“คำถามเชิงตรรกะ” เป็นเรื่องสนุกเสมอในทางวิทยาศาสตร์ เพราะคำถามเหล่านี้จะทำให้เราได้คิดเกี่ยวกับสิ่งที่รู้ในมุมมองที่ต่างออกไป ได้ใช้จินตนาการ ด้วยเหตุนี้ จึงอยากให้เราลองนึกภาพตามว่า ถ้า “โลก” หยุดหมุนกะทันหัน จะเกิดอะไรขึ้นกันนะ
ว่าแล้วก็ลองจินตนาการเล่น ๆ ว่า หากการหมุนของโลกหยุดลงหนึ่งวินาทีที่เส้นศูนย์สูตร จะเปรียบเสมือนกับเรากำลังอยู่ในรถที่เคลื่อนที่ด้วยความเร็ว 1,670 กิโลเมตรต่อชั่วโมง แล้วเหยียบเบรก หากเราอยู่ในอาคารก็จะถูกเหวี่ยงเข้าไปในกำแพงด้านตะวันออกที่ใกล้ที่สุด พร้อมกับสัมผัสความเร่งของแรงโน้มถ่วงโลกที่มากกว่าปกติถึง 47 เท่า
ถึงแม้ “โลก” อาจหยุดนิ่ง แต่ทุกสิ่งทุกอย่างจะยังเคลื่อนที่ด้วยความเร็วเท่ากับที่โลกหมุนก่อนหน้านี้ ซึ่งรวมถึงบรรยากาศและมหาสมุทรทั้งหมด โดย “ลม” เพียงอย่างเดียวก็อาจเร็วและแรงกว่าลมที่เร็วที่สุดที่เคยบันทึกไว้ (408 กม./ชม.) ถึง 4 เท่า จากนั้นเราอาจจะได้พบกับ “คลื่นสึนามิ” ขนาดใหญ่ทำลายทุกสิ่งที่ลมไม่สามารถทำลายได้ (ซึ่งอาจจะมีไม่มากนัก)
โดยความเสียหายที่เกิดขึ้นจะรุนแรงมากขึ้นเมื่อเราเข้าใกล้เส้นศูนย์สูตร แต่ในระยะยาวการอยู่ใกล้ขั้วโลกก็ไม่อาจช่วยเราได้เช่นกัน เนื่องจากการหมุนของโลกจะทำให้ส่วนตรงกลางนูนขึ้น ดังนั้น “ขั้วโลก” จึงอยู่ใกล้ศูนย์กลางของโลกมากกว่าเส้นศูนย์สูตรประมาณ 21 กิโลเมตร หากไม่มีการหมุน มหาสมุทรจะย้ายเข้าหาขั้วโลกซึ่งเป็นบริเวณที่มีแรงโน้มถ่วงแรงที่สุด ส่งผลให้เกิดแผ่นดินไหวรุนแรง ทวีปขนาดใหญ่หนึ่งทวีปจะขวางเส้นศูนย์สูตร แล้วทำให้สองมหาสมุทรสองแยกออกจากกัน
ตามรายงานของ Esri บริษัททำแผนที่และวิเคราะห์ เผยว่า ถ้าโลกหยุดหมุน มหาสมุทรจะทำให้ทวีปยุโรปและรัสเซียส่วนใหญ่อยู่ใต้น้ำ กรีนแลนด์และแคนาดาทั้งหมดจะจมอยู่ใต้น้ำ ขณะที่ ชิคาโก ซีแอตเทิล และบอสตัน นิวยอร์ก ของสหรัฐฯ จะยังอยู่ใกล้มหาสมุทร แต่อยู่ในทิศทางที่ต่างออกไป ส่วนในซีกโลกใต้ มหาสมุทรจะปกคลุมพื้นที่ขนาดใหญ่ของอาร์เจนตินา ชิลี นิวซีแลนด์ รวมถึงทวีปแอนตาร์กติกาทั้งหมด
ทั้งหมดนี้คือเรื่องสมมุติ ซึ่งเรายังไม่ต้องกังวลว่าโลกจะหยุดหมุนจริง แต่หากเป็นเรื่องโลกหมุนช้าลงนั้นจริงแท้แน่นอน โดยในศตวรรษที่ผ่านมา ความยาวของวันโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 1.7 มิลลิวินาที และแนวโน้มในระยะยาวอาจเกิดผลกระทบกับแรงน้ำขึ้นน้ำลงระหว่างโลกกับดวงจันทร์ แต่ทั้งนี้ความยาวของวันยังมีความผันผวนเนื่องจากผลกระทบอื่น ๆ ด้วย โดยนักวิทยาศาสตร์ลองคาดการณ์ว่า หากเป็นเช่นนี้ต่อไป โลกจะใช้เวลา 18,500 ล้านปี ในการทำให้หนึ่งวันยาวนานเท่ากับหนึ่งปี
อัปเดตข้อมูลแวดวงวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี รู้ทันโลกไอที และโซเชียลฯ ในรูปแบบ Audio จาก AI เสียงผู้ประกาศของไทยพีบีเอส ได้ที่ Thai PBS
แหล่งข้อมูลอ้างอิง : iflscience
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech