จะทำอย่างไร ? หากต้องตกอยู่ในเหตุการณ์ไม่คาดคิดและเสี่ยงอันตราย เปิด "เทคโนโลยีช่วยชีวิต" หาทางเอาตัวรอดเมื่อประสบเหตุจมน้ำ
ประเทศไทยมีแม่น้ำลำคลองอยู่หลายสาย และมักได้เห็นข่าวเหตุการณ์พลัดตกน้ำและเกิดการจมน้ำเสียชีวิตอยู่บ่อยครั้ง คงจะดีไม่น้อยหากมีเทคโนโลยีเข้ามาช่วยทั้งป้องกันไม่ให้จมน้ำ และช่วยชีวิตเมื่อมีคนจมน้ำ ซึ่งในปัจจุบันเทคโนโลยีได้เข้ามามีบทบาทสำคัญในการช่วยเหลือและป้องกันเหตุการณ์ดังกล่าวมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยมีเทคโนโลยีที่น่าสนใจ ดังนี้
5 เทคโนโลยีช่วยชีวิต "คนจมน้ำ"
- เสื้อชูชีพอัจฉริยะ เป็นเสื้อชูชีพที่มีระบบเซนเซอร์ตรวจจับการจมน้ำของผู้สวมใส่ และส่งสัญญาณเตือนไปยังผู้ช่วยเหลือหรือหน่วยงานกู้ภัยในคลื่นความถี่ระดับต่าง ๆ เพื่อขอความช่วยเหลืออัตโนมัติ พร้อมสัญญาณไฟแสดงตำแหน่งเพื่อให้สังเกตได้ง่าย
- นาฬิกาอัจฉริยะ นาฬิกาบางรุ่นจะมีฟังก์ชันตรวจจับการจมน้ำ หากผู้สวมใส่อยู่ในน้ำนานเกินไป นาฬิกาจะทำการส่งสัญญาณเตือนหรือแจ้งตำแหน่งไปยังผู้ติดต่อฉุกเฉินให้รับทราบ
- ริสต์แบนด์ติดตามตัว เป็นสายรัดข้อมือมี GPS ในตัวที่สามารถใช้ติดตามบุคคลได้ และผู้ใช้สามารถขอความช่วยเหลือพร้อมระบุตำแหน่งได้ ทำให้ผู้ดูแลสามารถเข้าให้การช่วยเหลือได้หากเกิดสถานการณ์ฉุกเฉิน
- โดรนกู้ภัย เป็นเทคโนโลยีที่นิยมนำมาใช้เพื่อค้นหาผู้สูญหาย เนื่องจากโดรนสามารถบินสำรวจพื้นที่กว้างเพื่อให้เกิดการค้นหาที่รวดเร็ว และสามารถโยนอุปกรณ์ช่วยชีวิตให้กับผู้ประสบภัยได้ เช่น เชือก หรือเสื้อชูชีพ เป็นต้น
- เซนเซอร์ตรวจจับการจมน้ำ ใช้ติดตั้งในสระว่ายน้ำหรือบริเวณแหล่งน้ำสาธารณะ เช่น ลำธาร คลอง หรือบึง เพื่อตรวจจับการเคลื่อนไหวที่ผิดปกติและส่งสัญญาณเตือนเพื่อขอความช่วยเหลือ
เทคโนโลยีข้างต้นเป็นเพียงเครื่องมือช่วยเหลือเมื่อเกิดเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดเท่านั้น แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการระมัดระวัง และมีสติอยู่เสมอ รวมถึงควรปฏิบัติตามกฎระเบียบของสถานที่ และสวมเสื้อชูชีพทุกครั้งเมื่อทำกิจกรรมทางน้ำเพื่อให้เกิดความปลอดภัย เพราะถึงแม้เทคโนโลยีจะถูกพัฒนาเพื่อป้องกันและรักษาความปลอดภัยให้กับมนุษย์ได้มากขนาดไหนก็ไม่อาจทดแทนการระมัดระวังได้
เรียบเรียงโดย ขนิษฐา จันทร์ทร
ที่มาข้อมูล: ku, angeleye, github, thaipbs, smethailandclub
“รอบรู้ ดูกระแส ก้าวทันโลก” ไปกับ Thai PBS Sci & Tech