วันที่ 20 ก.ค.66 พล.ต.ท.วรวัฒน์ วัฒน์นครบัญชา ผบช.สอท. นายสมชาย พลายด้วง ผอ.กองคดี 5 ปปง. นำกำลังเจ้าหน้าที่ตำรวจ และ ปปง. ปิดล้อมตรวจค้นในพื้นที่ จ.อุดรธานี 6 จุด และ กทม. 1 จุด เพื่อยึดทรัพย์ขบวนการเครือข่ายฟอกเงินของแก๊งคอลเซ็นเตอร์ ส่ง ปปง.ดำเนินการตามกฎหมาย
จุดที่น่าสนใจ คือ การตรวจค้นบริษัทแห่งหนึ่งที่เปิดรับซื้อพืชผลทางการเกษร ตั้งแต่ปี 2564 ซึ่งตั้งอยู่ในพื้นที่หมู่ 9 ซ.บัานหนองเหล็ก ต.หมากแข้ง อ.เมือง จ.อุดรธานี ยึดรถยนต์ยี่ห้อ Porsche Cayenne 1 คัน มูลค่ากว่า 7 ล้านบาท รถจักรยานยนต์ LAMBRETTA รุ่น X300 สีเขียว เงินสด 439,000 บาท เงินสดสกุลลาว 530,000 กีบ นาฬิกายี่ห้อ ROLEX รุ่น SUBMARINER สีเขียว มูลค่า 320,000 บาท นาฬิกายี่ห้อ FRANCK MULLER รุ่น YACHTING สีน้ำเงิน มูลค่า 300,000 บาท กระเป๋าแบรนด์เนมจำนวนมาก นอกจากนี้ยังตรวจยึดกระเป๋าแบรนด์เนม โฉนดที่ดินอสังหาริมทรัพย์ ในจุดอื่น ๆ ได้ รวมมูลค่า 90 ล้านบาท
พล.ต.ท.วรวัฒน์ กล่าวว่า ปฏิบัติการครั้งนี้สืบเนื่องจากได้มีกลุ่มผู้เสียหาย 166 คน ยื่นร้องเรียนและขอความช่วยเหลือไปยัง พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ว่าได้รับความเสียหายจากกลุ่มขบวนการแก๊งคอลเซ็นเตอร์ แอบอ้างเป็นบริษัทขนส่งหลอกโอนเงิน สร้างความเสียหาย 90 ล้านบาท โดยเกิดเหตุต่อเนื่องตั้งแต่ช่วงปลายปี 2564 จึงสั่งการให้ตำรวจไซเบอร์สืบสวนขยายผลจับกุม และสืบทรัพย์ที่เชื่อมโยงกับกลุ่มขบวนการดังกล่าว อีกทั้งกลุ่มบุคคลที่เชื่อว่าสนับสนุนการฟอกเงิน
ตำรวจอายัดรถยนต์หรู
การสืบสวนพบว่ามีกลุ่มบุคคลที่เกี่ยวข้องทางการเงินจากกลุ่มบัญชีม้า ซึ่งรับจ้างเปิดบัญชีแก่กลุ่มมิจฉาชีพให้นำไปใช้ก่อเหตุ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ดำเนินคดีกับกลุ่มบัญชีม้าดังกล่าวในฐานความผิด "สนับสนุนการกระทำความผิดในความผิดฐานฟอกเงิน" ไปแล้วก่อนหน้านี้
นอกจากนี้ การขยายผลเส้นทางการเงิน พบความเชื่อมโยงไปยังบุคคลต่าง ๆ อีกหลายคน ทั้งในส่วนของบุคคลผู้ทำหน้าที่ตระเวนกดเงิน รับผลประโยชน์จากบัญชีผู้ต้องหา อีกทั้งพบพยานหลักฐานและพฤติการณ์ของกลุ่มที่เป็นนายหน้าจ้างให้เปิดบัญชีเพื่อนำมาใช้ในการปกปิด อำพราง ธุรกรรมทางการเงินและทรัพย์สิน เมื่อเจ้าหน้าที่ได้ตรวจสอบทรัพย์สินของบุคคลที่เกี่ยวข้องเพิ่มเติม ยังพบว่า มีอยู่ในการครอบครองอีกหลายรายการ อันน่าเชื่อว่าเป็น "ทรัพย์สินที่เกี่ยวกับการกระทำความผิด" ตาม พ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน เจ้าหน้าที่ตำรวจชจึงได้ขออนุมัติหมายค้นจากศาลอาญาเข้าตรวจค้น 7 จุด
อย่างไรก็ตาม หากเจ้าของทรัพย์สินไม่สามารถชี้แจงได้ ถือว่าเข้าข่ายในส่วนของความผิดฐาน "ร่วมกันฟอกเงินหรือร่วมกันสนับสนุนฟอกเงิน" และนำทรัพย์สินที่ไม่สามารถชี้แจงได้ หรือทรัพย์สินที่ได้มาจากการกระทำความผิดเหล่านั้นนำขายทอดตลาด เพื่อมุ่งหวังนำเงินมาคืนให้แก่กลุ่มผู้เสียหายที่ได้รับความเดือดร้อน