ค้นหา
ทีวีออนไลน์
เว็บไซต์ในเครือ
เว็บไซต์บริการ
ยินดีที่ได้รู้จัก
1 มี.ค. 68

ชีวิตริมถนนที่หินกอง : เรื่องราวเบื้องหลังทางผ่านที่หลายคนอาจไม่เคยรู้

เปอร์-สุวิกรม พาผู้ชมไปสำรวจเรื่องราวของผู้คนในตำบลหินกอง จังหวัดสระบุรี พื้นที่ริมถนนพหลโยธินที่หลายคนอาจเคยผ่านแต่ไม่เคยรู้จักจริงๆ โดยชื่อ "หินกอง" มีที่มาจากสมัยรัชกาลที่ 2 ที่มีพระราชดำริให้สร้างอุทยานในพระบรมมหาราชวัง จึงมีการนำหินมาใช้ แต่ก็มีหินเหลือ จึงถูกนำมากองไว้ในหลายพื้นที่ รวมถึงสระบุรี จนกลายเป็นชื่อเรียกพื้นที่นี้ว่า "หินกอง"

การเดินทางเริ่มต้นด้วยการพบกับพี่น้อย พนักงานกรมทางหลวงที่ทำหน้าที่ตัดหญ้า แซะดิน ริมถนน เธอเล่าถึงชีวิตที่ผ่านมาว่าเคยทำงานในโรงงานถึง 10 แห่ง แต่ก็อยู่ไม่ได้เนื่องจากตื่นไม่ทันกะการทำงาน สาเหตุส่วนหนึ่งเพราะชอบดื่มเหล้า ปัจจุบันเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวอยู่กับลูกสองคนหลังจากสามีเสียชีวิต แม้จะเป็นงานที่หนัก แต่พี่น้อยบอกว่ามีความสุขทุกวัน ไม่เคยเครียด

ต่อมาได้พบกับพี่ตุ๋ย เพื่อนร่วมงานของพี่น้อย ผู้ที่เคยประสบอุบัติเหตุถูกรถสิบล้อทับจนไม่สามารถเดินได้นานถึง 2 ปี 5 เดือน เขาเล่าถึงอันตรายของการทำงานริมถนน ที่ต้องมีรถยนต์และกรวยไฟมาบังไว้เพื่อความปลอดภัย แต่ด้วยจำนวนคนงานที่น้อย ทำให้การป้องกันไม่เพียงพอ หลังจากหายดี เขากลับมาทำงานเพราะต้องการรายได้มาเลี้ยงลูก และมองว่าความสุขของเขาคือการได้ทำงาน

เรื่องราวต่อมาพาผู้ชมไปรู้จักกับตำนานของหินกอง ผ่านมุมมองของเฮียเหลียง ผู้ใช้ชีวิตอยู่ที่หินกองมานานถึง 70 ปี ครอบครัวของเขาเคยทำโรงสีและร้านทอง และในปัจจุบันเป็นเจ้าของตลาดท้องถิ่นที่ห้วยทราย เก็บค่าเช่าแผงละ 20 บาท เฮียเหลียงมองว่าแม้หินกองจะเงียบลงกว่าแต่ก่อน แต่ธุรกิจใดก็ล้วนมีโอกาสสำเร็จได้หากมีความพยายาม ไม่เพียงเท่านั้น เปอร์ยังได้พบกับลุงชัย เพื่อนของเฮียเหลียง และร่วมพูดคุยเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในวัยชรา ทั้งคู่เผยว่าความสุขของคนวัยเกษียณคือการได้เห็นความสำเร็จของลูกหลาน เปรียบเสมือนการได้ชม "หนังซีรีส์ที่ยาวที่สุด" คือชีวิตของลูกหลานนั่นเอง

จุดหมายสำคัญในการเดินทางครั้งนี้คือการไปเยี่ยมบ้านเกิดของคนดังอย่าง "แจ็ค แฟนฉัน" ดาราตลกชื่อดัง ซึ่งมีบ้านอยู่ที่หินกอง เปอร์พบกับพี่ปุ๊ก ซึ่งเป็นเจ้าของร้านอาหารและเป็นเพื่อนกับแจ็คมาตั้งแต่เด็ก พี่ปุ๊กเล่าว่าเธอเคยไปเปิดร้านอาหารที่รัสเซีย แต่ประสบความล้มเหลว จึงตัดสินใจกลับมาที่บ้านเกิดที่หินกอง และเริ่มต้นธุรกิจเล็กๆ จากการขายขนมชิ้นละ 10 บาท จนสามารถขยายกิจการมาได้ พี่ปุ๊กเล่าว่าแจ็คเคยเป็น "จิ๊กโก๋" ในย่านหินกอง มีหน้าที่วิ่งซื้อน้ำแข็งให้กับเพื่อนๆ ก่อนจะมีโอกาสได้ไปเป็นนักแสดง และแม้ปัจจุบันแจ็คจะมีชื่อเสียงแล้ว แต่ก็ยังระลึกถึงบ้านเกิด จนถึงขั้นซื้อบ้านและปรับปรุงเพื่อให้แม่มาพักผ่อน แต่ด้วยภาระงานและการดูแลครอบครัว ทำให้แจ็คแทบไม่มีเวลากลับมา ระหว่างการเดินสำรวจ เปอร์ยังได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของหินกอง ผ่านตลาดท้องถิ่นของเฮียเหลียง ที่มีร้านขายข้าวต้มมัดสามสีที่มีชื่อเสียง และเป็นแหล่งรวมผักพื้นบ้านที่ชาวบ้านปลูกเองและนำมาขาย

พี่ปุ๊กกล่าวสรุปถึงการกลับมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิดว่า แม้จะไม่มีทรัพยากรมากมายทั้งเงินทุนและกำลังคน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดเมื่อกลับมาอยู่บ้านเกิดคือ "ทรัพยากรใจ" เมื่อได้รับกำลังใจที่ดี ก็มีแรงที่จะเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ และดีๆ ได้ พี่ปุ๊กยังมีความหวังว่าคนรุ่นเดียวกับเธอและรุ่นน้อง รวมถึงแจ็ค จะกลับมาที่บ้านเกิดมากขึ้น เพื่อสร้างเศรษฐกิจใหม่ให้กับหินกอง

นอกจากนี้ ยังมีการเล่าถึงการเปลี่ยนแปลงของหินกองที่เกิดจากการพัฒนาถนน จากที่เคยเจริญรุ่งเรืองในฐานะ "ประตู 4 ภาค" ที่เป็นจุดแยกไปได้ทั้งภาคเหนือ ใต้ ตะวันออก และตะวันตก แต่เมื่อมีการสร้างสะพานข้ามและถนนแปดเลน ทำให้พื้นที่ถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่ง และกลายเป็นเพียงทางผ่านสำหรับคนที่ขับรถไปมา ส่วนทางเฮียเหลียงและลุงชัยกล่าวว่า แม้หินกองจะเงียบลงกว่าแต่ก่อน แต่ก็ยังมีความหวังสำหรับอนาคต โดยเฉพาะเมื่อมีการตัดมอเตอร์เวย์ M6 ผ่านพื้นที่ ซึ่งอาจเป็นโอกาสให้หินกองกลับมาเป็นแหล่งเศรษฐกิจใหม่ได้อีกครั้ง ผ่านเรื่องราวของพี่น้อย พี่ตุ๋ย เฮียเหลียง ลุงชัย พี่ปุ๊ก และแจ็ค เราได้เห็นภาพชีวิตของผู้คนที่อาศัยอยู่ริมทางหลวงแห่งนี้ ที่แม้จะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แต่ยังคงมีความผูกพันและความทรงจำที่ดีต่อบ้านเกิด รวมถึงความหวังที่จะเห็นหินกองกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง

ติดตามชมได้ในรายการ ยินดีที่ได้รู้จัก วันเสาร์ที่ 1 มีนาคม 2568 เวลา 17.05 - 17.30 น. ทางไทยพีบีเอส รับชมออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/Live และรับชมยินดีที่ได้รู้จักฉบับ UNCUT ได้ที่ www.VIPA.me

หินกอง

1 มี.ค. 68

ชีวิตริมถนนที่หินกอง : เรื่องราวเบื้องหลังทางผ่านที่หลายคนอาจไม่เคยรู้

เปอร์-สุวิกรม พาผู้ชมไปสำรวจเรื่องราวของผู้คนในตำบลหินกอง จังหวัดสระบุรี พื้นที่ริมถนนพหลโยธินที่หลายคนอาจเคยผ่านแต่ไม่เคยรู้จักจริงๆ โดยชื่อ "หินกอง" มีที่มาจากสมัยรัชกาลที่ 2 ที่มีพระราชดำริให้สร้างอุทยานในพระบรมมหาราชวัง จึงมีการนำหินมาใช้ แต่ก็มีหินเหลือ จึงถูกนำมากองไว้ในหลายพื้นที่ รวมถึงสระบุรี จนกลายเป็นชื่อเรียกพื้นที่นี้ว่า "หินกอง"

การเดินทางเริ่มต้นด้วยการพบกับพี่น้อย พนักงานกรมทางหลวงที่ทำหน้าที่ตัดหญ้า แซะดิน ริมถนน เธอเล่าถึงชีวิตที่ผ่านมาว่าเคยทำงานในโรงงานถึง 10 แห่ง แต่ก็อยู่ไม่ได้เนื่องจากตื่นไม่ทันกะการทำงาน สาเหตุส่วนหนึ่งเพราะชอบดื่มเหล้า ปัจจุบันเป็นแม่เลี้ยงเดี่ยวอยู่กับลูกสองคนหลังจากสามีเสียชีวิต แม้จะเป็นงานที่หนัก แต่พี่น้อยบอกว่ามีความสุขทุกวัน ไม่เคยเครียด

ต่อมาได้พบกับพี่ตุ๋ย เพื่อนร่วมงานของพี่น้อย ผู้ที่เคยประสบอุบัติเหตุถูกรถสิบล้อทับจนไม่สามารถเดินได้นานถึง 2 ปี 5 เดือน เขาเล่าถึงอันตรายของการทำงานริมถนน ที่ต้องมีรถยนต์และกรวยไฟมาบังไว้เพื่อความปลอดภัย แต่ด้วยจำนวนคนงานที่น้อย ทำให้การป้องกันไม่เพียงพอ หลังจากหายดี เขากลับมาทำงานเพราะต้องการรายได้มาเลี้ยงลูก และมองว่าความสุขของเขาคือการได้ทำงาน

เรื่องราวต่อมาพาผู้ชมไปรู้จักกับตำนานของหินกอง ผ่านมุมมองของเฮียเหลียง ผู้ใช้ชีวิตอยู่ที่หินกองมานานถึง 70 ปี ครอบครัวของเขาเคยทำโรงสีและร้านทอง และในปัจจุบันเป็นเจ้าของตลาดท้องถิ่นที่ห้วยทราย เก็บค่าเช่าแผงละ 20 บาท เฮียเหลียงมองว่าแม้หินกองจะเงียบลงกว่าแต่ก่อน แต่ธุรกิจใดก็ล้วนมีโอกาสสำเร็จได้หากมีความพยายาม ไม่เพียงเท่านั้น เปอร์ยังได้พบกับลุงชัย เพื่อนของเฮียเหลียง และร่วมพูดคุยเกี่ยวกับการใช้ชีวิตในวัยชรา ทั้งคู่เผยว่าความสุขของคนวัยเกษียณคือการได้เห็นความสำเร็จของลูกหลาน เปรียบเสมือนการได้ชม "หนังซีรีส์ที่ยาวที่สุด" คือชีวิตของลูกหลานนั่นเอง

จุดหมายสำคัญในการเดินทางครั้งนี้คือการไปเยี่ยมบ้านเกิดของคนดังอย่าง "แจ็ค แฟนฉัน" ดาราตลกชื่อดัง ซึ่งมีบ้านอยู่ที่หินกอง เปอร์พบกับพี่ปุ๊ก ซึ่งเป็นเจ้าของร้านอาหารและเป็นเพื่อนกับแจ็คมาตั้งแต่เด็ก พี่ปุ๊กเล่าว่าเธอเคยไปเปิดร้านอาหารที่รัสเซีย แต่ประสบความล้มเหลว จึงตัดสินใจกลับมาที่บ้านเกิดที่หินกอง และเริ่มต้นธุรกิจเล็กๆ จากการขายขนมชิ้นละ 10 บาท จนสามารถขยายกิจการมาได้ พี่ปุ๊กเล่าว่าแจ็คเคยเป็น "จิ๊กโก๋" ในย่านหินกอง มีหน้าที่วิ่งซื้อน้ำแข็งให้กับเพื่อนๆ ก่อนจะมีโอกาสได้ไปเป็นนักแสดง และแม้ปัจจุบันแจ็คจะมีชื่อเสียงแล้ว แต่ก็ยังระลึกถึงบ้านเกิด จนถึงขั้นซื้อบ้านและปรับปรุงเพื่อให้แม่มาพักผ่อน แต่ด้วยภาระงานและการดูแลครอบครัว ทำให้แจ็คแทบไม่มีเวลากลับมา ระหว่างการเดินสำรวจ เปอร์ยังได้สัมผัสกับวิถีชีวิตของหินกอง ผ่านตลาดท้องถิ่นของเฮียเหลียง ที่มีร้านขายข้าวต้มมัดสามสีที่มีชื่อเสียง และเป็นแหล่งรวมผักพื้นบ้านที่ชาวบ้านปลูกเองและนำมาขาย

พี่ปุ๊กกล่าวสรุปถึงการกลับมาใช้ชีวิตที่บ้านเกิดว่า แม้จะไม่มีทรัพยากรมากมายทั้งเงินทุนและกำลังคน แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดเมื่อกลับมาอยู่บ้านเกิดคือ "ทรัพยากรใจ" เมื่อได้รับกำลังใจที่ดี ก็มีแรงที่จะเริ่มต้นสิ่งใหม่ๆ และดีๆ ได้ พี่ปุ๊กยังมีความหวังว่าคนรุ่นเดียวกับเธอและรุ่นน้อง รวมถึงแจ็ค จะกลับมาที่บ้านเกิดมากขึ้น เพื่อสร้างเศรษฐกิจใหม่ให้กับหินกอง

นอกจากนี้ ยังมีการเล่าถึงการเปลี่ยนแปลงของหินกองที่เกิดจากการพัฒนาถนน จากที่เคยเจริญรุ่งเรืองในฐานะ "ประตู 4 ภาค" ที่เป็นจุดแยกไปได้ทั้งภาคเหนือ ใต้ ตะวันออก และตะวันตก แต่เมื่อมีการสร้างสะพานข้ามและถนนแปดเลน ทำให้พื้นที่ถูกแบ่งออกเป็นสองฝั่ง และกลายเป็นเพียงทางผ่านสำหรับคนที่ขับรถไปมา ส่วนทางเฮียเหลียงและลุงชัยกล่าวว่า แม้หินกองจะเงียบลงกว่าแต่ก่อน แต่ก็ยังมีความหวังสำหรับอนาคต โดยเฉพาะเมื่อมีการตัดมอเตอร์เวย์ M6 ผ่านพื้นที่ ซึ่งอาจเป็นโอกาสให้หินกองกลับมาเป็นแหล่งเศรษฐกิจใหม่ได้อีกครั้ง ผ่านเรื่องราวของพี่น้อย พี่ตุ๋ย เฮียเหลียง ลุงชัย พี่ปุ๊ก และแจ็ค เราได้เห็นภาพชีวิตของผู้คนที่อาศัยอยู่ริมทางหลวงแห่งนี้ ที่แม้จะเปลี่ยนแปลงไปตามกาลเวลา แต่ยังคงมีความผูกพันและความทรงจำที่ดีต่อบ้านเกิด รวมถึงความหวังที่จะเห็นหินกองกลับมาเฟื่องฟูอีกครั้ง

ติดตามชมได้ในรายการ ยินดีที่ได้รู้จัก วันเสาร์ที่ 1 มีนาคม 2568 เวลา 17.05 - 17.30 น. ทางไทยพีบีเอส รับชมออนไลน์ทาง www.thaipbs.or.th/Live และรับชมยินดีที่ได้รู้จักฉบับ UNCUT ได้ที่ www.VIPA.me

08:00

Journeys in Japan การท่องเที่ยวในญี่ปุ่น

30 นาที
23:00

ข่าวดึก

ละครดี ซีรีส์เด่น

ดูทั้งหมด
ละครบ้านชนะใจ

♫ ♫ Songs Popular ♫ ♫

ดูทั้งหมด

คลิปมาใหม่

คนดูเยอะ 👀

ดูทั้งหมด

เสน่ห์ประเทศไทย