ความคืบหน้าการตรวจสอบการบุกรุกป่าสงวนแห่งชาติเพื่อทำสวนทุเรียนในพื้นที่ จ.ฉะเชิงเทรา ล่าสุด วันนี้ (14 มี.ค.2568) นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา พล.ต.ต.เกรียงไกร บุญซ้อน ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา

พร้อมทหารพราน กรมทหารพรานที่ 13 ตำรวจ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งเเวดล้อม (บก.ปทส.), ฝ่ายปกครอง และ อบต.คลองตะเกรา เข้าตรวจสอบสวนทุเรียนในพื้นที่ ต.คลองตะเกรา อ.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา หลังเจ้าหน้าที่ตรวจยึดไว้ราว 688 ไร่ และดำเนินคดีไปแล้ว 300 ไร่
- "เฉลิมชัย" สั่งสอบที่ดิน คทช. 7.2 ล้านไร่ปมทุนจีนปลูกทุเรียน
- ยึดอีกแปลง 400 ไร่สวนทุเรียนรุกป่า "จิสด้า" ช่วยสแกน 7.2 ล้านไร่
- "กรมป่าไม้" แจ้งความ ตร.เอาผิดนายทุนรุกป่า ปลูกทุเรียนกว่า 900 ไร่
ผู้ว่าฯ ฉะเชิงเทรา ระบุว่า การลงพื้นที่ตรวจสอบในกรณีดังกล่าวด้วยตัวเองเนื่องจากยังไม่เคยมาในพื้นที่ที่ปรากฏเป็นข่าว เมื่อเห็นแล้วก็ต้องตกใจว่าสภาพพื้นที่นั้นเปลี่ยนไป

ขณะเดียวกันได้สอบถามชาวบ้านซึ่งอยู่ระหว่างให้ปากคำกับ ตำรวจ ปทส.โดยย้ำว่า หากบุคคลใดได้รับที่ดินตามโครงการจัดที่ดินทำกินให้ชุมชนตามนโยบายรัฐบาล (คทช.) จะต้องใช้ที่ดินให้เกิดประโยชน์และต้องไม่มีการขายเปลี่ยนมือ

นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา (ขวา)
นายขจรเกียรติ รักพานิชมณี ผู้ว่าราชการจังหวัดฉะเชิงเทรา (ขวา)
สำหรับพื้นที่สวนทุเรียนทุนจีน ต.คลองตะเกรา ที่ถูกแจ้งความดำเนินคดีแล้วนั้น ผู้ว่าฯฉะเชิงเทรา สั่งให้ทุกหน่วยเกี่ยวข้อง เร่งสอบสวนและรวบรวมหลักฐานทั้งหมดเพื่อดำเนินการเอาผิดผู้เกี่ยวข้อง ส่วนพื้นที่อีกราว 300 ไร่ ที่ยังไม่ได้มีการแจ้งความดำเนินคดีขณะนี้มอบให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปร้องทุกข์กล่าวโทษให้ครบทั้ง 688 ไร่ และหากเกี่ยวข้องกับใครก็ต้องดำเนินคดีทั้งหมด

ส่วนเรื่องการนำชื่อบุคคลอื่นมาขอใช้สิทธิ์ ที่ คทช.ในเขต ต.ท่าตะเกียบ จ.ฉะเชิงเทรา ทราบว่า ตำรวจภูธรจังหวัดฉะเชิงเทรา อยู่ระหว่างประสานข้อมูลกับทางตำรวจภูธรจังหวัดจันทบุรี เพื่อยืนยันข้อมูลที่มีการสอบปากคำไปแล้ว และในวันที่ 21 มี.ค.2568 จะมีการประชุม คทช.จังหวัดฉะเชิงเทรา คงต้องนำเรื่องที่ดินในพื้นที่ อ.ท่าตะเกียบ และที่ดินที่กำลังจะจัดสรรให้ประชาชนเข้ามาพิจารณาร่วมกับทุกหน่วยงานด้วย เพื่อไม่ให้เกิดปัญหาบานปลายเหมือนอย่างที่ อ.ท่าตะเกียบ

ส่วนกรณีส่วนราชการหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องรับรองเอกสาร หรือยืนยันแนวเขตจะต้องตรวจสอบให้ชัดเจนว่า ดำเนินการรับรองอย่างไร หากจริงต้องตรวจสอบให้ชัดว่าเหตุใดทำไมถึงเกิดขึ้นได้ และในระเบียบ ระบุชัดไว้แล้วว่า ห้ามซื้อขายเปลี่ยนมือ

ด้าน พล.ต.ต.เกรียงไกร บุญซ้อน ผบก.ภ.จว.ฉะเชิงเทรา เปิดเผยว่า เร่งให้พนักงานสอบสวน สภ.ท่าตะเกียบ สอบปากคำและรวบรวมพยานหลักฐาน เพื่อส่งดำเนินคดีโดยเร็ว รวมถึงให้ขยายผลเรื่องของการติดตั้งเสาไฟเข้าไปในพื้นที่ว่ามีบุคคลใดเกี่ยวข้อง และระบบน้ำมีการดำเนินการขออนุญาตหรือไม่ ทั้งหมดต้องอยู่ในสำนวนด้วย

ขณะที่ ด.ต.ไพศาล เสริฐสอน ผบ.หมู่ กก.2 บก.ปทส. เข้าสอบปากคำชาวบ้านซึ่งมีสิทธิ์ครอบครองที่ในบริเวณดังกล่าวจำนวน 5 คน แต่ละคนมีที่ทำกิน 19 ไร่ - 25 ไร่ จากการสอบปากคำพบว่า ทั้ง 5 คน ที่ดินของตัวเองถูกออกแนวเขตทับเข้ามาจนกลายเป็นพื้นที่ทับซ้อนกับบริษัทดังกล่าว และวันนี้ชาวบ้านได้นำชี้พื้นที่ทำกิน ให้กับตำรวจ ปทส.เป็นหลักฐานด้วย
อ่านข่าว : กมธ.ทรัพยากรฯ เร่งขยายผล "จีนเทา" บุกรุกที่ดินปลูกทุเรียน
“กมธ.วุฒิฯ” ลุยท่าตะเกียบ พบขายที่ดิน คทช.ให้ทุนจีนทำสวนทุเรียน
ทุนจีนบุกพื้นที่อ่างเก็บน้ำใน จ.ตราด “ปลูกทุเรียน”