ความคืบหน้าการจับผู้ลักลอบค้าลูกเสือโคร่ง 4 ตัว ลูกเสือโคร่ง อายุประมาณ 2 เดือน 4 ตัว เป็นตัวผู้ 2 ตัว และตัวเมีย 2 ตัว
วันนี้ (16 พ.ย.2565) นายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ผอ.สำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 9 (อุบลราชธานี) ให้สัมภาษณ์ไทยพีบีเอสออนไลน์ว่า ขณะนี้ได้นำลูกเสือทั้ง 4 ตัวมาดูแลที่ สบอ.9 อุบลราชธานี โดยสัตวแพทย์ได้เก็บเลือด และตรวจหาเชื้อโรคในลูกเสือแล้ว เบื้องต้นลูกเสือทั้ง 4 ตัวยังแข็งแรง แต่ต้องอนุบาลให้ดีก่อนที่จะส่งไปดูแลต่อสถานีเพาะเลี้ยงสัตว์ป่าจุฬาภรณ์ จ.ศรีสะเกษ
รวมทั้งต้องตรวจสอบดีเอ็นเอ เพื่อหาแหล่งที่มาของลูกเสือ เรื่องนี้ยอมรับว่าต้องใช้งบค่อนข้างสูงในการตรวจเทียบดีเอ็นเอเสือในกรงเลี้ยงนับร้อยตัว
ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
พบผู้ต้องหาข้ามชายแดนไทย-ลาว
นายชัยวัฒน์ กล่าวอีกว่า จากการขยายผลตรวจสอบผู้ต้องหาที่ไม่มีการซัดทอดหรือให้ข้อมูลเรื่องนี้ โดยอ้างว่าจะซื้อลูกเสือมาเลี้ยง แต่ล่าสุดกรมอุทยานฯ ประสานตรวจสอบเส้นทางกับด่านตรวจคนเข้าเมือง (ตม.) พบหลักฐานกล้องวงจรปิด และการขออนุญาตขอเดินทางผ่านชายแดนไทย-ลาวจริง
พบว่าผู้ต้องหามีการเดินทางไปฝั่งลาว ตรวจกล้องวงจรปิดและด่าน ตม.ให้มาหมดแล้ว พบมีการข้ามไปจริงมีตัวตนแต่จริงๆ และไปกับคนเวียดนาม รวมทั้งการเบิกจ่ายเงินจากธนาคาร ตรงนี้จะใช้เป็นหลักฐานทางคดี
ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
เปิดเส้นทางค้าลูกเสือ-ส่งตุ๋นยาจีน
ส่วนเส้นทางการลักลอบค้าลูกเสือโคร่ง นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า ที่ผ่านมา สบอ.9 ติดตามคดีเสือในฟาร์มเลี้ยงในพื้นที่ภาคอีสานมาต่อเนื่อง จนสามารถแกะรอยว่ามีขบวนการแอบเพาะลูกเสือโคร่งจากฟาร์มแห่งหนึ่งในเครือข่ายภาคอีสาน และแอบลักลอบขนส่งทางเรือซุกไปการค้าหมูเถื่อนข้ามแม่น้ำโขง ไปทางแขวงสะหวันนะเขต ประเทศลาว
ซึ่งมีชายแดนติดกับมุกดาหาร นครพนม อำนาจเจริญและอุบลราชธานี เพื่อส่งไปยังฟาร์มในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน มีการเลี้ยงลูกเสือทีละ 10-20 ตัว บางส่วนจะนำไปขายเพื่อเลี้ยง และบางส่วนถูกขายเพื่อนำไปทำเสือตุ๋นยาจีนขายให้กับกลุ่มคนจีนและชาวเวียดนาม
ไม่คิดว่าจะเอาไปเลี้ยงเหมือนการที่ผ่านมา แต่เอาไปตุ่นยาจีน เป็นฟาร์มเลี้ยงลูกเสือเล็กๆ เฉพาะทำยาจีน วิธีการเขาจะใช้การชั่งน้ำหนัก ราคาตัวละ 100,000-200,000 บาท ปลายทางประเทศที่ 3
ผอ.สบอ.9 กล่าวอีกว่า สำหรับคดีจับลูกเสือโคร่ง 4 ตัวถือเป็นผลงานของ บก.ปทส.ที่สืบสวนและเกาะติดมาสักระยะหนึ่ง โดยบูรณาการร่วมกับกรมอุทยาน สอบสวนและขยายผลเพิ่มเติม
ขณะที่ไทยพีบีเอสออนไลน์ ได้รับการยืนยันว่ามีคลิปที่แอบถ่ายจากฟาร์มแห่งหนึ่งในฝั่งประเทศเพื่อนบ้าน เป็นฟาร์มในบ้านที่เลี้ยงเฉพาะลูกเสือเท่านั้น พบว่าในคลิปมีลูกเสือ 8 ตัวขนาดไม่แตกต่างกัน มีคนงานกำลังป้อนมจากขวดนม
อ่านข่าวเพิ่ม เปิดเส้นทาง "ค้า" เสือโคร่งข้ามชาติ
งัดหลักฐานเลี้ยงลูกเสือโคร่งในบ้าน
ทั้งนี้แหล่งข่าวระบุว่าเป็นคลิปที่ได้จากสายสืบที่ไปเจรจาขอซื้อลูกเสือ เพื่ออ้างว่าจะนำมาเลี้ยง ซึ่งราคาขายจะใช้การชั่งน้ำหนัก 2.5-3.5 กิโลกรัม เพื่อให้มีตัวขนาดพอใส่ในหม้อตุ่นยาจีน โดยราคาลูกเสือตัวผู้จะมีราคาแพงกว่าตัวเมีย 2 เท่า เพราะมีตัวเดียวอันเดียวของเสือ
เคยได้ยินลูกเสือตุ่นยาจีน พอมาเห็นคลิปที่ได้จากฟาร์มแห่งนี้แล้ว เชื่อมีขบวนการแบบนี้ คือเอาลูกเสือที่คลอดแล้วส่งออกไปทันที เลี้ยงในบ้านพอได้ขนาด น้ำหนักพอดี ตัวผู้จะแพงกว่าตัวเมีย 250,000-300,000 บาทต่อตัวเพราะมีตัวเดียวอันเดียว
อ่านข่าวเพิ่ม รวบแก๊งค้าสัตว์ป่าข้ามชาติ ยึด "ลูกเสือโคร่ง" 4 ตัว
ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
ประสานลาวแกะรอยพ่อค้าเสือ-ฟาร์มเลี้ยง
ด้านพ.ต.อ.ธณัชชนม์ เก่งกสิกิจ ผกก.กก.3 บก.ปทส. กล่าวว่า ขณะนี้อยู่ระหว่างขยายผลถึงผู้ที่ส่งลูกเสือโคร่งมาจากฝั่งลาว เบื้องต้นรู้ชื่อแล้ว คาดว่าเป็นชาวเวียดนาม โดยประสานลาวตรวจสอบภาพโปรไฟล์ในแอปพลิเคชันไลน์ที่มีการพูดคุยกับผู้ต้องหา เพื่อยืนยันตัวตนคนส่งเสือโคร่ง เนื่องจากไม่ได้ข้ามมาส่งเสือในฝั่งไทย รวมทั้งติดตามฟาร์มต้นทางของลูกเสือ
ผกก.กก.3 บก.ปทส. กล่าวว่า ได้ล่อซื้อลูกเสือโคร่งมาตั้งแต่ช่วงกลางปี ต่อมาวันที่ 26 ก.ย.มีการนัดหมายเจรจาที่ จ.หนองคาย ได้ตกลงรายละเอียด ราคา และการส่งลูกเสือ แต่ผู้ต้องหาได้เลื่อนการส่งมอบ โดยขอล่อซื้อทั้งหมด 2 ตัว แต่ผู้ต้องหาเสนอขาย 4 ตัวถึงส่งมอบได้ กระทั่งถูกจับกุมได้เมื่อวันที่ 15 พ.ย.ที่ผ่านมา ซึ่งผู้ต้องหาระบุว่า ลูกเสือโคร่งล็อตนี้มาจากลาว
พฤติการณ์ผู้ต้องหาเป็นคนกลางในการหาลูกเสือมาขายตามความต้องการของลูกค้า โดยแรก ๆ บอกว่านำมาจากฟาร์มในไทย แต่ไม่แน่ใจว่าหาไม่ได้ หรือฟาร์มไม่ขาย จึงนำเข้าจากลาว ซึ่งตรวจสอบข้อมูลโทรศัพท์พบว่าผู้ต้องหาเดินทางไปลาวจริง และอยู่ระหว่างเช็กภาพจากกล้องวงจรปิดและตรวจสอบข้อมูลจากด่าน ตม.มุกดาหาร ที่ผู้ต้องหาอ้างว่าใช้เส้นทางดังกล่าว
เขาอ้างว่าตอนแรกหาลูกเสือในไทยได้ แต่ไม่เปิดเผยสถานที่ แต่ล่าสุดบอกว่าพ่อค้าเวียดนามมีเสือที่ลาว ซึ่งลาวมีฟาร์มเสืออยู่ แต่ไม่แน่ใจว่าลูกเสือของกลางมาจากฟาร์มเสือจากไทยแล้วส่งกลับมา หรือมาจากฟาร์มในลาวจริง ๆ
ผกก.กก.3 บก.ปทส. กล่าวว่า ผู้ต้องหาอ้างว่าเพิ่งนำเข้าลูกเสือเป็นครั้งแรกโดยจะนำไปเลี้ยง แต่ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ เพราะการสืบสวนสอบสวนพบว่าเป็นพ่อค้าคนกลางหาไม้พะยูง และสัตว์ป่ามาขาย จึงนำไปสู่การล่อซื้อในครั้งนี้
จริงๆ เขาเอามาขายต่อกับเราอยู่แล้ว ระหว่างเขากับชาวเวียดนามจะเป็นหุ้นส่วนหรือมัดจำอย่างไรไม่รู้ แต่ที่บอกว่าเอาไปเลี้ยงน่าจะเป็นการหาช่องเลี่ยงผิดฐานค้าสัตว์ป่า ใครจะเอาเสือไปเลี้ยงตั้ง 4 ตัว เป็นไปไม่ได้ บ้านช่องไม่ใช่ฟาร์ม
ภาพ:กรมอุทยานแห่งชาติสัตว์ป่าและพันธุ์พืช
อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง