แท็กที่เกี่ยวข้อง

พรีเมียร์ลีก อังกฤษแมนฯ ยูไนเต็ดฟุตบอลลิเวอร์พูลพรีเมียร์ลีก
จิราภพ ทวีสูงส่ง
ผู้เขียน: จิราภพ ทวีสูงส่ง

(เซบา บาสตี้ : 0854129703) : เจ้าหน้าที่เนื้อหาดิจิทัล สำนักสื่อดิจิทัล ไทยพีบีเอส / Specialist Contents / Journalist / Writer / Creative Copywriter / Proofreader Lover

บทความ NOW แนะนำ

ข่าวล่าสุด