Federal Air Marshal Service (FAMS) หรือที่รู้จักในชื่อสั้นว่า “Air Marshal” นั่นคือ “ตำรวจอากาศ” ของ Transportation Security Administration (TSA) หรือ หน่วยงานรักษาความปลอดภัยด้านการขนส่งของสหรัฐอเมริกา Air Marshal มีหน้าที่ปลอมตัวเป็นผู้โดยสารทั่วไปบนเที่ยวบินพาณิชย์ในสหรัฐอเมริกา เพื่อคอยสอดส่องดูแลความปลอดภัยของเครื่องบิน ในขณะเดียวก็ปกปิดตัวตนจากผู้ก่อการร้ายเพื่อไม่ให้ผู้ก่อการร้ายสามารถรู้ได้ว่ามี Air Marshal อยู่บนเครื่องบินหรือไม่
หน้าที่ของ Air Marshal คือการเป็นตำรวจนอกเครื่องแบบบนเครื่องบิน โดย Air Marshal นั้นมีอาวุธปืนพก กระบอง และกุญแจมือ ซึ่งได้รับอนุญาตให้ใช้ได้บนเครื่องบินเพื่อควบคุมสถานการณ์หากเกิดการก่อการร้ายขึ้นบนเครื่องบิน
อย่างไรก็ตาม ประสิทธิภาพของ Air Marshal ในยุคแรกนั้นต่ำ เนื่องจากนโยบายต่าง ๆ ที่ Air Marshal ต้องปฏิบัติตาม ทำให้ผู้โดยสารสามารถระบุตัวตนได้ว่าใครเป็น Air Marshal เช่น นโยบายด้านการแต่งตัวของ Air Marshal ที่รัดกุมเกินไปจนดูเหมือนตำรวจ การเรียกให้ Air Marshal ขึ้นเครื่องบินก่อนผู้โดยสารคนอื่น การปรากฏ “ส่วนลดสำหรับเจ้าหน้าที่รัฐ” ในการจองโรงแรมต่าง ๆ ทำให้ Air Marshal นั้นยากที่จะปกปิดตัวตน
ในปี 2006 นโยบายเหล่านี้ถูกเปลี่ยน ทำให้ Air Marshal สามารถสวมใส่อะไรก็ได้ตามต้องการ และจะจองโรงแรมที่ไหนก็ได้เพื่อปกปิดตัวตน
Air Marshal มีจุดเริ่มต้นมาตั้งแต่ยุคปี 1960 โดยระหว่างนั้น Air Marshal ไม่ได้ถูกเรียกว่า Air Marshal แต่เป็น “FAA Peace Officer” และอยู่ภายใต้การดูแลของ Federal Aviation Administration (FAA) ซึ่งเป็นหน่วยงานบริหารการบินแห่งชาติของสหรัฐฯ ก่อนที่ FAA จะตั้งหน่วยงานแยกขึ้นมาใหม่เรียกว่า “Civil Aviation Security Division” โดยที่เจ้าหน้าที่ภายในหน่วยนี้จะได้รับการฝึกโดยหน่วยฝึกขององค์กรสอบสวนกลางของสหรัฐฯ หรือ FBI
อย่างไรก็ตาม ในช่วงปี 1973 กฎหมายใหม่บังคับให้ท่าอากาศยานในสหรัฐอเมริกาทุกที่ต้องตรวจค้นผู้โดยสารทุกคนเพื่อป้องกันการนำอาวุธเข้ามาในเขตท่าอากาศยานและในเครื่องบิน ทำให้เจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยบนเครื่องบินมีความจำเป็นน้อยลงจนถูกยุบไป เจ้าหน้าที่ภายในหน่วยงานจึงถูกโอนย้ายไปทำอย่างอื่น เช่น เจ้าหน้าที่ศุลกากร อย่างไรก็ตาม FAA ยังคงเหลือ Air Marshal ไว้ประมาณ 10-12 คน แต่ไม่ได้ถูกมอบหมายให้ทำภารกิจใด ๆ ไปจนกระทั่งในช่วงปี 1985 เมื่อสภาคองเกรสผ่านกฎหมายให้ขยายการดำเนินงานของ Air Marshal เพื่อตอบสนองต่อจำนวนการจี้เครื่องบินที่มากขึ้น
อย่างไรก็ตาม Air Marshal เหล่านี้จะถูกมอบหมายให้ดูแลเที่ยวบินภายในประเทศเท่านั้น จนกระทั่งปี 1985 เมื่อมีการจี้เที่ยวบินระหว่างประเทศเกิดขึ้น ทำให้สหรัฐฯ เริ่มพยายามให้ Air Marshal ดูแลเที่ยวบินระหว่างประเทศด้วย อย่างไรก็ตาม บางประเทศคัดค้านไม่ให้สหรัฐฯ ใช้ Air Marshal กับเที่ยวบินระหว่างประเทศของตัวเอง เนื่องจาก Air Marshal นั้นมีอาวุธปืน และจะต้องนำอาวุธปืนขึ้นเครื่องบินไปด้วย ก่อนที่การเจรจาจะส่งผลให้ Air Marshal สามารถอยู่บนเที่ยวบินระหว่างประเทศได้เกือบทุกเที่ยวบิน
ในเหตุการณ์ 9/11 หรือเหตุการณ์ก่อการร้ายจี้เครื่องบินเพื่อชนตึก World Trade Center วันที่ 11 กันยายน 2001 นั้น แม้ Air Marshal จะได้รับการสนับสนุนจากสภาคองเกรสโดยปรับงบประมาณไว้ที่การจ้าง Air Marshal ทั้งหมด 50 คน แต่ระหว่างเหตุการณ์ 9/11 มี Air Marshal ในหน้าที่เพียงแค่ 33 คนเท่านั้น
หลังเหตุการณ์ 9/11 ประธานาธิบดีสหรัฐฯ ในขณะนั้น จอร์จ บุชสั่งให้ขยาย Federal Air Marshal Service (FAMS) ทันที ผู้อำนวยการของ FAMS ในขณะนั้นถูกสั่งให้ฝึก Air Marshal ให้ได้ 600 คน ภายในหนึ่งเดือน ในช่วงปี 2013 ตัวเลขของ Air Marshal ถูกประมาณไว้อยู่ที่ 4,000 คน ปัจจุบัน FAMS อยู่ภายใต้การดูแลของ TSA
เรียบเรียงโดย โชติทิวัตถ์ จิตต์ประสงค์
🎧 อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech