“ฝันร้าย” คือ “ความฝัน” ที่ก่อให้เกิดอารมณ์ด้านลบ มีภาพชัดเจน ผู้ที่ฝันสามารถจำเนื้อหาได้ เนื้อหาความฝันมักน่ากลัว และส่งผลให้การนอนหลับไม่ต่อเนื่อง ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นในช่วงการนอนที่มีการเคลื่อนไหวไปมาของตาอย่างรวดเร็ว (rapid eye movement sleep) บางคนมักจะฝันร้ายตอนเช้าส่งผลให้เกิดความรู้สึกวิตกกังวล หวาดกลัว หรือโศกเศร้า จนเป็นอันตรายกับสุขภาพของเราได้
สาเหตุของ “ฝันร้าย”
ความรู้ในเรื่อง “ฝันร้าย” อาจารย์ นพ.กานต์ จำรูญโรจน์ ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล อธิบายว่า ฝันร้ายไม่ใช่ความผิดปกติเสมอไป แต่หากเกิดขึ้นบ่อยจนรบกวนชีวิตประจำวัน พบว่ามักมีสาเหตุบางอย่างที่ควรได้รับการบำบัดรักษา เช่น
- สาเหตุที่พบบ่อยของฝันร้ายมาจากความวิตกกังวลและความเครียด
- การสูญเสียบุคคลที่รักหรือ การถูกกระทบกระเทือนทางจิตใจอย่างรุนแรง
- ผลข้างเคียงของยา เช่น ยานอนหลับ
- ดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือสูบบุหรี่มากเกินไป
- ความผิดปกติของการหายใจขณะหลับหรือภาวะหยุดหายใจขณะหลับ
- การรับประทานอาหารที่ย่อยยากก่อนนอน เช่น เนื้อสัตว์
- มีปัญหาด้านสุขภาพจิต เช่น ป่วยเป็นโรคซึมเศร้า โรควิตกกังวล และภาวะผิดปกติทางจิตใจที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ร้ายแรง (PTSD) ซึ่งภาวะอย่างหลังนี้มักจะมี ความฝัน ถึงเหตุการณ์ร้าย ๆ ที่เคยพบเจอมา เป็นภาพฉายซ้ำ ๆ บางครั้งอาจเห็นภาพแค่บางส่วน
เด็ก “ฝันร้าย” ได้ไหม ?
เด็กเล็ก 1-2 ปี จะเริ่มมีอาการฝันร้าย คือ การสะดุ้งตื่นกลางดึกและร้องไห้ แต่ในเด็กเล็กอาจจะยังไม่รู้ว่าคือฝันร้าย แต่เมื่ออายุ 3-4 ปี จะเริ่มสื่อสารถึงเรื่องราวที่ฝันได้ และรับรู้ว่าสิ่งนั้นคือฝันร้าย
เด็ก “ฝันร้าย” เพราะอะไร
ฝันร้ายในเด็กเล็กอาจเกิดจากความเหนื่อยล้าหรือเกิดจากสถานการณ์ เหตุการณ์ สิ่งแวดล้อมที่เด็กได้รับก่อนเข้านอนหรือได้รับในแต่ละวัน เช่น ดูภาพยนตร์ โทรทัศน์ หรือคลิป Youtube ที่มีภาพ เสียงที่น่ากลัวหรือมีความรุนแรง พอถึงเวลานอนตอนกลางคืนเด็กก็มักจะฝันร้าย
วิธีลดอาการ “ฝันร้าย” ของเด็ก
- เข้านอนอย่างเป็นเวลา เด็กเล็กควรเข้านอนแต่หัวค่ำฝึกเป็นนิสัยและห้องนอนของเด็กอาจจะมีตุ๊กตาที่ชอบไว้เป็นเพื่อนแก้เหงาเพื่อให้เด็ก ๆ มีจิตใจสงบลดฝันร้าย
- กิจกรรมก่อนเข้านอน หากิจกรรมที่เบา ๆ ไม่ควรเล่นกีฬาหนัก ๆ หรือดูทีวี ดูหนังที่มีฉากน่ากลัวหรือสยองขวัญ งดรับประทานอาหารที่หนักมาก เพราะจะส่งผลต่อระบบย่อยอาหารทำให้หลับยากและเสี่ยงต่อฝันร้าย
“ฝันร้าย” แบบไหนบอกว่ากำลังป่วย
แต่ละคนมีเรื่องราวฝันร้ายที่แตกต่างกัน แต่ส่วนใหญ่ฝันร้ายที่บอกถึงปัญหาหรือความผิดปกติของสภาพจิตใจมีลักษณะ ดังนี้
- เกิดขึ้นบ่อยครั้ง
- ทำให้สะดุ้งตื่นจากฝันร้ายอยู่เสมอ จนรบกวนการนอนหลับเป็นประจำ
- ส่งผลให้ไม่มีความสุขในการใช้ชีวิต ทำกิจกรรม การงาน หรือเข้าสังคม
“ฝันร้าย” ทุกคืนมีวิธีป้องกันอย่างไร ?
- ควรงดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หรือเครื่องดื่มที่มีคาเฟอีนก่อนนอน เช่น ชา กาแฟ ช็อกโกแลต น้ำอัดลม
- พยายามทำกิจกรรมผ่อนคลายก่อนนอน เช่น อ่านหนังสือ ฟังเพลง ดูหนัง
- รักษาอุณหภูมิในห้องไม่ให้ร้อนหรือเย็นเกินไป
- ทำให้ห้องมืดสนิทช่วยให้นอนหลับได้ง่ายขึ้น
- ออกกำลังกายอย่างน้อยวันละ 20-30 นาทีในช่วงเย็นหรือประมาณ 3-4 ชั่วโมงก่อนเข้านอน
- กำหนดเวลานอนให้เหมือนกันในทุกวันให้ร่างกายได้จดจำเวลาเข้านอนและตื่นนอน
- หลีกเลี่ยงการเล่นโซเชียลมีเดียหรือติดตามข่าวเครียด ๆ ก่อนนอน
การนอนหลับแล้ว “ฝันร้าย” เป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน หากนอนหลับฝันร้ายจนส่งผลกระทบต่อการใช้ชีวิตประจำวัน ควรเข้าพบแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเพื่อหาสาเหตุที่แท้จริงเพื่อให้การนอนมีคุณภาพมากยิ่งขึ้น
SciAndTechMovie พาไปไขความลับเกี่ยวกับสมองในหนังเรื่อง “Inception” จิตพิฆาตโลก พร้อมคุยเรื่องทฤษฎีฝันซ้อนฝัน "Lucid Dream" และ "การปลูกฝัน" ทำได้จริงหรือ ความฝันกับความจริง...อะไรคือเส้นแบ่ง
ชมคลิป SciAndTechMovie : Inception
🎧 อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : อาจารย์ นพ.กานต์ จำรูญโรจน์ ภาควิชาจิตเวชศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี มหาวิทยาลัยมหิดล
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech