กรณีสภายุโรปมีมติประณามไทยส่งชาวอุยกูร์กลับจีน พร้อมเรียกร้องให้คณะกรรมาธิการยุโรปใช้การเจรจาข้อตกลงการค้าเสรี (FTA) กดดันประเทศไทยให้ปฏิรูปกฎหมายที่เกี่ยวข้องกับสิทธิมนุษยชน นั้น
วันนี้ (14 มี.ค.2568) พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รมว.ยุติธรรม กล่าวว่า ขณะนี้ยังไม่ทราบรายละเอียด แต่ยืนยันว่าทุกอย่างดำเนินการตามกฎหมาย ซึ่งรัฐบาลอาจจะต้องชี้แจงรายละเอียด ผ่านกระทรวงการต่างประเทศ (กต.) พร้อมกันนี้เชื่อว่า กต.ได้เตรียมพร้อมรับมือไว้แล้ว รวมถึงความพยายามที่จะชี้แจงให้กับนานาชาติได้เข้าใจ
ขณะที่นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน กล่าวว่า หลายประเทศประณามไทยจากการส่งชาวอุยกูร์กลับไปจีน รวมถึงกฎหมายที่ยังมีปัญหาในประเทศ เชื่อว่าสิ่งที่พวกเขาแสดงออกสะท้อนว่าระบบกฎหมายในประเทศไทยบางเรื่อง รวมถึงการปฎิบัติของรัฐบาลไทยที่ผ่านมาหลายกรณี ไม่เป็นไปตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล

นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน
นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน
อ่านข่าว : "สภายุโรป" โหวตประณามไทยส่งอุยกูร์-เรียกร้องใช้ FTA กดดันแก้ กม.
หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุอีกว่า พรรคประชาชนยืนยันมาตลอดว่าจำเป็นต้องแก้ไขกฎหมายที่มีปัญหา รวมถึงประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 ซึ่งการที่สหภาพยุโรปแสดงความเป็นห่วงต่อกฎหมายฉบับนี้ จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่ต้องหาทางออก
นอกจากนี้ไม่ใช่แค่ FTA ที่เตรียมจะกดดันไทย แต่ยังมีอีกหนึ่งเวทีที่รัฐบาลกำลังจะผลักดันเข้าร่วมเป็นสมาชิกคือ องค์การเพื่อความร่วมมือทางเศรษฐกิจและการพัฒนา (OECD) ซึ่งตามกรอบมาตรฐานการกระทำการค้าได้ ต้องปฏิบัติตามหลักสิทธิมนุษยชนสากล
"สุณัย" จี้รัฐบาลอย่าเพิกเฉยถูก "สภายุโรป" ใช้ FTA กดดัน
ด้านนายสุณัย ผาสุข ที่ปรึกษาฮิวแมนด์ ไรท์ วอชต์ ประจำประเทศไทย เปิดเผยว่า ก่อนรัฐสภายุโรปจะมีมติประณามไทย และทางคณะผู้แทนของสมาชิกรัฐสภายุโรปเดินทางมาเยือนไทย ในช่วงเวลาที่ไทยดำเนินการส่งชาวอุยกูร์ 43 คนให้ทางการจีน โดยมีการพบกับตัวแทนฝ่ายรัฐบาลและฝ่ายค้านที่รัฐสภา ทำให้มีข้อมูล ได้เห็นและรับรู้เหตุการณ์ด้วยตนเอง ไม่ได้เกิดจากคนไทยไปส่งข้อมูล
การประณามไทยและกดดันผ่านข้อตกลงการค้าเสรี ที่ผ่านมาจะมีท่าทีชัดเจนกับรัฐบาลที่มาจากรัฐประหาร จึงเป็นครั้งแรกที่เกิดขึ้นกับรัฐบาลพลเรือนและมีเป้าหมายยกระดับด้านสิทธิมนุษยชน

นายสุณัย ผาสุข ที่ปรึกษาฮิวแมนด์ ไรท์ วอชต์ ประจำประเทศไทย
นายสุณัย ผาสุข ที่ปรึกษาฮิวแมนด์ ไรท์ วอชต์ ประจำประเทศไทย
อ่านข่าว : ไทยรับศึก 2 ด้าน สหรัฐฯ-EU ขู่บีบการค้า ปมส่งอุยกูร์กลับจีน
ที่ปรึกษาฮิวแมนด์ ไรท์ วอชต์ ประจำประเทศไทย กล่าวอีกว่า ในรายงานของกรรมาธิการยุโรป จัดให้ไทยอยู่ในระดับเดียวกับประเทศซูดาน กระทบภาพลักษณ์ของไทยอย่างมาก จึงไม่อยากให้รัฐบาลเพิกเฉยกับปัญหานี้ เพราะการกดดันไทยครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกที่มีผลในทางปฏิบัติตามมาด้วย คือกรอบการเจรจาทางการค้า ซึ่งสัมพันธ์กับปัญหาปากท้องคนไทย
"นันทนา" ชี้รัฐบาลต้องทำการบ้านหลังถูกสภาอียูประณาม
ส่วน น.ส.นันทนา นันทวโรภาส สว. ให้ความเห็นต่อกรณีสภายุโรปเรียกร้องให้ใช้การเจรจา FTA กดดันประเทศไทยให้ปฏิรูปกฏหมายที่จำกัดเสรีภาพ ว่า เรื่องนี้จะส่งผลกระทบต่อประเทศไทยในมุมกว้าง ไม่เฉพาะเรื่องภาพลักษณ์เท่านั้น แต่ยังส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจ เพราะมติที่ออกมามีการพูดถึงเรื่อง FTA ระหว่างไทยกับกลุ่มประเทศในยุโรป ซึ่งจะส่งผลให้ไทยเผชิญความยากลำบากในการค้าขายกับต่างชาติ
ขณะเดียวกันก็อาจทำให้ประเทศอื่นๆ ที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มประเทศในยุโรป มองว่าไทยไม่ได้เป็นประเทศที่มีอารยะด้านสิทธิมนุษยชน หรือเรื่องความเป็นประชาธิปไตย ดังนั้นจึงเป็นการบ้านว่ารัฐบาลจะทำอย่างไร ในการอธิบายต่อสังคมโลกให้ได้ว่าเราเป็นประเทศที่เคารพด้านสิทธิมนุษยชนและมีความเป็นประชาธิปไตยตามมาตรฐานสากล
อ่านข่าว
อดีตทูต มองปมส่งกลับอุยกูร์กระทบเจรจา FTA ไทย-อียู แนะโอกาสแก้ตัวของไทย
"กัณวีร์" ยกปมส่งอุยกูร์ สะท้อนไทยตกเหวกรอบความร่วมมือระหว่างประเทศ