NIRVANA นับได้ว่าเป็นศิลปินในยุค 90 ที่มีแนวดนตรีสไตล์กรันจ์สุดเท่ และยังเป็นหนึ่งในวงดนตรีที่ทรงอิทธิพลมากเป็นอันดับต้น ๆ ของโลก ซึ่งน่าเสียดายที่วงนี้มีอายุวงเพียงแค่ 7 ปี และมีผลงานออกมาทั้งหมด 3 สตูดิโออัลบั้ม ก่อนที่ Kurt Cobain นักร้องนำของวงจะจากโลกนี้ไปอย่างไม่มีวันกลับ

โดยใน รายการนักผจญเพลง Replay ตอน “NIRVANA กรันจ์เปลี่ยนโลก” ได้แชร์เรื่องราวเกี่ยวกับสิ่งที่ NIRVANA ฝากไว้ให้กับวงการเพลง มีแขกรับเชิญอย่าง ใหม่-พิชชานันท์ ชัยศิริ เจ้าของกลุ่ม และแฟนเพจ Nirvana Thailand รวมไปถึง DJ ซี๊ด-นรเศรษฐ หมัดคง ดีเจรุ่นใหญ่แห่งยุค 90 โดยแขกรับเชิญทั้ง 2 ท่านได้มาร่วมแชร์มุมมองในเรื่องที่น่าสนใจ ว่าทำไมวงดนตรีวงนี้ ถึงได้ครองใจวัยรุ่นในยุคนั้น รวมไปถึงผลงานของพวกเขายังเป็นที่น่าจดจำไปตลอดกาล

จุดเริ่มต้นวงกรันจ์เปลี่ยนโลก

NIRVANA เป็นวงดนตรีแนวกรันจ์และอัลเทอร์เนทีฟร็อก ที่มาจากสัญชาติอมเริกัน เริ่มต้นเส้นทางจากการที่ Kurt Cobain ฟรอนต์แมนผู้เป็นทั้งนักร้องนำ รวมไปถึงมือกีตาร์ของวง ได้รวมตัวกับมือเบสอย่าง Krist Novoselic ในปี ค.ศ. 1987

และต่อมาในปี ค.ศ. 1990 ก็ได้มีสมาชิกใหม่เข้ามาเพิ่มนั่นคือ Dave Grohl ซึ่งเข้ามารับหน้าที่เป็นมือกลองของวง ซึ่งพวกเขามีผลงานอัลบั้มแรกชุด Bleach ที่ทำกับค่าย Sub Pop ออกมาให้แฟนเพลงฟัง ก่อนที่ต่อมาจะผลิตผลงานในอัลบั้มชุดที่ 2 ที่ชื่อ Nevermind ซึ่งผลงานในอัลบั้มชุดนี้ยังเป็นหนึ่งในอัลบั้มขึ้นหิ้ง ที่ปลุกกระแสเพลงกรันจ์และอัลเทอร์เนทีฟให้สั่นสะเทือน ที่สำคัญอัลบั้มชุดนี้ยังเป็นผลงานสร้างชื่อที่เปลี่ยนชีวิตของพวกเขาไปตลอดกาลอีกด้วย

ปรากฏการณ์ Nevermind

ผลงานในอัลบั้มชุด Nevermind มีเพลงที่หลายคนจดจำได้เป็นอย่างดีคือ Smell Like Teen Spirit เพลงที่โดดเด่นในด้านแนวดนตรี และตรงใจวัยรุ่นหนุ่มสาวในยุคนั้นเป็นอย่างมาก ซึ่งผลงานดังกล่าวยังได้เข้าสู่ชาร์ต Billboard Hot 100 และได้ขึ้นไปถึงอันดับ 6 เรียกว่าประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก โดยปัจจุบันนี้ผลงานชุด Nevermind ยังติดอันดับหนึ่งในอัลบั้มที่ขายดีเป็นอันดับต้น ๆ ของโลกอีกด้วย

ใน รายการนักผจญเพลง Replay แขกรับเชิญอย่าง ดีเจซี๊ด นรเศรษฐ ได้เล่าเรื่องราวของวง NIRVANA เอาไว้ว่า พวกเขามีผลงานแนวอัลเทอร์เนทีฟร็อก ที่มีสไตล์แตกต่างจากวงดนตรีแนวอื่น ๆ ในเวลานั้น โดยการใช้ซาวด์ดนตรีแบบดิบ ๆ ที่ให้ความรู้สึกชัดเจนเหมือนอัดในโรงรถ ซึ่งตัวดีเจซี๊ดมองว่า เป็นเทคนิคการทำงานที่ลอกเลียนแบบได้ยาก

ส่วนพาร์ทของดนตรี ในอัลบั้มชุด Nevermind มีการนำดนตรีหลายสไตล์มาผสมผสานกัน ไม่ว่าจะเป็นแนวพังก์, เฮฟวี่ เมทัล หรือแม้แต่แนวเพลงอเมริกันยุคเก่าอย่าง บลูส์ กับแนวคันทรี มาผสมสานกันจนได้ผลงานที่มีดนตรีเกรี้ยวกราดชัดเจน และเนื้อหาก็พูดถึงเรื่องราวในชีวิตผู้คน และสังคมในยุค 90 ที่เต็มไปด้วยความว้าวุ่น สับสนว่าอนาคตจะเป็นอย่างไร รวมถึงมีเนื้อหาที่จิกกัดระบบทุนนิยม ซึ่งเป็นสิ่งที่พูดแทนเรื่องราวในสังคมที่ผู้คนยุคนั้นต้องพบเจอ

ปกอัลบัม NEVERMIND อันลือลั่น

ปกอัลบั้มที่น่าจดจำ แต่ก็มีปัญหาตามมา

นอกจากตัวเพลงที่ได้รับความนิยมแล้ว อีกสิ่งที่เป็นที่น่าจดจำของอัลบั้ม Nevermind คือตัวปกอัลบั้มที่เป็นรูปเด็กทารกว่ายน้ำเข้าหาเงินธนบัตร ซึ่งเป็นภาพที่หลายคนมองว่าเป็นตลกร้ายของโลกทุนนิยม ที่แม้แต่เด็กทารกแรกเกิด ก็ต้องไขว่คว้าหาเงินทอง ชื่อเสียง

โดยปกอัลบั้มนี้มาจากการที่ Kurt Cobain และ Dave Grohl สองสมาชิกได้ไอเดียมาจากสารคดีการคลอดลูกในน้ำ จากนั้นจึงมีการจัดฉากต่าง ๆ และให้ลูกของเพื่อนช่างภาพที่ชื่อ Spencer Elden มาเป็นแบบในปกอัลบั้มนี้ แต่ว่าเมื่อ Spencer Elden เติบโตขึ้นมา เขากลับไม่พอใจที่มีการใช้ภาพในวัยเด็กของเขามาเป็นภาพปกอัลบั้ม จนเกิดเป็นการฟ้องร้องในเวลาต่อมา และกลายเป็นข่าวดังในสื่อบันเทิงต่างประเทศไปทั่วโลก

แม้จะมีเรื่องราวขัดแย้งกันเกิดขึ้นบ้าง แต่ก็ปฏิเสธม่ได้จริง ๆ ว่า ภาพเด็กในปกอัลบั้มชุดนี้ ได้สร้างภาพจำที่กลายเป็นหนึ่งในปกอัลบั้มที่เชื่อว่าหลายคนทั่วโลกต้องเคยเห็น และคุ้นตากันแน่นอน

บทสรุป

เมื่อสมาชิกวง NIRVANA ได้ใช้ความสามารถของพวกเขาไปกับอัลบั้มชุด Nevermind ที่มีดนตรีสุดเกรี้ยวกราด และเนื้อหาที่ตรงใจคนรุ่นใหม่ในเวลานั้น จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ผลงานชุดดังกล่าวกลายเป็นตำนานทันที และจากความร่วมสมัยของเนื้อหา รวมถึงความแตกต่างอย่างโดดเด่นของผลงานเพลงในชุดนี้ ก็ทำให้อัลบั้ม Nevermind ยังคงเป็นที่พูดถึงทุกวันนี้และเป็นหนึ่งในผลงานชุดประวัติศาสตร์ของวงการเพลงโลก