เมื่อวันที่ 23 มี.ค.2566 โซว จือ โจว ผู้บริหารของ TikTok เข้าให้การต่อคณะกรรมาธิการพลังงานและพาณิชย์ สภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ หลังจากนักการเมืองในสหรัฐฯ จำนวนมาก แสดงความกังวลถึงความเป็นไปได้ที่ทางการจีนจะเข้าถึงข้อมูลที่แอปพลิเคชันดังกล่าวเก็บรวบรวมจากผู้ใช้งาน
บรรยากาศระหว่างการเข้าให้การครั้งนี้เป็นไปด้วยความตึงเครียด ท่ามกลางคำถามที่ดุเดือดจากบรรดา ส.ส. สหรัฐฯ ถึงการเก็บข้อมูลมหาศาลของ TikTok ซึ่งมีผู้ใช้งานในสหรัฐฯ มากกว่า 150 ล้านคน เนื่องจากบริษัทที่เป็นเจ้าของ TikTok คือ ไบท์แดนซ์ ตั้งอยู่ในจีนแผ่นดินใหญ่ และอาจกลายเป็นช่องทางให้รัฐบาลจีนเข้าถึงข้อมูลอ่อนไหวได้
ผู้บริหาร TikTok ยืนยันว่า ไบท์แดนซ์ไม่ได้สอดแนมข้อมูลชาวอเมริกันตามคำสั่งของรัฐบาลจีน
ข้อมูลของผู้ใช้งานในสหรัฐฯ ถูกจัดเก็บไว้ในแผ่นดินสหรัฐฯ โดยบริษัทในสหรัฐฯ ที่ดูแลโดยบุคลากรในสหรัฐฯ เอง
หลังจากทางบริษัทได้ดำเนินมาตรการเพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลผู้ใช้งานในสหรัฐฯ จากต่างประเทศมาเป็นเวลากว่า 2 ปี ซึ่งทางบริษัทได้ลงทุนเป็นเงินกว่า 1,500 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลดังกล่าว
นอกจากนี้ ส.ส. สหรัฐฯ ยังตั้งคำถามถึงผลกระทบต่อสุขภาพจิต โดยเฉพาะในกลุ่มผู้ใช้งานที่อายุน้อย หลังจากเมื่อปีที่แล้วเกิดกรณีเด็กชายวัย 16 ปี จบชีวิตตัวเองด้วยการให้รถไฟชน ซึ่งพ่อแม่ของผู้เสียชีวิตได้ฟ้องร้องบริษัทไบท์แดนซ์ ที่เป็นเจ้าของ TikTok โดยระบุว่า ผู้เสียชีวิตได้รับชมเนื้อหาที่เกี่ยวข้องกับการฆ่าตัวตาย ซึ่งเป็นการพุ่งเป้าป้อนข้อมูลโดยแอปพลิเคชันดังกล่าว
ขณะที่นักการเมืองบางส่วนวิจารณ์ว่า TikTok ออกแบบแอปพลิเคชันให้ผู้ใช้งานที่เป็นเยาวชนเสพติดการใช้งานอย่างหนัก และยังนำเสนอเนื้อหาที่สนับสนุนให้เกิดพฤติกรรมการกินที่ผิดปกติ การขายยาผิดกฎหมายและการแสวงหาประโยชน์ทางเพศ
ความเคลื่อนไหวเหล่านี้เกิดขึ้นหลังจากเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว TikTok เปิดเผยว่า รัฐบาลสหรัฐฯ เรียกร้องให้บริษัทที่เป็นเจ้าของกิจการในจีน ขาย TikTok เพื่อเลี่ยงการถูกสั่งห้ามใช้งานแอปฯ นี้ในสหรัฐฯ ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ของจีน ออกมาระบุว่า การบีบบังคับให้ขายกิจการแอปฯ ดังกล่าว จะทำลายความเชื่อมั่นของนักลงทุนจากทั่วโลกต่อการลงทุนในสหรัฐฯ รวมถึงนักลงทุนจากจีนด้วยและจีนคัดค้านการขายกิจการใด ๆ
ขณะที่สภาคองเกรสและผู้นำสหรัฐฯ กำลังพิจารณาที่จะสั่งห้ามใช้งาน TikTok เนื่องจากกังวลเกี่ยวกับประเด็นด้านความมั่นคง หลังจากเชื่อว่า บริษัทผู้ให้บริการสามารถส่งข้อมูลของผู้ใช้งานชาวอเมริกันไปให้กับรัฐบาลจีนได้ ซึ่งทางการสหรัฐฯ สั่งห้ามใช้งานแอปพลิเคชันนี้ในอุปกรณ์ของเจ้าหน้าที่หน่วยงานรัฐแล้ว
ขณะที่กลุ่มผู้ใช้งาน TikTok ออกมารวมตัวกันบริเวณด้านหน้าอาคารรัฐสภาสหรัฐฯ ในกรุงวอชิงตัน ดีซี เพื่อแสดงพลังคัดค้านการจำกัดการใช้งานแอปพลิเคชันนี้
กลุ่มผู้ประท้วง ระบุว่า แอปพลิเคชันดังกล่าวไม่ได้เก็บข้อมูลส่วนตัวไปมากกว่าแอปพลิเคชันอื่น ๆ และสมาชิกสภาคองเกรสควรหันมาทำงาน เพื่อยกระดับกฎหมายความเป็นส่วนตัวแทนที่จะห้ามประชาชนใช้งานแอปฯ
นอกจากนี้ ผู้ใช้งานที่ออกมารวมตัวประท้วง ยังพยายามชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ของ TikTok ต่อการใช้ชีวิตและการทำธุรกิจต่างๆ เนื่องจากทำให้สามารถเข้าถึงกลุ่มลูกค้าได้เป็นวงกว้าง
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง
"ชาวอเมริกัน" ประท้วงหน้ารัฐสภาต่อต้านจำกัดใช้งาน TikTok
"นิวซีแลนด์" ห่วงความปลอดภัยห้ามใช้ TikTok บนอุปกรณ์ของรัฐ