เมื่อเดือนมิถุนายน ปี 2024 เครื่องบินวิจัยขนาดเล็ก Gulfstream IV (G-IV) ลำใหม่ของศูนย์การวิจัยด้านการบิน Armstrong ได้ขึ้นบินเป็นครั้งแรกจากฐานบินในเมือง Edwards มลรัฐ California โดยภารกิจในครั้งนี้เป็นการทดสอบเพื่อประเมินประสิทธิภาพการบินและให้นักบินที่เกี่ยวข้องได้ทำความคุ้นเคยกับการควบคุมเครื่องบิน G-IV ลำใหม่ เครื่องบินลำนี้ถูกออกแบบมาเพื่อรองรับการติดตั้งอุปกรณ์วิจัยทางวิทยาศาสตร์ในอนาคต ซึ่งในช่วงแรกของการทดสอบ เครื่องบิน G-IV ยังไม่ได้มีการติดตั้งอุปกรณ์วิจัยหรือเซ็นเซอร์ภายนอก เช่น เรดาร์ ที่จะใช้ในการเก็บข้อมูล อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ G-IV ผ่านการทดสอบและติดตั้งอุปกรณ์เสร็จสิ้น เครื่องบินจะถูกนำไปใช้งานในโครงการ Airborne Science ของ NASA ซึ่งเป็นโครงการสำคัญในการวิจัยทางวิทยาศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการสำรวจทางอากาศ
เครื่องบิน G-IV ของ NASA ลำนี้จะถูกติดตั้งระบบเรดาร์ที่เรียกว่า AIRSAR-NG (Next Generation Airborne Synthetic Aperture Radar) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีเรดาร์ขั้นสูงที่ออกแบบมาเพื่อเก็บข้อมูลทางภูมิศาสตร์ที่มีความละเอียดสูง ระบบ AIRSAR-NG นี้จะช่วยให้นักวิทยาศาสตร์สามารถติดตามการเปลี่ยนแปลงของลักษณะภูมิประเทศตามช่วงเวลาที่ต่างกันได้อย่างแม่นยำ โดยเครื่องบิน G-IV จะติดตั้งจานเรดาร์ AIRSAR-NG ทั้งหมด 3 จาน เพื่อให้ครอบคลุมพื้นที่ที่กว้างและเก็บข้อมูลได้หลากหลายมิติ
นอกจากการติดตั้งเรดาร์แล้ว เครื่องบิน G-IV ยังมีความสามารถในการปรับแต่งและติดตั้งอุปกรณ์วิทยาศาสตร์อื่น ๆ ได้เพิ่มเติมในอนาคต ซึ่งทำให้เครื่องบินลำนี้เป็นเครื่องบินอเนกประสงค์ที่สามารถรองรับอุปกรณ์วิจัยที่หลากหลายได้ตามความต้องการในภารกิจต่าง ๆ ที่ NASA วางแผนไว้ ไม่ว่าจะเป็นการติดตั้งอุปกรณ์เพื่อตรวจวัดสภาพอากาศ การตรวจจับรังสี หรือการวัดสัญญาณแม่เหล็กโลก G-IV จะเป็นแพลตฟอร์มที่สำคัญสำหรับการวิจัยทางอากาศในหลากหลายด้าน
Synthetic Aperture Radar (SAR) เป็นเทคโนโลยีเรดาร์ที่ใช้ในการยิงคลื่นสัญญาณเรดาร์ลงไปยังพื้นผิวโลก จากนั้นรับสัญญาณสะท้อนกลับมาเพื่อสร้างข้อมูลเกี่ยวกับลักษณะภูมิประเทศอย่างละเอียด ข้อดีของ SAR คือสามารถเก็บข้อมูลได้ทั้งกลางวันและกลางคืน รวมถึงสามารถทำงานได้ในทุกสภาพอากาศ โดยไม่ถูกขัดขวางจากเมฆหรือหมอก นอกจากนี้ ข้อมูลที่ได้รับจาก SAR ยังสามารถนำมาเปรียบเทียบกันเพื่อวิเคราะห์การเปลี่ยนแปลงของภูมิประเทศในช่วงเวลาที่ต่างกัน ซึ่งมีประโยชน์อย่างมากในการติดตามการเปลี่ยนแปลงของโลก เช่น การกัดเซาะชายฝั่ง การเกิดดินถล่ม หรือการละลายของธารน้ำแข็ง
การใช้งาน SAR นั้นมีความสำคัญอย่างมากในหลากหลายภารกิจของ NASA โดยเฉพาะอย่างยิ่งในด้านการติดตามการเคลื่อนไหวของแผ่นเปลือกโลกและการตรวจวัดการเปลี่ยนแปลงเล็กน้อยในพื้นผิวโลก ข้อมูลที่ได้จาก SAR สามารถนำมาใช้ในการคาดการณ์เหตุการณ์ธรรมชาติ เช่น แผ่นดินไหว หรือการเคลื่อนที่ของแผ่นดิน ข้อมูลที่ SAR เก็บได้นั้นมีความละเอียดสูงถึงระดับเซนติเมตร ซึ่งหมายความว่าการเคลื่อนไหวที่เล็กที่สุดของพื้นผิวโลกก็สามารถถูกตรวจจับได้ ทำให้เทคโนโลยีนี้เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังในการศึกษาภูมิประเทศและการเปลี่ยนแปลงของสภาพแวดล้อม
ในกรณีของการใช้งาน SAR บนเครื่องบิน เช่น G-IV ของ NASA จะช่วยให้การสำรวจทางอากาศสามารถเข้าถึงพื้นที่ที่ดาวเทียมไม่สามารถครอบคลุมได้ เช่น พื้นที่ห่างไกลหรือพื้นที่ที่มีความซับซ้อนทางภูมิศาสตร์ เครื่องบิน SAR ยังสามารถบินในระดับความสูงที่ต่ำกว่าเพื่อเก็บข้อมูลที่มีความละเอียดสูงมากยิ่งขึ้น ซึ่งเป็นข้อได้เปรียบในการสำรวจพื้นที่เฉพาะเจาะจงที่ต้องการความแม่นยำ
เรียบเรียงโดย โชติทิวัตถ์ จิตต์ประสงค์
🎧 อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech