ไม่ต้องเป็นซูเปอร์ฮีโร่ก็อ่านใจคนได้ อุปกรณ์สวมใส่แบบใหม่ ใช้เทคโนโลยี AI ช่วยอ่านใจ ฟัง และสรุปข้อมูลจากบทสนทนาได้อย่างรวดเร็ว
เทคโนโลยี Wearable AI หรือ อุปกรณ์ AI แบบสวมใส่ กำลังเปลี่ยนโฉมการทำงานและการใช้ชีวิต ด้วยความสามารถในการอ่านความคิดและสรุปข้อมูลได้อย่างรวดเร็ว ทำให้ผู้ใช้งานสามารถจัดการงานและชีวิตประจำวันได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการวางแผนงาน จัดการเวลา หรือตัดสินใจอย่างแม่นยำ เทคโนโลยีนี้ช่วยลดเวลาและเพิ่มความรวดเร็วในการทำงาน พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตให้ดีขึ้น เหมาะสำหรับคนทำงาน นักศึกษา และผู้ที่ต้องการความสะดวกสบายในยุคดิจิทัล
บริษัทเทคโนโลยีจากซานฟรานซิสโก ประเทศสหรัฐอเมริกาได้ประกาศเปิดตัวอุปกรณ์ AI แบบสวมใส่ที่เชื่อมต่อกับสมาร์ตโฟนก่อนเริ่มทำงาน สามารถอ่านใจผู้ใช้ได้ทันทีโดยที่ไม่ต้องพูดออกมา และอุปกรณ์จะตอบกลับผ่านแอปพลิเคชันเฉพาะ เปรียบเสมือนเป็นผู้ช่วยส่วนตัว โดยผู้ใช้สามารถติดอุปกรณ์ทรงกลมขนาดเล็กนี้ไว้ที่ขมับซ้ายด้วยเทปทางการแพทย์ หรือห้อยเป็นสร้อยคอก็ได้ อุปกรณ์นี้จะได้ยินเสียงคนรอบข้าง และบันทึกบทสนทนาที่ได้ยินไว้ในสมาร์ตโฟนหรือบนคลาวด์
อ่านใจคนได้ด้วยโมดูลอินเทอร์เฟซซึ่งทำหน้าที่เชื่อมสมองมนุษย์กับคอมพิวเตอร์ โดยอุปกรณ์จะอ่านคลื่นสมองเพื่อทำความเข้าใจว่าผู้ใช้กำลังคุยกับอุปกรณ์หรือคุยกับบุคคลอื่น และตอบคำถามด้วยข้อมูลที่สร้างโดยระบบ AI ที่รวบรวมจากแหล่งข่าวหรือฐานข้อมูลที่มีความน่าเชื่อถือผ่านแอปพลิเคชันบนสมาร์ตโฟน
อุปกรณ์ AI แบบสวมใส่ จะช่วยให้ชีวิตผู้ใช้ง่ายขึ้นโดยการช่วยฟังตลอดเวลา แบตเตอรี่ใช้งานได้ยาวนาน 3 วัน ต่อการชาร์จ 1 ครั้ง สามารถช่วยสรุปการประชุมหรือการสนทนาและสร้างรายการสิ่งที่ต้องทำให้กับผู้ใช้ได้ หรือหากระหว่างการประชุมผู้ใช้เกิดคำถามในใจ AI จะช่วยหาคำตอบให้ได้แบบเรียลไทม์เพื่อให้บทสนทนาดำเนินไปข้างหน้าได้อย่างไม่ติดขัด
เทคโนโลยี Wearable AI หรือ อุปกรณ์ AI แบบสวมใส่ ได้รับการจัดแสดงที่งาน CES 2025 โดยเป็นเครื่องมือที่ผู้ใช้งานสามารถนำไปใช้ในชีวิตประจำวันเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำกิจกรรมต่าง ๆ รวมถึงช่วยขับเคลื่อนอุตสาหกรรมเทคโนโลยีสวมใส่ไปอีกขั้นในการพัฒนาอุปกรณ์ AI ที่เปลี่ยนงานธรรมดา ๆ ให้กลายเป็นทางออกอัจฉริยะสำหรับผู้ใช้งาน พร้อมผลักดันให้เกิดการพัฒนาแอปพลิเคชันมือถือและซอฟต์แวร์Open Source ที่เติบโตขึ้นเพื่อให้รองรับกับอุปกรณ์
เรียบเรียงโดย ขนิษฐา จันทร์ทร
ที่มาข้อมูล: designboom, trendhunter, techcrunch, theverge
ที่มาภาพ: omi
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech