วันนี้ (25 ก.พ.2565) ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองอำนวยการน้ำแห่งชาติ (กอนช.) ออกประกาศฉบับที่ 3/2565 เรื่อง เฝ้าระวังน้ำเอ่อล้นตลิ่งท่วมขังพื้นที่ลุ่มต่ำบริเวณแม่น้ำสายบุรี และแม่น้ำโก-ลก ทั้งนี้ตามประกาศกรมอุตุนิยมวิทยา คาดการณ์ว่าหย่อมความกดอากาศต่ำกำลังแรง มีแนวโน้มจะเคลื่อนเข้าปกคลุมประเทศมาเลเซีย และภาคใต้ตอนล่างของไทย กอนช.ประเมินและวิเคราะห์สถานการณ์น้ำจากฝนคาดการณ์ (ONE MAP) ของกรมอุตุนิยมวิทยา และสถาบันสารสนเทศทรัพยากรน้ำ พบว่าพื้นที่จ.ยะลา ปัตตานี และนราธิวาส มีปริมาณฝนตกหนัก มากกว่า 150 มิลลิเมตร
โดยเฉพาะพื้นที่บริเวณแม่น้ำสายบุรีและแม่น้ำโก-ลก จ.นราธิวาส ทำให้มีปริมาณน้ำสะสมไหลลงแม่น้ำมากขึ้น จึงเฝ้าระวังระดับน้ำที่จะเพิ่มขึ้น เสี่ยงน้ำล้นสูงกว่าตลิ่งไหลเข้าท่วมพื้นที่ลุ่มต่ำในอ.บันนังสตา อ.รามัน จ.ยะลา อ.สายบุรี อ.ยะรัง จ.ปัตตานี และอ.แว้ง อ.สุคิริน อ.ศรีสาคร อ.สุไหงปาดี อ.ตากใบ อ.รือเสาะ อ.จะแนะ อ.สุไหงโก-ลก จ.นราธิวาส ในช่วงวันที่ 25–28 ก.พ.นี้

ภาพ:ปภ.นราธิวาส
ภาพ:ปภ.นราธิวาส
กอนช.ขอให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมพร้อมรับมือ โดยปรับแผนบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ให้เหมาะสมและสอดคล้องกับสถานการณ์น้ำ พิจารณาความเหมาะสมในการระบายน้ำในลำน้ำ แม่น้ำให้สอดคล้องกับการขึ้นลงของระดับน้ำทะเล ตรวจสอบความมั่นคงแข็งแรงแนวคันบริเวณริมแม่น้ำ การเตรียมความพร้อมรับน้ำหลากป้องกันน้ำท่วมให้สามารถใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ ประชาสัมพันธ์แจ้งเตือนล่วงหน้าให้ประชาชนที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบ เตรียมพร้อมในการอพยพ

ภาพ:ปภ.นราธิวาส
ภาพ:ปภ.นราธิวาส
ขณะที่ทวิตเตอร์ กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) นราธิวาส รายงานเกิดอุทกภัยในพื้นที่หมู่ที่ 1 บ้านยะออ ต.จะแนะ อ.จะแนะ จ.นราธิวาส ส่งผลให้ประชาชนในพื้นที่ได้รับผลกระทบ 210 ครัวเรือน 980 คน เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องเข้าให้การช่วยเหลือ
รวมทั้งพื้นที่บ้านนูโร๊ะ ม.1 ต.โละจูด และ ม.1 ต.แว้ง อ.แว้ง จ.นราธิวาส เกิดน้ำท่วมแล้ว ให้มีผู้ประสบภัย 319 คน 76 ครัวเรือน ซึ่งอ.แว้งได้เข้าให้การช่วยเหลือในเบื้องต้น
วันนี้ (25ก.พ.65) #ปภ #นราธิวาส ร่วมกับ อ.แว้ง ลงพื้นที่บ.นูโร๊ะ ม.1 ต.โละจูด และม.1 ต.แว้ง อ.แว้ง จ.นราธิวาส ซึ่งเป็นพื้นที่รับผลกระทบจากเหตุอุทกภัยเมื่อคืนที่ผ่านมา (24 ก.พ. 65) ส่งผลให้มีผู้ประสบภัย 319 คน 76 ครัวเรือน ซึ่ง อ.แว้งได้เข้าให้การช่วยเหลือในเบื้องต้นแล้ว #น้ำท่วม pic.twitter.com/wVIq1aLblp
— กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย (ปภ.) (@DDPMNews) February 25, 2022