13 ธันวาคม 2003 ซัดดัม ฮุสเซน อดีตประธานาธิบดีแห่งอิรัก ถูกจับกุมโดยกองทัพสหรัฐอเมริกา


ประวัติศาสตร์

13 ธ.ค. 66

Thai PBS Digital Media

Logo Thai PBS
แชร์

13 ธันวาคม 2003 ซัดดัม ฮุสเซน อดีตประธานาธิบดีแห่งอิรัก ถูกจับกุมโดยกองทัพสหรัฐอเมริกา

https://www.thaipbs.or.th/now/content/571

13 ธันวาคม 2003  ซัดดัม ฮุสเซน อดีตประธานาธิบดีแห่งอิรัก ถูกจับกุมโดยกองทัพสหรัฐอเมริกา
บริการเสริมจาก Thai PBS AI

13 ธันวาคม 2003 ซัดดัม ฮุสเซน อดีตประธานาธิบดีแห่งอิรัก ถูกจับกุมโดยกองทัพสหรัฐอเมริกา หลังจากที่ จอร์จ ดับเบิลยู บุช ประธานาธิบดีแห่งสหรัฐฯ ในขณะนั้น ประกาศทำสงครามกับอิรัก ด้วยข้อกล่าวหาว่า ซัดดัมมีอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูงไว้ในครอบครอง และปกครองประเทศอย่างโหดเหี้ยม แต่หลังจากจับตัวซัดดัมได้แล้ว กลับไม่พบอาวุธดังที่บุชกล่าวหาแต่อย่างใด 

ซัดดัม ฮุสเซน (Suddam Hussain) ประธานาธิบดีแห่งอิรักในขณะนั้น และเป็นผู้นำพรรคบะอัธ ซึ่งเป็นพรรคการเมืองหัวปฏิวัติของอิรักได้มีบทบาทสำคัญในการก่อรัฐประหารในปี 1968 โดยซัดดัมได้จัดตั้งกองกำลังรักษาความมั่นคงเพื่ออุดหนุนอำนาจของเขาในการควบคุมรัฐบาลอิรักไว้ ในช่วงคริสต์ทศวรรษ 1970 ราคาน้ำมันปิโตรเลียมที่พุ่งสูงขึ้นได้ช่วยให้เศรษฐกิจอิรักเติบโตขึ้นเป็นอย่างมากและในอัตราที่สม่ำเสมอ

ในฐานะประธานาธิบดี ซัดดัมได้พัฒนาลัทธินิยมตัวผู้นำอย่างบ้าคลั่ง ควบคู่กับปกครองอิรักอย่างกดขี่และโหดร้าย เป็นรัฐบาลเผด็จการกุมอำนาจไว้ได้ในช่วงสงครามอิรัก-อิหร่านระหว่างปี 1979-2003 แม้จะรอดพ้นจากการถูกโค่นอำนาจของกองกำลังผสมที่นำโดยสหรัฐฯ ในสงครามอ่าวเปอร์เซียปี 1990-1991 แต่เขาก็ถูกบีบให้ถอนกำลังทหารออกจากคูเวต และในช่วงสงครามอ่าวเปอร์เซียนี้เอง ทำให้อิรักทรุดโทรมทำลายทั้งมาตรฐานการครองชีพและสิทธิมนุษยชน รัฐบาลของซัดดัมได้จัดการกับการเคลื่อนไหวที่มีแนวโน้มเป็นภัยคุกคามโดยเฉพาะอย่างยิ่งจากพวกชนกลุ่มน้อย หรือกลุ่มทางศาสนาที่ต้องการเรียกร้องอิสรภาพหรือการปกครองตนเอง
ซัดดัม ฮุสเซน อดีตประธานาธิบดีแห่งอิรัก

ในระหว่างที่ซัดดัมยังคงเป็นวีรบุรุษที่ประชาชนชื่นชมโดดเด่นในหมู่ผู้นำอาหรับอื่น ๆ ในฐานะผู้ที่ลุกขึ้นต่อต้านสหรัฐฯ และให้การสนับสนุนปาเลสไตน์ภายหลังสงครามอ่าวเปอร์เซีย สหรัฐอเมริกาและชาติอื่น ๆ ในประชาคมโลกยังคงเฝ้าระวังจับตามองซัดดัมด้วยความหวาดระแวงว่า มีอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงไว้ในครอบครอง ปฏิบัติการทางทหารของสหรัฐฯ และพันธมิตร เปิดฉากขึ้นเมื่อ 20 มี.ค. 2003 โดยได้ยกทัพเข้าบุกอิรัก ซึ่งในเวลาต่อมากองทัพอิรักต้องเผชิญความปราชัย ภายในเวลาเพียง 3 สัปดาห์เท่านั้น ส่งผลให้ซัดดัมต้องหลบหนีการไล่ล่าได้เกือบ 9 เดือน

13 ธันวาคม 2003 ซัดดัม ฮุสเซน  ถูกจับกุมโดยกองทัพสหรัฐอเมริกาในขณะที่ซ่อนตัวอยู่ในหลุมขนาดเล็ก ในฟาร์มแห่งหนึ่งชานเมืองตีกรีต หลังจากที่จอร์จ ดับเบิลยู บุช ประกาศทำสงครามกับอิรักด้วยข้อกล่าวหาว่า ซัดดำมีอาวุธอานุภาพทำลายล้างสูงไว้ในครอบครองปกครองประเทศอย่างโหดเหี้ยม

หลังถูกจับ ซัดดัมขึ้นต่อสู้คดีในศาลพิเศษอิรักที่จัดตั้งขึ้นโดยรัฐบาลชั่วคราวของอิรัก กระทั่งวันที่ 30 มิถุนายน ค.ศ. 2004  ซัดดัมและสมาชิกระดับสูงของพรรคบะอัธอีก 11 คน ซึ่งในขณะนั้นอยู่ในความควบคุมของกองทัพสหรัฐฯ ได้ถูกส่งมอบทางอำนาจทางกฎหมายให้กับรัฐบาลชั่วคราวของอิรัก เพื่อนำตัวเข้ารับการไต่สวนในข้อหาก่ออาชญากรรมสงคราม อาชญากรรมต่อมนุษยชาติ และฆ่าล้างเผ่าพันธุ์

ซัดดัม ฮุสเซน ถูกศาลตัดสินว่ามีความผิด และถูกตัดสินประหารชีวิตโดยการแขวนคอ ในวันที่ 30 ธันวาคม 2006 ที่กรุงแบกแดด สถานีโทรทัศน์ของทางการอิรักถ่ายทอดภาพของอดีตผู้นำเผด็จการถูกนำตัวไปยังตะแลงแกงในช่วงก่อนรุ่งเช้าที่อาคารหลังหนึ่งซึ่งหน่วยข่าวกรองของเขาเคยใช้เป็นสถานที่ประหารชีวิตผู้คน ซัดดัมแสดงการขัดขืนครั้งสุดท้าย ด้วยการปฏิเสธการสวมผ้าคลุมศีรษะ

หลายฝ่ายวิเคราะห์ว่า แท้จริงแล้วสงครามครั้งนี้อเมริกาต้องการน้ำมันในตะวันออกกลาง ต้องการแสดงแสนยานุภาพทางการทหาร และต้องการโฆษณาอาวุธรุ่นใหม่ เพราะหลังจากจับตัวซัดดัมได้แล้ว ก็ไม่พบอาวุธที่มีอานุภาพทำลายล้างสูงดังที่บุชกล่าวหาแต่อย่างใด แต่ในทางกลับกันหลังโค่นซัดดัมแม้อเมริกาได้พยายามเข้าไปจัดการเลือกตั้งและยัดเยียดประชาธิปไตยให้อีรัก แต่ก็ยังเกิดเหตุระเบิดและลอบฆ่าอยู่ทุกวันจานถึงทุกวันนี้ ในสายตาชาวโลกจำนวนไม่น้อยมองว่า หากอเมริกาไม่เข้าไปก้าวก่าย อิรักอาจไม่ต้องพบชะตากรรมดังที่ผ่านมา เนื่องจากในช่วงเวลาที่อเมริกาบุกอิรัก เป็นเหตุให้มีชาวอิรักเสียชีวิตมากกว่า 1 ล้านคน

แท็กที่เกี่ยวข้อง

วันสำคัญวันนี้ในอดีตซัดดัม ฮุสเซน
ผู้เขียน: Thai PBS Digital Media

บทความ NOW แนะนำ

ข่าวล่าสุด