การกลับมาของ “กองร้อยปอยเปต ซีซัน 2"
พ.ต.อ. เนติ วงษ์กุหลาบ รองผู้บังคับการ กองบังคับการปราบปรามอาชญากรรมทางเทคโนโลยี กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง ออกมาเตือนภัยให้กับประชาชนถึงการกลับมาของ "กองร้อยปอยเปต" ซีซัน 2 ที่พบว่ามีการกลับมาหลอกลวงเหยื่อเพิ่มขึ้นอีกครั้งหนึ่ง
พ.ต.อ. เนติ ระบุว่า ตั้งแต่มีการเปิดเผยใบหน้าของกองร้อยปอยเปต ซีซัน 1 ออกไป ก็มีความคืบหน้าในการติดตามจับกุม จนนำมาสู่การได้ตัวนายร้อยปอยเปตรายแรก ซึ่งการที่มีการเผยแพร่ข่าวออกไป ทำให้พบว่ามีการบอกกันในกลุ่มของมิจฉาชีพ จนทำให้เกิดกองร้อยปอยเปต ซีซัน 2 เกิดขึ้น ซึ่งในส่วนของซีซัน 2 นั้นพบว่า มีการเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้น เนื่องจากการเตือนของเจ้าหน้าที่ในซีซันแรก ที่ได้มีการระบุถึงฉากหลังที่คนร้ายใช้ ที่พบว่ามีสีแดง แต่ในซีซัน 2 กลับพบว่ามีการเปลี่ยนฉากหลังทันที
ตัวละครใหม่ “ผู้กองสาว” แห่งกองร้อยปอยเปต
นอกจากนี้ยังพบมีการนำผู้กองสาวมาใช้เป็นตัวแสดงใหม่เป็นครั้งแรก รวมถึงพบการเปลี่ยนแปลงในส่วนของเครื่องหมายยศ ที่ในซีซันแรกได้มีการระบุถึงข้อสังเกตของชุดคนร้าย ที่มีการติดเครื่องหมายผิด แต่ในซีซัน 2 กลับพบว่า มีการปรับปรุงการติดเครื่องหมายจนถูกต้อง ซึ่งเชื่อว่าข้อมูลที่ได้มีการเตือนภัยออกไปนั้น ก็ไปถึงกลุ่มของมิจฉาชีพด้วยเช่นเดียวกัน และทำให้มีการปรับเปลี่ยนเกิดขึ้น
ทั้งนี้จากการสอบสวนในส่วนของผู้กองปอยเปต ระบุว่าห้องที่มีการใช้สำหรับการหลอกลวงนั้น มีการปรับเป็นสตูดิโอ ที่มีทั้งเสื้อผ้าที่จัดเตรียมไว้ รวมถึงมีสไตล์ลิสต์คอยดูแลเสื้อผ้าให้กับเหล่ามิจฉาชีพอีกด้วย
อย่างไรก็ตามหากถามว่า กลุ่มของกองร้อยปอยเปต มีจำนวนที่เพิ่มขึ้นหรือไม่ ก็พบว่ามีการนำนักแสดงใหม่เข้ามา แต่เชื่อว่ายังคงเป็นกลุ่มเดิม ๆ เพราะจากการพูดคุยคนร้ายระบุว่า เฉพาะชั้นที่ทำงานอยู่นั้น มีคนทำงานอยู่จำนวน 10 กว่าคน และมีหลายสัญชาติ
จากการสอบถามยังพบอีกว่า หลังจากที่มีการกระจายข่าวของกองร้อยปอยเปตซีซัน 1 ออกไป ก็ทำให้มีบางส่วนแจ้งข้อมูลเข้ามายังเจ้าหน้าที่ รวมถึงตัวของผู้ที่แสดงเป็นตำรวจ ก็เกิดความกังวล ว่าจะถูกคนรู้จักหรือคนในครอบครัวแจ้งกับเจ้าหน้าที่ด้วยเช่นเดียวกัน จนทำให้กลุ่มคนเหล่านี้หายไปสักพักหนึ่ง แต่หลังจากเรื่องราวเริ่มเงียบไป ทำให้เริ่มมีการแจ้งเบาะแสกลุ่มของผู้กองหน้าใหม่เข้ามา ตำรวจสอบสวนกลาง จึงได้รวบรวมมาเป็นกองร้อยปอยเปต ซีซัน 2 เพื่อแจ้งประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนเฝ้าระวังกลุ่มบุคคลเหล่านี้
สิ่งที่พึงจดจำและต้องระวัง
ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอเตือนภัยประชาชน ขอให้พึงระลึกไว้เสมอว่าเจ้าหน้าที่ตำรวจจริง จะไม่ทำ 4 สิ่ง ดังนี้
1. จะไม่มีการติดต่อทางไลน์ หรือวิดีโอคอล เพื่อสอบปากคำ หรือแจ้งข้อกล่าวหาผ่านไลน์
2. ไม่มีการให้ผู้เสียหายโอนเงิน หรือทรัพย์สิน มาตรวจสอบเพื่อยืนยันความบริสุทธิ์
3. ไม่มีการส่งเอกสารราชการทางไลน์ เช่น หมายเรียก หรือ หมายจับ
4. แม้ว่าผู้ที่อยู่ในสายจะอ้างข้อมูลส่วนตัวใด ๆ ก็ตาม ให้พึงระลึกไว้เสมอว่า ข้อมูลส่วนตัวของท่าน อาจหลุดไปสู่มือของมิจฉาชีพเป็นที่เรียบร้อยแล้ว และอย่าหลงเชื่อ ให้วางสายทันที
ทั้งนี้ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) ขอประชาสัมพันธ์ว่า ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) มีการจัดทำบัญชีเพจเฟซบุ๊กเพียง 1 บัญชี ที่ใช้ชื่อ “ตำรวจสอบสวนกลาง“ และมีสัญลักษณ์บลูติ๊ก (Blue tick) และมีไลน์ขึ้นมาเพียง 1 บัญชีชื่อ “tcsdcenter” โดยจะสามารถเพิ่มเพื่อนผ่านไอดีไลน์ชื่อ “tcsdcenter.staff” เท่านั้น
สำหรับบัญชีไลน์ดังกล่าวมีจุดประสงค์สำหรับติดต่อกับประชาชนในกรณี“ขอข้อมูลเพิ่มเติมจากผู้เสียหายเกี่ยวกับข้อมูลลิงก์บัญชีปลอม หรือ url” จากคดีซึ่งเคยมีการแจ้งความไว้แล้ว เพื่อทำการปิดกั้นลิงก์ออกจากระบบ ทำให้มิจฉาชีพไม่สามารถใช้บัญชีหรือ ลิงก์ url ในการหลอกลวงผู้เสียหายคนอื่นได้อีก ซึ่งหากมีข้อสงสัยเพิ่มเติมเจ้าหน้าที่จะทำการติดต่อกลับโดยใช้หมายเลข 025139197 และ 0658270902 เท่านั้น
หากประชาชนพบเจอการหลอกลวงรูปแบบต่าง ๆ ในลักษณะข้างต้น ที่มีการแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจ ให้บันทึกภาพหน้าจอ หรือ อัดวิดีโอ ขณะสนทนา พร้อมกับส่งแจ้งเป็นเบาะแสได้ทางเฟซบุ๊ก ตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) เพื่อนำไปสู่การสืบสวน และจับกุมกลุ่มขบวนการนี้ หรือทางเพจเฟซบุ๊ก Thai PBS Verify เพื่อจะได้นำภาพของคนร้ายเหล่านี้มาแจ้งเตือนเพื่อป้องกันการตกเป็นเหยื่อของเหล่ามิจฉาชีพเหล่านี้ต่อไป
