ทีมนักวิทยาศาสตร์นานาชาติระบุว่า ฟอสซิลที่มีอายุเก่าแก่ประมาณ 130 ล้านปี บ่งชี้ว่า “ยุงตัวผู้” น่าจะดูดเลือดกินเป็นอาหารในสมัยโบราณ
ปัจจุบันมีเพียงยุงตัวเมียเท่านั้นที่กินเลือดเป็นอาหาร โดยใช้ส่วนปากที่มีลักษณะแบบเจาะดูดกินเลือดของมนุษย์และสัตว์อื่น ๆ ซึ่งนักวิทยาศาสตร์เชื่อว่าการกินเลือดของแมลง (insect hematophagy) วิวัฒนาการมาจากส่วนปากแบบเจาะดูดซึ่งใช้สกัดของเหลวจากพืช ทว่าพบปัญหาในการศึกษาวิวัฒนาการนี้เนื่องจากขาดบันทึกฟอสซิลของแมลง
คณะนักวิทยาศาสตร์จากจีน เลบานอน ฝรั่งเศส และสหรัฐฯ พบว่าส่วนปากแบบเจาะดูดของยุงตัวผู้สองตัวที่มีร่างอยู่ในสภาพดี ในอำพันเลบานอนยุคครีเทเชียสตอนต้นจากเลบานอน มีกรามสามเหลี่ยมแหลมเป็นพิเศษและโครงสร้างยื่นยาว พร้อมด้วยเกล็ดที่มีลักษณะคล้ายฟันซี่เล็ก (denticles) ซึ่งบ่งชี้ว่าพวกมันดูดกินเลือด
การค้นพบใหม่ข้างต้นซึ่งเผยแพร่ออนไลน์ในวารสารเคอร์เรนต์ ไบโอโลจี (Current Biology) อาจส่งมอบหลักฐานชิ้นใหม่สำหรับการศึกษาวิวัฒนาการของยุง
ดานี อาซาร์ ผู้เชี่ยวชาญจากสถาบันธรณีวิทยาและบรรพชีวินวิทยาหนานจิง สังกัดสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน และมหาวิทยาลัยเลบานอน กล่าวว่า อำพันเลบานอน เป็นอำพันเก่าแก่ที่สุดซึ่งมีการปะปนทางชีวภาพอย่างเข้มข้น และเป็นวัสดุที่สำคัญมากเนื่องจาก การก่อตัวของมันเกิดขึ้นในสมัยเดียวกับจุดเริ่มต้นของการแผ่รังสีของพืชดอก ซึ่งตามมาด้วยวิวัฒนาการร่วมระหว่างแมลงผสมเกสรและพืชดอก
การค้นพบครั้งใหม่นี้ขยายขอบเขตการปรากฏขึ้นของตระกูลยุงไปจนถึงช่วงยุคครีเทเชียสตอนต้น ส่วนยุงตัวผู้ที่ดูดเลือด ชี้ให้เห็นว่าวิวัฒนาการของสัตว์กินเลือดมีความซับซ้อนมากกว่าที่เคยคาดการณ์ไว้
อันเดร เนล ผู้เชี่ยวชาญจากพิพิธภัณฑ์ประวัติศาสตร์ธรรมชาติแห่งชาติในกรุงปารีส ระบุว่านักวิทยาศาสตร์กำลังจะศึกษา “ประโยชน์” ของลักษณะการกินเลือดในยุงตัวผู้โบราณ และสาเหตุที่มันหยุดดูดกินเลือดในเวลาต่อมา
🎧 อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech
ภาพจาก : สถาบันธรณีวิทยาและบรรพชีวินวิทยาหนานจิง สังกัดสถาบันบัณฑิตวิทยาศาสตร์จีน เผยตัวอย่างฟอสซิลของยุงตัวผู้โบราณ และชิ้นส่วนอำพันที่ห่อหุ้มยุงตัวนี้
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : Xinhua