วันนี้ (24 พ.ย.2565) นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม ติดตามความคืบหน้าการแก้ปัญหาความแออัดของผู้โดยสารที่ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยเฉพาะจุดตรวจคนเข้าเมือง ก่อนหน้านี้ รมว.คมนาคม ระบุว่าจะต้องเร่งแก้ปัญหาในระยะเร่งด่วนภายใน 15 วัน ล่าสุดพบว่าแม้จะแก้ปัญหาเรื่องความแออัดของผู้โดยสารขาเข้าที่ด่านตรวจคนเข้าเมืองได้ แต่ขณะนี้มีปัญหาผู้โดยสารรอกระเป๋าสัมภาระนาน
รมว.คมนาคม กล่าวว่า ขณะนี้การแก้ปัญหาเรื่องความแออัดสามารถทำได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ผู้โดยสารใช้เวลารอคิวเพื่อตรวจหนังสือเดินทางเฉลี่ย 15 นาทีต่อคน และใช้เวลาหน้าจุดตรวจหนังสือเดินทาง 1 นาทีต่อคน ขณะนี้สามารถรองรับผู้โดยสารขาเข้าจำนวน 3,000 คนได้ภายใน 20 นาที
นอกจากนี้ยังระบุว่า ขณะนี้ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิยังพบปัญหาเรื่องการรอรับกระเป๋าสัมภาระล่าช้า เนื่องจากปัจจุบันบริษัทผู้ให้บริการภาคพื้นประสบปัญหาขาดแคลนบุคลากรและอุปกรณ์ ทำให้การบริการขนถ่ายกระเป๋าสัมภาระขาเข้ามีความล่าช้าในบางเที่ยวบิน จึงได้สั่งการให้ปลัดกระทรวงคมนาคมหารือกับบริษัทผู้ให้บริการในสัปดาหน้า หากไม่สามารถแก้ปัญหาได้จะหาผู้ให้บริการรายใหม่แทน
กรณีการเพิ่มจำนวนบุคลากรของด่านตรวจคนเข้าเมือง รมว.คมนาคม ยอมรับว่า การแก้ปัญหาเบื้องต้นใช้วิธีนำเจ้าหน้าที่หมุนเวียนภายในก่อน ซึ่งได้นำปัญหาเสนอนายกรัฐมนตรีและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติแล้ว
ส่วนปัญหาความคับคั่งในการใช้บริการรถแท็กซี่สาธารณะ ปัจุบันมีจำนวนผู้ขับขี่รถแท็กซี่สาธารณะที่เป็นสมาชิกของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอยู่ประมาณ 2,400 คัน ลดลงจากช่วงก่อนเกิดโควิด-19 ที่มีผู้ขับขี่รถแท็กซี่สาธารณะที่เป็นสมาชิกประมาณ 4,200 คัน แต่ยืนยันว่าจำนวนรถแท็กซี่ที่มีอยู่ในปัจจุบันถือว่าเพียงพอต่อการให้บริการ เนื่องจากขณะนี้ตัวเลขผู้ใช้บริการยังน้อยกว่าช่วงก่อนโควิด-19 ระบาด
อย่างไรก็ตาม จากการแก้ปัญหาความแออัดผู้โดยสารในระยะเร่งด่วน ปัจจุบันผู้โดยสารใช้เวลาตั้งแต่ลงเครื่อง รับสัมภาระกระเป๋า จนออกจากท่าอากาศยาน มีระยะเวลาเฉลี่ยในกระบวนการขาเข้าระหว่างประเทศ ประมาณ 40 นาทีต่อผู้โดยสาร 1 คน ถือว่าภาพรวมทุกกระบวนการมีความคล่องตัวขึ้น จากการคาดการณ์ปริมาณผู้โดยสารในช่วงเดือน ธ.ค.2565 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิจะมีผู้โดยสารระหว่างประเทศและภายในประเทศ รวมประมาณ 130,000 คนต่อวัน เพิ่มขึ้นร้อยละ 13 จากเดือน พ.ย.2565 ที่มีผู้โดยสารรวมประมาณ 115,000 คนต่อวัน